“รัฐคะยา” สันติภาพฉบับเมียนมา พื้นที่เล็ก แต่มีกลุ่มต่อต้าน 8 กลุ่ม ปฏิเสธเข้าสู่กระบวนการสันติภาพ

ภูมิภาค
25 พ.ค. 66
09:54
1,582
Logo Thai PBS
“รัฐคะยา” สันติภาพฉบับเมียนมา พื้นที่เล็ก แต่มีกลุ่มต่อต้าน 8 กลุ่ม ปฏิเสธเข้าสู่กระบวนการสันติภาพ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
รัฐคะยา หรือกะยา (ကယား) หรือ กะเหรี่ยงแดง -กะเรนนี (ကရင်နီ) เป็นรัฐเล็กๆ บนเนื้อที่ประมาณ 11,700 ตารางกิโลเมตร ประชากรประมาณ 270,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาติพันธุ์กะเหรี่ยงแดง รองลงมา คือ ไทใหญ่, ปะโอ และชาติพันธุ์เมียนมา หรือ พม่า ติดกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน ของป

พ.ศ.2418 อังกฤษกับพระเจ้ามินดง กษัตริย์เมียนมา ทำสนธิสัญญา ว่า กะเรนนี ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเมียนมาและอังกฤษ แต่รัฐธรรมนูญของสหภาพพม่า พ.ศ.2490 ได้กล่าวอ้างว่า รัฐกระเรนีเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพ เรียกว่ารัฐกะเหรี่ยงแดง และสามารถแยกตัวได้เมื่อครบ 10 ปี ทำให้เกิดกระแสคัดค้าน

กระทั่ง พ.ศ.2491 กองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยงแดง (Karenni National Army/KNPP) จึงถูกจัดตั้งเพื่อเรียกร้องเอกราชตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และ พ.ศ.2538 กลุ่ม KNPP ได้เจราจาหยุดยิงด้วยวาจากับกองทัพ แต่การเจรจาล้มเหลว 5 เดือนต่อมาจึงเกิดการสู้รบกันอย่างยาวนานถึงปัจจุบัน

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2564 กองทัพเมียนมา (Tatmadaw) ทำรัฐประหาร ประชาชนได้ออกมาต่อต้านเป็นกลุ่มแรกๆ ของประเทศ ไม่นานกลุ่มวิชาชีพทั้งภาครัฐ และเอกชนต่างๆ ได้รวมตัวหยุดการทำงาน ในแนวทาง "ขบวนการเคลื่อนไหวอารยะขัดขืน" (Civil Disobedience Movement: CDM)

จนถูกขนานนามว่า “การปฏิวัติฤดูใบไม้ผลิ” (Spring Revolution) จากนั้นกองทัพเมียนมาเริ่มใช้ความรุนแรง มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก

ความรุนแรงในหลายพื้นที่เริ่มปะทุเดือดเพิ่มขึ้น เมื่อกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ 10 กลุ่ม หนึ่งในนั้น คือ กองกำลังคะเรนนี (Karenni Army) ในสังกัดพรรคก้าวหน้าแห่งชาติคะเรนนี (Karenni National Progressive Party-KNPP) ออกมาสนับสนุน ประกาศยืนเคียงข้างประชาชน

และบางกลุ่มชาติพันธุ์ ได้ร่วมจัดตั้ง กองกำลังพิทักษ์ประชาชน (People’s Defence Force ,PDF) ให้กับประชาชนเพื่อต่อต้านรัฐบาลทหาร

“กลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหาร และเราที่มีเป้าหมายตรงกันในการเรียกร้องประชาธิปไตย” ถ้อยคำหนักแน่นของนายพลบีทู ผู้บัญชาการทหารสูงสุดกองทัพกะเหรี่ยงแดง Karenni Army ที่มักจะบอกกับประชาชน และมวลชนของ Karenni Army ในรัฐคะยา

เดือนพฤษภาคม 2564 รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ซึ่งแกนนำส่วนใหญ่ คือ สมาชิกพรรค NLD ประกาศนโยบายสนับสนุนกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (People’s Defense Force /PDF) โดยรัฐคะยาได้จัดตั้ง “กองกำลังป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยงแดง” หรือ Karenni Nationalities Defense Force(KNDF) เพื่อให้เป็นองค์กรกลางในการต่อสู้ของภาคประชาชน

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพกะเหรี่ยงแดง Karenni Army บอกว่า ปัจจุบันกองกำลังประชาชนในรัฐคะยา เริ่มไม่ขึ้นตรงกับกองกำลังป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยงแดง (KNDF)

รวมทั้งรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ( NUG ) ทำให้กลุ่มต่อต้านในรัฐคะยา มี 8 กลุ่ม เป็นชาวบ้าน หรือ PDF 7 กลุ่ม หรือ ใน 1 อำเภอจะมีกลุ่ม 1 กลุ่ม เพราะรัฐคะยามี 7 อำเภอ ที่เหลือ 1 กลุ่ม เป็นกองกำลังคะเรนนี

แต่ละกลุ่มทำงานในเงื่อนไขของกลุ่ม ไม่ฟังใครแล้ว ทั้งคนที่สอนยุทธวิธีให้ก็ไม่ฟัง ส่วน NUG ที่อยู่ไกล แทบไม่มีบทบาท เพราะชาวบ้านเขารวมเงินกับซื้ออาวุธได้แล้ว

มีคนสนับสนุนผ่านองค์กรต่างๆ ยุทธวิธี คือ ออกซุ่มยิงทหารตามฐานรอบหมู่บ้าน แล้วหนีกลับไปเป็นชาวบ้านตามเดิม ทหารทำอะไรไม่ได้ก็ใช้เครื่องบินถล่มบ้านเรือนชาวบ้าน อย่างนี้ยุ่ง คนที่กระทบที่สุด คือ ชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่อง นานหลายปีแน่นอน

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพกะเหรี่ยง KNPP กล่าว

อนาคตรัฐคะยา วันนี้ยังมองไม่เห็นทางออกของสันติภาพ เพราะกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) 7 กลุ่ม ไม่มีผู้นำที่ชัดเจน

ส่วนกองกำลังชาติพันธุ์กะเหรี่ยง KNPP กลุ่มที่ 8 ยืนยันไม่ขออยู่ในกระบวนการเจรจาสันติภาพ มาตั้งแต่สมัยอูเต็งเส่ง อดีตประธานาธิบดีเมียนมา ที่ริเริ่มการเจรจาสันติภาพเมื่อ พ.ศ.2558 เหตุผล คือ พวกเขาเคยเจรจาสันติภาพเมื่อ พ.ศ.2538

ขณะที่รัฐบาลทหารเมียนมา ยืนยันว่า ไม่มีนโยบายเจรจากับรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) และกองกำลังป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยงแดง (KNDF) เนื่องจากเป็นกลุ่มก่อการร้าย

รัฐยะยา วันนี้เต็มไปด้วยกลุ่มต่อต้านติดอาวุธ มากถึง 8 กลุ่ม และต่างปฏิเสธที่จะเข้าสู่กระบวนสันติภาพ อนาคตรัฐคะยาจะยังเป็นสนามรบของกองกำลัง 9 กลุ่ม นานอีกหลายปี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง