ชี้แจงปมทำโทษ ตร.สุไหงโก-ลก ยืนกลางแดดนับชั่วโมง

อาชญากรรม
23 พ.ค. 66
06:44
735
Logo Thai PBS
ชี้แจงปมทำโทษ ตร.สุไหงโก-ลก ยืนกลางแดดนับชั่วโมง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ผู้บังคับบัญชา ชี้แจงกรณีโซเชียลแชร์ภาพ-ข้อความระบุตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก ถูกทำโทษด้วยการให้ถอดเสื้อ ถอดหมวก ถอดรองเท้า ยืนกลางแดดนานเป็นชั่วโมง บางคนเป็นลมต้องหามส่ง รพ. ไม่เป็นความจริง ยืนยันลงโทษตามระเบียบ ไม่ใช้ความรุนแรง

จากกรณีเฟซบุ๊กเพจหนึ่งแชร์ภาพและข้อความในเชิงตั้งคำถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตำรวจกลุ่มหนึ่งที่ต้องยืนกลางแดดนานนับชั่วโมง บางคนหน้ามืด บางคนตัวแดง บางคนมีรอยไหม้ บางคนมีตุ่มพุพองด้านหลัง ต้องนอนคว่ำหน้าเพราะหลังไหม้ เพียงเพราะร้อยเวรคนหนึ่งไปหาเอกสารที่ห้องคดี แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบอยู่

ล่าสุด พ.ต.ท.คำพันธ์ แสนทวีสุข รอง ผกก.สอบสวน สภ.สุไหงโก-ลก และตำรวจที่ถูกลงโทษ ออกมาชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิด

จ.ส.ต.อดิศร สุขนวล ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.สุไหงโก-ลก ระบุว่า การลงโทษมีแค่ยืนตามระเบียบพักและยืนท่าตรง แต่ละท่าใช้เวลาเปลี่ยนท่าเกือบชั่วโมง และคนสั่งไม่ได้แตะเนื้อต้องตัว ส่วนข้อความที่ถูกแชร์ออกไปว่าเป็นลมล้มทั้งยืน ต้องหามส่งโรงพยาบาลนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะคนไหนไม่ไหวก็ขออนุญาตนั่งกับพื้น

ขณะที่ พ.ต.ท.คำพันธ์ กล่าวว่า เป็นการลงโทษในภาพรวม เพื่อให้เป็นมาตรฐานของการปฏิบัติงานร่วมกัน ซึ่งทำตามระเบียบ ไม่มีความรุนแรง หรือนอกเหนือจากวิธีการที่กำหนดไว้

ด้าน พ.ต.อ.ปรัชญา ไบเตะ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก ชี้แจงว่า พบข้อบกพร่องในการปฏิบัติ สาเหตุมาจากทางพนักงานสอบสวนหลายนาย พบว่า เจ้าหน้าที่ธุรการที่ปฏิบัติหน้าที่เขียนประจำวันไม่ได้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ และไม่สามารถติดต่อได้ บางครั้งพนักงานสอบสวนต้องเขียนประจำวันด้วยตนเอง และเจ้าหน้าที่ห้องคดีไม่อยู่ประจำห้องคดี ทำให้ไม่สามารถประสานงานเรื่องสำนวนได้ทันท่วงที

นอกจากนี้ ยังมีการลงข้อมูลระบบอาชญากรรมการผิดพลาดและไม่ครบ 100% ทำให้หลายครั้งที่ทางผู้บังคับบัญชาต้องระดมสายงานอื่นมาช่วยบันทึกข้อมูลของงานสอบสวน ซึ่งได้กำชับให้รับผิดชอบงานของตนเอง รวมถึงได้แนะนำการปฏิบัติและว่ากล่าวตักเตือนไว้แล้ว แต่การปฏิบัติยังไม่ดีขึ้น จึงมีการฝึกธำรงวินัยในครั้งนี้

ขณะที่ พล.ต.ต.อนุรุธ อิ่มอาบ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ได้ลงพื้นที่ สภ.สุไหงโก-ลก เพื่อพูดคุยกับตำรวจทั้ง 14 คน รวมถึงได้สอบถามอาการ และให้คำแนะนำเรื่องการลงโทษต้องเหมาะสม และใน 1 เดือนนี้ จะตามมาดูอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง