เกาหลีใต้-สหรัฐ บรรลุข้อตกลงต่อต้านนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ

ต่างประเทศ
29 เม.ย. 66
08:16
1,395
Logo Thai PBS
เกาหลีใต้-สหรัฐ บรรลุข้อตกลงต่อต้านนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กระชับมิตรกันมากขึ้นไปอีกระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ เมื่อ ปธน.ยุน ซอก ยอล ไปเยือนสหรัฐฯ ทั้ง 2 ฝ่ายบรรลุข้อตกลงด้านความมั่นคงเกี่ยวกับการต่อต้านอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ส่วนจีนจับตามองการเยือนครั้งนี้ เตือนว่าเป็นการเร่งความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี

เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2566 ปธน.ยุน ซอก ยอล แห่งเกาหลีใต้ เยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ พร้อมด้วยสุภาพสตรีหมายเลข 1 เพื่อพบกับ ปธน.โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ

นี่คือการเยือนสหรัฐฯ ของผู้นำเกาหลีใต้ครั้งแรกในรอบ 12 ปี ซึ่งเต็มไปด้วยกำหนดการมากมาย ในโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูตสองฝ่ายครบ 70 ปี

ผู้นำสหรัฐฯ และผู้นำเกาหลีใต้ ได้ไปเยือนอนุสรณ์สถานรำลึกทหารผ่านศึกเกาหลี ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อรำลึกถึงสงครามเกาหลีที่เกิดขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1950-1953 ที่ช่วงเวลานั้นมีทหารอเมริกัน 36,634 นาย และเกาหลี 7,174 นายเสียชีวิต ในช่วงสงครามภายใต้การบัญชาการรบโดยสหรัฐฯ

วันถัดมา โจ ไบเดน และ ยุน ซอก ยอล หารือในการประชุมสุดยอดร่วมกันที่ทำเนียบขาว
การประชุมหารือกันหลายเรื่อง ซึ่งเกี่ยวกับความมั่นคงในภูมิภาค ช่องแคบไต้หวัน คาบสมุทรเกาหลี และยูเครน

ในการแถลงข่าวร่วมกันของผู้นำทั้งสอง สหรัฐฯ ให้คำมั่นต่อเกาหลีใต้ว่าจะพิจารณาแผนการนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ที่เกี่ยวกับความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือ โดยประกาศสนับสนุนเกาหลีใต้ ผ่านข้อตกลง ปฏิญญาวอชิงตัน ซึ่งรวมถึงการขยายระบบต่อต้านนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ซึ่ง ปธน.เกาหลีใต้ ยุน ซอก ยอล ประกาศว่าเห็นพ้องที่จะเพิ่มระบบป้องกันของเกาหลีใต้ เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ

อ่านข่าวอื่นๆ : เครื่องบินอพยพ "ตุรกี" ถูกยิงขณะลงจอดสนามบินนอกคาร์ทูม

นอกจากนี้ ผู้นำเกาหลีใต้ได้มีโอกาสพบกับประธานสภาผู้แทนราษฎรของ สหรัฐฯ เควิน แมคคาร์ธีย์ และได้ไปกล่าวสุนทรพจน์ในสภาคองเกรสของ สหรัฐฯ ด้วย โดยได้ย้ำถึงการสร้างประเทศเกาหลีจากซากสงคราม ที่ทุกขั้นตอนมีสหรัฐให้การสนับสนุน

เกาหลีใต้มีบทบาทอย่างมากในฐานะที่เป็น 1 ในเสาหลักของยุทธศาสตร์ สหรัฐฯ ในเอเชีย ซึ่งส่งผลสนับสนุนพลังทางเศรษฐกิจให้กับเกาหลีใต้ด้วย

ก่อนหน้าที่ผู้นำทั้ง 2 จะพบกัน ได้มีการซ้อมรบร่วมกันครั้งใหญ่ระหว่างกองทัพสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ และสร้างความไม่พอใจอย่างมากต่อเกาหลีเหนือ

ขณะที่การทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือมีบ่อยครั้งมากขึ้นในช่วงหลัง โดยเฉพาะตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา บางครั้งการทดสอบไปได้ไกลถึงบางเมืองในสหรัฐฯ

อาวุธที่มีความก้าวหน้ามากขึ้นของเกาหลีเหนือ ส่งผลให้เกิดคำถามว่า สหรัฐฯ จะใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อต่อต้านเกาหลีใต้หรือไม่ หรือระบบที่เรียกว่าระบบขยายการต่อต้านอาวุธนิวเคลียร์

การพบกันครั้งนี้ได้ผลออกมาก็คือ 2 ข้อหลักคือ ปฏิญญาวอชิงตัน สหรัฐฯ จะดูแผนการต่อต้าน และตอบโต้กลับ การใช้อาวุธนิวเคลียร์ โดยมี คณะทำงานหารือนิวเคลียร์ สหรัฐฯ-เกาหลีใต้

และตามข้อตกลงนี้สหรัฐฯ จะส่งเรือดำน้ำติดขีปนาวุธไปที่เกาหลีใต้ เป็นเรือดำน้ำประเภทนี้ลำแรกที่จะไปเยือนเกาหลีใต้ นับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1980

อ่านข่าวอื่นๆ : "ผู้นำจีน-ยูเครน" หารือทางโทรศัพท์ครั้งแรกตั้งแต่สงครามปะทุ

แต่สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ใช่ว่าความสัมพันธ์จะราบรื่น เพราะกรณีที่เอกสารลับของสหรัฐรั่วไหล พบข้อมูลว่าเกาหลีใต้เป็น 1 ในผู้ผลิตกระสุนปืนใหญ่ ปฏิเสธที่จะส่งอาวุธไปสนับสนุนยูเครน เพราะห่วงความสัมพันธ์กับรัสเซีย

อีกด้านจีนจับตามองการกระชับสัมพันธ์เรื่องนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้

บทบรรณาธิการของ Global Times ระบุว่า ปธน.ยุน ซอก ยอล อาจจะคิดว่าการบรรลุปฏิญญาวอชิงตัน คือความสำเร็จสูงสุดในการเยือนสหรัฐฯ เรื่องที่จะตั้งคณะทำงานนิวเคลียร์ และสหรัฐฯจะส่งเรือดำน้ำไปเกาหลีใต้ เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 40 ปี เท่ากับว่าเกาหลีใต้ต้องการนำระบบนิวเคลียร์ขยายของสหรัฐฯกลับมา ซึ่งเป็นไปไม่ได้ และกลับจะยิ่งส่งผลให้เกิดความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี

ถ้าเกาหลีใต้ต้องการความมั่นคง ควรจะขอให้ สหรัฐฯ ใช้นโยบายที่รับผิดชอบต่อเกาหลีเหนือ และหารือร่วมกันเพื่อปลดโครงการนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี การนำอาวุธนิวเคลียร์ของ สหรัฐฯ เข้ามาในคาบสมุทร จะยิ่งเร่งเร้าเกาหลีเหนือ และยิ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในคาบสมุทรเกาหลี

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง