เลือกตั้ง2566 : "อุ๊งอิ๊ง" ลั่นเลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ ไม่ต้องรอลุ้นแบบปี 62

การเมือง
3 พ.ค. 66
12:15
518
Logo Thai PBS
เลือกตั้ง2566 : "อุ๊งอิ๊ง" ลั่นเลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ ไม่ต้องรอลุ้นแบบปี 62
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"แพทองธาร" แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เปิดใจหลังคลอด ว่าการสู้ศึกเลือกตั้งในโค้งสุดท้ายต้องเลือกให้แลนด์สไลด์ สร้างความเปลี่ยนแปลงทันที ไม่ต้องลุ้นแบบปี 62 ชนะแต่ตั้งรัฐบาลไม่ได้

วันนี้ (3 พ.ค.2566) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี เปิดใจหลังคลอดบุตรชายและความพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้งอีกครั้ง โดยระบุว่า น้องธาษิณใช้วิธีการผ่าคลอด เนื่องจากมีเหตุขัดข้อง แพทย์จึงแนะนำว่า ผ่าคลอดจะปลอดภัยที่สุดจึงตัดสินใจผ่าคลอดเลย ไม่มีฤกษ์​ ทันทีที่ได้ยินเสียงลูกร้อง น้ำตาก็ไหลเลยทั้ง 2 ข้าง ดีใจที่แข็งแรงและปลอดภัยดี เพราะตนก็กลัวเรื่องการผ่าคลอดมาก

ส่วนชื่อน้องตั้งเองกับมือ เป็นส่วนผสมของชื่อของคนในครอบครัวทั้งคุณหญิงพจมาน ดามาพงษ์ และนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งภูมิใจมากจริง ๆ แม้จะไม่ได้มีความหมายอะไร แต่ก็ไม่ได้ซีเรียส ชอบชื่อที่ผูกพันกับคนในบ้านมากกว่า ดูแล้วอบอุ่นดี มาจากความชอบมากกว่าเรื่องความหมาย

ส่วนหน้าตาของนางธาษิณ ที่หลายคนบอกว่าหน้าเหมือนนายทักษิณ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ความจริงแล้วนายทักษิณได้พูดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ลูกผู้ชายมักจะหน้าเหมือนแม่เมื่อหน้าเหมือนแม่ก็จะหน้าเหมือนคุณตาด้วย ซึ่งตนก็มองไม่ออกว่าหน้าเหมือนใครกันแน่ อย่างไรก็ตาม คาดว่า 4-5 เดือน น่าจะพาหลานไปหาคุณตาได้

เมื่อถามว่านายทักษิณ ชินวัตร ได้โพสต์ข้อความอยากกลับมาเลี้ยงหลาน เจอกันเร็ว ๆ นี้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ครอบครัว ทุกคนตื่นเต้น เพราะเป็นหลานคนที่ 7 ซึ่งคุณพ่อก็คงตื่นเต้นมาก ๆ และคงหวังอยากจะมีโมเมนต์อยู่หน้าห้องคลอด ตนก็เคยวางแผนว่า จะไปคลอดประเทศที่พ่ออยู่ เพื่อให้มีความรู้สึกมาเฝ้าลูกคลอดเพราะคุณตาก็คงอยากเห็นหลานในวันที่คลอดแต่ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร

เมื่อถามว่า นายทักษิณ พูดถึงเรื่องกลับบ้านหลายครั้ง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนมองเป็นเรื่องของความหวังมากกว่า แน่นอนในสิ่งที่เขาพูดอาจจะมีผลกระทบในเรื่องของการเมืองแต่ในเรื่องทางครอบครัว มันไม่ผิดที่จะหวัง โดยเฉพาะในวันที่บ้านมีเรื่องดี ๆ และส่วนตัวก็ยังไม่ได้คุยกับพ่อเรื่องกลับบ้าน ทุกวันคุยกันแต่เรื่องของหลาน

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยกำลังเดินสายหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย การประกาศกลับบ้านของคุณทักษิณ ชินวัตร อาจจะกระทบต่อความเชื่อมั่นหรือฐานคะแนนเสียงบางส่วน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตัวเองมองการกลับบ้านของพ่อไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพรรคเพื่อไทย

ยอมรับว่ามันแยกยากเพราะนายทักษิณ เป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย แต่ในความเป็นลูกของตนตอนนี้ก็ไม่สามารถบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกันได้ มันจึงเป็นเรื่องที่มีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกันมา

ที่สำคัญคุณพ่อพูดตลอดว่าอยากกลับมาเลี้ยงหลานแต่ไม่เคยบอกว่าอยากกลับมาเป็นนายกฯ นี่คือเรื่องจริง แล้วมันไม่เกี่ยวกันเลย แต่บางคนก็พยายามผูกให้มันเกี่ยวกัน

ขอให้เข้าใจพื้นฐานความเป็นมนุษย์ว่ามนุษย์ต้องมีความหวัง นายทักษิณ ก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องดีที่ท่านยังมีความหวังอยู่ เพราะมันจะส่งผลต่อสุขภาพ จิตใจยังดี คนที่เชียร์ก็มีความหวังไปด้วย 

ขณะนี้เข้าสู่การเลือกตั้งในโค้งสุดท้าย และเหลืออีก 11 วันจะมีการเลือกตั้งทุกคนในพรรคเพื่อไทยก็กระจายไปทำหน้าที่ที่สำคัญอยู่ ซึ่งขณะนี้ก็จะเดินหน้าย้ำเรื่องนโยบายต่อไป และต้องการให้ประชาชนเห็นภาพชัดเจนว่า เราจะทำเมื่อไร เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจของประชาชนในการเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวยังสอบถามถึงกระแสความนิยมของพรรคก้าวไกล เพิ่มมากขึ้น จะมีผลกระทบกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ โดย น.ส.แพทองธาร ระบุว่า โพลบางอันเชื่อถือได้ บางอันเชื่อถือไมได้ ประชาชนต้องใช้วิจารณญาณในการดูนโยบายของพรรคว่า พรรคไหนที่จะสามารถเปลี่ยนอนาคตของประชาชนได้จริง ๆ

เราลำบากมา 8-9 ปีแล้ว เพราะฉะนั้นเราจะไม่รอแล้ว เราจะเลือกตั้งเพื่อเปลี่ยนประเทศจริง ๆ เปลี่ยนได้เลย ไม่ใช่ต้องรออีก 4 ปีถึงจะได้เปลี่ยน

น.ส.แพทองธาร ยังกล่าวว่า เลือกตั้งให้มีระบบเลือกตั้งให้มียุทธศาสตร์ เลือกตั้งให้พรรคเพื่อไทยชนะถล่มทลายเพื่อให้สามารถเปลี่ยนได้เลย ไม่ต้องไปรอลุ้น เหมือนปี 62 ที่เราได้เสียงข้างมาก แต่เราจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ อันนั้นคือเลือกเพื่อรอลุ้น แต่เราต้องไม่ลุ้นแล้ว ประเทศรอลุ้นไม่ไหว เราต้องเปลี่ยนเลย ฝากพี่น้องประชาชนว่าเป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนต้องทำเลย

เราต้องเลือกตั้งเพื่อเปลี่ยนจริง ๆ ครั้งนี้สำคัญมากที่เราต้องเลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์ แน่นอนโพลขึ้นทุกพรรค เลือกเพื่อให้สิ่ง อีก 10 กว่าวันจะเลือกตั้งแล้ว ทุกพรรคก็ทำเต็มที่ โพลขึ้นทุกพรรคก็ทำเต็มที่

น.ส.แพทองธารยังระบุว่า ถ้าออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ สิ่งเดียวที่ทำได้คือ นำเสนอตัวเองเพราะไม่สามารถดีดนิ้วทีเดียวแล้วจะเปลี่ยนแปลงให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ตนเองต้องการ

ต้องการที่จะออกไปเพื่อพบพี่น้องประชาชน เท่าที่ทำได้อย่างเต็มความสามารถ และส่งตัวแทนของพรรคด้วย เพราะว่าพรรคมีแคนดิเดตนายกฯถึง 3 ท่าน ที่พร้อมจะเป็นนายกฯ ทำเพื่อประชาชน ก็ทำเต็มที่ทุกอย่างที่จะทำได้

ทั้ง 3 คนพร้อมหมด ตัวเองก็พร้อมที่จะเป็นนายกฯ คุณเศรษฐาก็ประกาศพร้อมที่จะเป็นนายกฯ ตัวเลือกที่ดีที่สุด ก็อยู่ที่ประชาชนจะเป็นคนเลือก

ผู้สื่อข่าวยังถามถึงกระแสที่บอกว่าพรรคเพื่อไทยยังไม่ชัดเจนทางการเมืองโดย โดยเฉพาะกรณีการจับมีอกับพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติโดย น.ส.แพทองธารระบุว่า ไม่ทราบว่าเป็นกระแสของพรรคคู่แข่งหรือเปล่าที่พยายามปั่นกระแสว่าเราไม่ชัดเจน ทุกคนออกไปพูดไม่เพียงตนเองเท่านั้น นายเศรษฐาก็พูด ผู้ใหญ่ในพรรคก็พูดว่าเราจะไม่จับมือ แต่ก็พยายามปั่นกันอยู่ว่าไม่ชัดเจน ก็เชื่อว่าเป็นเทคนิคทางการเมือง เลยไม่ทราบว่าวันนี้ยืนยันแบบนี้ กระแสจะยังปั่นขึ้นอยู่มั้ย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง