วันนี้ (25 เม.ย.2566) นายอนุชา บูรพชัยศรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือประชาชนระยะเร่งด่วนในส่วนของค่าไฟฟ้า หลังได้รับผลกระทบจากต้นทุนราคาเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับสภาพอากาศร้อนจัด ส่งผลให้เกิดความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ จะนำเสนอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาให้ความเห็นชอบการใช้งบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 169 (3) กำหนด สำหรับแนวทางการช่วยเหลือมีดังนี้
1. มาตรการต่อเนื่องของกระทรวงพลังงาน ที่ดำเนินการในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย.2566 (การช่วยเหลือค่าไฟฟ้าของกลุ่มเปราะบาง) โดยมีแนวทางช่วยเหลือค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน โดยให้ส่วนลดแบบขั้นบันได
สำหรับงวดเดือน พ.ค.-ส.ค.2566 กำหนดให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ในอัตราส่วนลดเดียวกันกับช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย.2566
1.1 ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 1-150 หน่วยต่อเดือน ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าจำนวน 92.04 สตางค์ต่อหน่วย โดยมีผลต่างค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (Ft) เรียกเก็บและส่วนลด 1.39 สตางค์ต่อหน่วย
1.2 ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 151-300 หน่วยต่อเดือน ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าจำนวน 67.04 สตางค์ต่อหน่วย โดยมีผลต่างค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่า Ft เรียกเก็บและส่วนลด 26.39 สตางค์ต่อหน่วย
ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ได้รับการช่วยเหลือรวม 18.36 ล้านคน ใช้งบประมาณรวมในกรอบไม่เกิน 7,602 ล้านบาท สำหรับงวดเดือน พ.ค.-ส.ค.2566 จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
2. มาตรการช่วยเหลือประชาชนระยะเร่งด่วน ให้ส่วนลดแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย จำนวน 150 บาทต่อราย โดยกำหนดให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวนภาษีมูลค่าเพิ่ม ในรอบบิลเดือน พ.ค.2566 ซึ่งเป็นช่วงเดือนที่มีสถิติความต้องการไฟฟ้าสูงสุดของประเทศและจะเริ่มลดลงในเดือน มิ.ย.
สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน จำนวน 23.40 ล้านราย โดยใช้งบประมาณรวมในกรอบไม่เกิน 3,510 ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
บอร์ด กกพ.เคาะลดค่าไฟงวด พ.ค.-ส.ค.เหลือ 4.70 บาท/หน่วย