วันนี้ (8 พ.ค.2566) สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า จากสภาวะอากาศที่ร้อนมากในช่วงวันหยุดยาว วันที่ 4 - 7 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพื่อคลายร้อน อีกทั้งเครื่องทำความเย็นประเภทต่าง ๆ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น พัดลม เป็นต้น ต้องใช้ปริมาณไฟฟ้าที่มากขึ้น เพื่อให้ทำความเย็นได้มากยิ่งขึ้นตามภาวะอากาศที่ร้อนจัด
เมื่อวันที่ 6 พ.ค.2566 ช่วงเวลา 21.41 น. ได้เกิดสถิติความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของระบบไฟฟ้า หรือ ค่าพีค (Peak) ใหม่ อยู่ที่ 34,826.50 เมกะวัตต์ สูงกว่าค่าพีคเดิม เมื่อปีที่แล้ว วันที่ 28 เม.ย.2565 เวลา 14.30 น. ที่ 33,177.30 เมกะวัตต์
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMho1iUdQk5GZZsOnUcdrwrRUMFfT.jpg)
สังเกตทำไมบิลค่าไฟแพงขึ้น?
สำนักงาน กกพ.ขอเชิญชวนผู้ใช้ไฟร่วมกันประหยัดการใช้พลังงาน พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนได้มีการตรวจสอบ "หน่วยการใช้ไฟฟ้า" จากการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในบิลค่าไฟรอบเดือน พ.ค.2566 ว่ามีความผิดปกติด้วยหรือไม่
เพราะค่าไฟที่เพิ่มขึ้นอาจจะเป็นได้จากทั้งการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าผิดปกติ และอีกสาเหตุหนึ่ง คือ เกิดจากสภาวะอากาศ ที่ทำให้หน่วยการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นกว่าเดิม ซึ่งส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMho1iUdQk5GZZsOrDiD80Z7EluCA.jpg)
อัตราค่าไฟฟ้าแบบก้าวหน้า
ปัจจุบันผู้ใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่จะได้รับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าแบบอัตราก้าวหน้า คือ ยิ่งใช้ไฟฟ้าจำนวนหน่วยมากขึ้น ก็จะถูกเรียกเก็บค่าไฟในอัตราที่แพงขึ้นด้วย เพื่อสะท้อนต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่สูงขึ้น
กระบวนการผลิตไฟฟ้าของไทย ผลิตไฟฟ้าจากต้นทุนที่มีราคาถูกก่อน และเมื่อมีการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นก็จะผลิตไฟฟ้าจากต้นทุนที่มีราคามากขึ้น แม้ค่าไฟฟ้าในงวดเดือน พ.ค. - ส.ค. 2566 จะไม่ได้ปรับขึ้น ซึ่งเรียกเก็บในอัตราค่าไฟฟ้า 4.70 บาทต่อหน่วยก็ตาม
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMho1iUdQk5GZZsOpOAhfkpB3ZTt5.jpg)
ก่อนหน้านี้ ครม. มีมติเห็นชอบให้ขออนุมัติ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อใช้เงินงบประมาณในการดำเนินมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มเปราะบาง สำหรับงวดเดือน พ.ค. - ส.ค.2566 ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน จะได้รับส่วนลดแบบขั้นบันได กำหนดให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราส่วนลดเดียวกันกับช่วงเดือน ม.ค. - เม.ย.2566 ดังนี้
1. ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 1-150 หน่วยต่อเดือน ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าจำนวน 92.04 สตางค์ต่อหน่วย โดยมีผลต่างค่าไฟฟ้า ตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (ค่า Ft) เรียกเก็บและส่วนลด 1.39 สตางค์ต่อหน่วย
2. ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 151-300 หน่วยต่อเดือน ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าจำนวน 67.04 สตางค์ต่อหน่วย โดยมีผลต่างค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (ค่า Ft) เรียกเก็บและส่วนลด 26.39 สตางค์ต่อหน่วย
ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ได้รับการช่วยเหลือรวมทั้งสิ้นประมาณ 18.36 ล้านราย ใช้งบประมาณรวมในกรอบไม่เกิน 7,602 ล้านบาท