ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ภาคประชาสังคมเชื่อไฟฟ้าสำรองล้นระบบ ต้นเหตุค่าไฟฟ้าแพง

เศรษฐกิจ
12:20
1,268
ภาคประชาสังคมเชื่อไฟฟ้าสำรองล้นระบบ ต้นเหตุค่าไฟฟ้าแพง
"การสำรองไฟฟ้า" ช่วยสร้างความมั่นคงทางพลังงาน แต่การสำรองไฟฟ้าที่ล้นระบบ ทำให้ประชาชนต้องแบกภาระค่าไฟฟ้าที่หน่วยงานรัฐจัดหา แม้ไม่ได้มีการใช้งานจริง ซึ่งนักวิชาการและภาคประชาสังคมหลายคนเชื่อว่าไฟฟ้าสำรองที่ล้นระบบ เป็นต้นเหตุค่าไฟฟ้าแพง

วันนี้ (11 พ.ค.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 2 ปีที่ผ่านมา มีการพูดถึงไฟฟ้าสำรองล้นระบบกันอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือ สภาองค์กรของผู้บริโภค โดยให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าเอกชนเกินความต้องการอยู่ในระบบเป็นจำนวนมาก สิ่งที่ตามมาคือมีปริมาณไฟฟ้าสำรองมากถึงร้อยละ 40-60 ทั้งที่มีการศึกษาว่าตัวเลขเหมาะสมคือ ร้อยละ 15 เมื่อมีไฟฟ้าสำรองส่วนเกิน ภาระส่วนนี้จะถูกนำไปบวกในบิลค่าไฟฟ้าของประชาชน

ภาระอีกทอดที่ผู้บริโภคไฟฟ้าต้องร่วมรับผิดชอบ คือ "ค่าความพร้อมจ่าย" ซึ่งรัฐต้องจ่ายเงินค่าดำเนินงานให้โรงไฟฟ้าเอกชนตามสัญญาซื้อไฟฟ้าระยะยาว แม้จะไม่มีการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าในเดือนนั้น โดยสาเหตุที่ทำสัญญาลักษณะนี้ก็เพื่อจูงใจให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุนผลิตไฟฟ้า และลดการก่อหนี้โดยภาครัฐ ซึ่งมีมูลค่าต่อปีหลักหมื่นล้านบาท

ในงานสัมมนา "ไฟฟ้าสำรองล้นระบบ ทำค่าไฟแพง ใครรับผิดชอบ" นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา รองเลขาธิการองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า ปัจจุบันการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไม่ใช่ผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ของไทยอีกต่อไป เพราะมีสัดส่วนการผลิตเพียงร้อยละ 34-35 เท่านั้น

ขณะนี้กลายเป็นว่าภาครัฐต้องรับซื้อไฟฟ้าจากภาคเอกชน แล้วนำมาขายให้การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ก่อนจะขายให้ประชาชน ขณะที่ระบบสัญญาการรับซื้อและผลิตไฟฟ้ากระจุกตัวอยู่ที่ กฟผ. แต่ประชาชนไม่มีอำนาจต่อรอง ดังนั้นสิ่งที่รัฐต้องทำอันดับแรกหลังจากนี้คือกำหนดเพดานรับซื้อไฟจากเอกชน

ส่วนในระยะกลางและระยะยาว รัฐต้องทบทวนสัญญาการซื้อขายไฟฟ้าหรือยุติการอนุมัติโรงไฟฟ้าเอกชนแห่งใหม่ รวมถึงต้องสนับสนุนการนำเทคโนโลยีโซลาเซลล์มาใช้ เพื่อทำให้ประชาชนมีอำนาจต่อรอง เปลี่ยนจากสถานะผู้บริโภคมาเป็นผู้ผลิตไฟฟ้า สำหรับนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ในการแก้ปัญหาค่าไฟฟ้าแพง ส่วนตัวมองว่าเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะนโยบายมีความชัดเจน จับต้องได้

ขณะที่ ผศ.ประสาท มีแต้ม ประธานคณะอนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ พลังงานและสิ่งแวดล้อม สภาองค์กรของผู้บริโภค ระบุว่า การใช้พลังงานทางเลือกเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก และมีตัวอย่างมากมาย แต่นโยบายของไทยในช่วงที่ผ่านมากลับไม่ปรับตัวตาม ทั้งที่มีผลดีต่อเศรษฐกิจและสังคม

อย่างไรก็ตาม การปล่อยให้ค่าไฟฟ้าสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่ได้กระทบเพียงครัวเรือนและภาคธุรกิจเท่านั้น แต่จะทำให้ภาพรวมของประเทศไม่สามารถแข่งขันทางเศรษฐกิจกับนานาชาติได้

อ่านข่าวอื่นๆ

ยอดร้องเรียนค่าไฟฟ้าแพงพุ่ง 142 ราย

บอร์ด กกพ.เคาะลดค่าไฟงวด พ.ค.-ส.ค.เหลือ 4.70 บาท/หน่วย

สนพ.คาดค่าไฟ ก.ย.-ธ.ค. เหลือหน่วยละ 4.30-4.40 บาท