"วิโรจน์" เปิดข้อมูลส่วยสติกเกอร์ อ้างเงินสะพัดเกือบ 20,000 ล้านต่อปี

อาชญากรรม
29 พ.ค. 66
19:17
1,050
Logo Thai PBS
"วิโรจน์" เปิดข้อมูลส่วยสติกเกอร์ อ้างเงินสะพัดเกือบ 20,000 ล้านต่อปี
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"วิโรจน์" เปิดข้อมูล "ส่วยสติกเกอร์" อ้างเงินสะพัดเกือบ 20,000 ล้านบาทต่อปี จี้ขยายผลเอาผิดข้าราชการเกี่ยวข้อง

กลายเป็นเรื่องเขย่าวงการตำรวจทางหลวง เมื่อสติกเกอร์ตัวการ์ตูนติดบนรถบรรทุก ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์แทนใบเบิกทางการขนส่ง แลกกับการจ่ายเงินพิเศษ หรือ ส่วย 

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาเปิดเผยกรณีดังกล่าว อ้างว่า มีสติกเกอร์แปะหน้ารถบรรทุกเพื่อเบิกทางไม่ต้องชั่งน้ำหนักหรือหลีกเลี่ยงต่อการถูกตรวจสอบจากตำรวจ ก่อนตั้งข้อสงสัยว่าอาจเชื่อมโยงกับส่วยรถบรรทุกหรือไม่

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตัวเองได้รับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มรถบรรทุก บนเพจเฟซบุ๊กถึงประเด็นของสติกเกอร์ที่ติดไว้ที่รถบรรทุก ที่มีหลายรูปแบบ หลายเส้นทาง ระยะทาง ซึ่งมีการทำกันเป็นล่ำเป็นสัน ทำเป็นเรื่องปกติกันมาหลายสิบปี

ตัวเองมีโอกาสได้พูดคุยกับตำรวจท่านผู้ใหญ่บางท่านที่เกษียณไปแล้ว บอกว่าเห็นเรื่องดังกล่าวมาแล้วหลาย 10 ปี แต่ดูเหมือนไม่มีใครกล้าแตะเลย หรือผลประโยชน์ส่งถึงหรือไม่ ก็ไม่แน่ใจ เพราะตนเองก็ไม่กล้ายืนยัน แต่เข้าใจว่าพอผลประโยชน์มหาศาลแตะระดับหมื่นล้าน

เรียกว่า จ่ายตั้งแต่ต้นสายยันปลายสาย ตั้งแต่ท้ายโต๊ะยันหัวโต๊ะ พอผลประโยชน์เข้ากระเป๋าแบบทั่วถึง เลยไม่มีใครกล้าแตะ เพราะองคาพยพมันใหญ่เลยกลายเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพล

นายวิโรจน์ กล่าวว่า เราจะปล่อยให้เรื่องแบบนี้กลายเป็นเรื่องปกติของสังคมไทยไม่ได้ เพราะส่งผลกระทบในวงกว้าง ทำให้ผู้ประกอบการที่ทำอาชีพโดยสุจริต ต้องมาเบี้ยบ้ายรายทางแบบนี้ ทำให้ค่าขนส่งแพงขึ้น ราคาสินค้าอุปโภค บริโภคแพงขึ้น ประชาชนต้องมาแบกรับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการบางส่วนที่ได้หารือกับตนเอง ได้สะท้อนมาว่า เขาไม่ได้มีความสุขกับระบบแบบนี้ เพราะคนที่ประกอบธุรกิจโดยสุจริตก็ประกอบธุรกิจไม่ได้ ขณะที่คนที่ต้องจ่ายเงินแลกกับการบรรทุกน้ำหนักเกินได้ก็จริง แต่ก็ไม่คุ้มกับค่าซ่อมบำรุง ที่ต้องจ่ายแพงขึ้น และอายุการใช้งานรถบรรทุกที่ต้องสั้นลง

แล้วเมื่อจ่ายอะไรแบบนี้เหมือนต้องแบ่งกันจ่าย เพื่อสามารถบรรทุกสินค้าได้มากขึ้น และสุดท้ายก็ไปฟันราคา ไปตัดราคากันอยู่ดี ผู้ประกอบการขนส่งก็ไม่ได้กำไร รถชำรุดเร็ว ถนนก็ชำรุดเร็วขึ้น ประเทศชาติก็ต้องนำงบประมาณไปซ่อมบำรุงโดยไม่จำเป็น แทนที่จะนำเงินก้อนนี้ไปปรับปรุงสวัสดิการ

ขณะที่สติกเกอร์เหล่านี้ก็ใช้เพื่อเคลื่อนย้าย ขนย้ายสิ่งผิดกฎหมาย ลามไปหมด อีกอย่างสติกเกอร์แบบนี้ ไม่ใช่แค่ส่วยทางหลวงอย่างเดียว ลามไปถึงการค้ามนุษย์ แรงงานข้ามชาติ

รวมไปถึงศุลกากรที่ใช้ในการขนของผิดกฎหมาย ขนของหนีภาษี เข้ามาในประเทศ ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่ประกอบธุรกิจที่สุจริต ประเทศก็ต้องเสียโอกาสในการจัดเก็บรายได้ ปีหนึ่งหากนำมูลค่าส่วยทางหลวงประมาณ 10,000 ล้านบาท อาจถึง 20,000 ล้านบาทด้วยซ้ำ

สติกเกอร์มีมีหลายรูปแบบ ทั้งพระอาทิตย์ยิ้มแฉ่ง กระต่าย แพนดา ไจแอนท์ แอปเปิ้ล ดาว และสติกเกอร์ที่เขียนประโยคว่า เรารักประเทศไทย  

ขรก.น้ำดีแจ้งเบาะแส ไม่ทนคอร์รัปชัน 

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวจะเหมารวมข้าราชการทั้งหมดของกรมทางหลวงไม่ได้ เพราะเบาะแสหลายอย่างก็มาจากข้าราชการน้ำดี ที่เขาไม่ได้มีความสุขกับพฤติกรรมแบบนี้ ฉะนั้นเป็นแค่บางคน พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของตำรวจบางนายเท่านั้น เพราะตำรวจทางหลวง

ส่วนใหญ่เขาก็อึดอัดกับการต้องมาตรวจจับ กวดขันรถที่ติดสติกเกอร์แบบนี้ เพราะหากถูกจับไปตรวจไป ก็จะถูกขาใหญ่โทรมาเคลียร์ บางทีตำรวจที่เขาปฎิบัติหน้าที่ เขาก็รู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง ผมเชื่อว่าข้าราชการส่วนมาก ส่วนใหญ่พร้อมให้ความร่วมมือ พร้อมให้เบาะแสในการทลายผลประโยชน์ ที่ไม่เหมาะสมและการคอร์รัปชันแบบนี้

มูลค่าคอร์รัปชัน 1 ปี คาดทะลุหมื่นล้าน

เมื่อถามว่าสติกเกอร์ต่อดวงคิดอย่างไร นายวิโรจน์ กล่าวว่า รูปแบบจะมีมาเฟียทำหน้าที่นำเงินก้อนหลายแสนบาทต่อเดือน ไปเคลียร์ตามด่านต่าง ๆ และผลิตสติกเกอร์จำหน่ายให้รถบรรทุกที่จะผ่านตามเส้นทาง ยกตัวอย่างวิ่งระยะสั้นผ่านไม่กี่ด่าน ค่าสติกเกอร์ดวงละ 3,000 บาท ส่วนระยะทางไกล ดวงละ 5,000 บาท อีกทั้งพบเบาะแสใหม่หลักหมื่นก็มี

ปีหนึ่งลองคิดดูว่ารถว่าบรรทุกมากกว่า 1 ล้านคัน ถ้า 5 แสนคันต้องติดสติกเกอร์นี้ อย่างน้อยก็เป็นเงินเดือนละ 1.5 พันล้านบาท 1 ปีก็ทะลุหมื่นล้านแน่นอนมูลค่าคอร์รัปชัน

นายวิโรจน์ กล่าวว่า มาเฟียกลุ่มนี้ได้จ่ายให้ข้าราชการบางคนที่เกี่ยวข้อง ลักษณะจ่ายกันเป็นทอด เรียกได้ว่าจ่ายตั้งแต่หัวโต๊ะยันท้ายโต๊ะ อย่างไรก็ตาม มีข้าราชการจำนวนมากไม่รับเงิน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

เร่งรวบรวมข้อมูล หยุดพฤติกรรมเก็บส่วย

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล ซึ่งต้องหารือสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ประกอบการการรถบรรทุก โดยต้องหยุดพฤติกรรมเก็บส่วยนี้ให้ได้ หากตรวจสอบพบข้าราชการเกี่ยวข้องจะยื่น ป.ป.ช.ตรวจสอบ

เงินสีดำ สีเทา ที่ไปกดขี่ประชาชน ไปรีดนาทาเร้นจากคนที่เขาทำธุรกิจด้วยความเหนื่อยยาก ต้องให้ ป.ป.ง.ยึดทรัพย์ คุณรวยด้วยความเดือดร้อนของคนอื่น ถ้ายังไม่เลิก ผมจะทำให้สิ้นเนื้อประดาตัว

นายวิโรจน์ ปฏิเสธที่จะตอบว่าขยายผลไปถึงข้าราชการระดับใด ซึ่งต้องยุติเรื่องนี้ให้ได้ก่อน จากนั้นขยายผลพบกลุ่มใดเกี่ยวข้องจะต้องเอาผิดทั้งหมด เพราะประชาชนคาดหวังรัฐบาลก้าวไกลในการจัดการทุจริตคอร์รัปชัน ยืนยันไม่กลัวอิทธิพล เพราะมีประชาชนหนุนหลัง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง