เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคม 2566 โดยองค์การอนามัยโลกได้กำหนดประเด็นของการรณรงค์ไว้ว่า “Grow food, not tobacco” เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัญหาในปัจจุบันที่ประเทศไทยเกิดการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน ดังนั้น มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และภาคีเครือข่ายควบคุมการบริโภคยาสูบ จึงกำหนดคำขวัญรณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลก ประจำปี 2566 คือ “บุหรี่ไฟฟ้ามีสารพิษ เสพติด อันตราย”
อ่านข่าว : 31 พฤษภาคม วันงดสูบบุหรี่โลก
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2564 ที่สำรวจพบคนไทยสูบบุหรี่ไฟฟ้าเกือบ 80,000 คน และในจำนวนนี้มากกว่าครึ่งเป็นเยาวชนอายุ 15-24 ปี จะเห็นได้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะกลายเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้น ประเทศไทยจำเป็นต้องคงมาตรการห้ามนำเข้าและขายบุหรี่ไฟฟ้าที่เข้มแข็งต่อไป
เหตุผลสำคัญ 9 เหตุผล ห้ามนำเข้าและขายบุหรี่ไฟฟ้า
1.เป้าหมายของผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้า คือ เด็กและเยาวชน
2.บุหรี่ไฟฟ้าเป็นต้นทางของการสูบบุหรี่ธรรมดาของเด็กและเยาวชน
3.บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตราย ทำลายสุขภาพ
4.นิโคติน ทำให้เสพติด อันตรายเกินคาด
5.บุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ช่วยให้เลิกบุหรี่ได้จริง
6.บุหรี่ไฟฟ้าส่งผลเสียต่อสังคมมากกว่าผลดี
7.บุหรี่ไฟฟ้าจะทำให้ไทยถอยหลังในการควบคุมยาสูบ
8.การห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า คือ มาตรการสำคัญ ในการปกป้องเด็กจากการตกเป็นเหยื่อ
9.ควรยึดนโยบาย "ปลอดภัยไว้ก่อน" เพราะชีวิตคนไทยมีค่าเกินกว่าจะเอาไปเสี่ยง
บุหรี่ไฟฟ้ามีสารนิโคติน เป็นสารที่ทำให้เกิดการเสพติด
นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวถึงอันตรายต่อสุขภาพของบุหรี่ไฟฟ้า ว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นผลิตภัณฑ์เสพยาสูบ หรือเสพนิโคตินที่ใช้การทำให้สารน้ำเกิดความร้อน และระเหย เป็นไอน้ำมาให้สูด/สูบ โดยที่ไม่เกิดควันจากการเผาไหม้ ผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าในตลาดมากกว่าร้อยละ 95 มีสารนิโคตินเป็นส่วนผสมอยู่ในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า
การสูบบุหรี่ไฟฟ้าทำให้ติดสารนิโคตินได้ และในส่วนละอองควัน ที่สูดเข้าปอดนอกจากมีสารนิโคตินแล้ว ยังพบสารเคมีจำนวนมากที่ใช้ในกระบวนการผลิตและปรุงแต่งกลิ่นรส เช่น แอลดีไฮด์ โพลีไซคลิค อะชิโตนและโครเมียม ซึ่งสารเคมีเหล่านั้นล้วนแต่เป็นอันตรายต่อร่างกาย รวมทั้งเป็นสารก่อให้เกิดมะเร็ง
อ่านข่าว : หมอชวนลด ละ เลิก “สูบบุหรี่” สาเหตุก่อโรคถุงลมโป่งพอง-มะเร็งปอด
สารนิโคติน ที่มีอยู่ในบุหรี่ไฟฟ้ามีผลต่อสุขภาพ
1.ระบบประสาทส่วนกลาง : ทำให้เกิดอาการ เวียนหัววิงเวียนรบกวนการนอนหลับผิดปกติ ปวดหัว และมีความเสี่ยงต่อการไหลเวียนของเลือด
2.ระบบ ทางเดินอาหาร : อาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร โรคท้องร่วง คลื่นไส้ ปากแห้ง กรดไหลย้อนอาหาร ไม่ย่อย และโรคมะเร็ง
3.ระบบกล้ามเนื้อ : การเสื่อมของกระดูกสันหลัง ปวดข้อ และการสั่นของร่างกาย
4.ระบบหัวใจและหลอดเลือด : เกิดภาวะหลอดเลือดแข็ง และเพิ่มการเกาะเป็นก้อนในกระแสเลือด อัตราการ เต้นของหัวใจผันผวน ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น โรคหลอดเลือดหัวใจ หัวใจเต้นเร็ว และหัวใจเต้นผิดจังหวะ
5.ระบบหายใจ : หายใจถี่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หลอดลมหดเกร็ง และโรคมะเร็ง
เลิกบุหรี่แล้วดีอย่างไร
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ระบุถึงการเลิกระยะเวลาการเลิกบุหรี่ที่มีผลต่อสุขภาพ
- 20 นาที ความดันเลือดและชีพจรจะเต้นในระดับปกติ
- 8 ชั่วโมง ระดับออกซิเจนในเลือดจะคืนสู่ระดับปกติ
- 2 วัน การรับรู้รสและกลิ่นจะดีขึ้น
- 2-12 สัปดาห์ ระบบหายใจดีขึ้น ไม่เหนื่อยง่าย
- 3-6 เดือน ปัญหาการไอลดลง ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น
- 5 ปีขึ้นไป ลดโอกาสเกิดโรคหัวใจและมะเร็งปอด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
พิษร้าย "บุหรี่ไฟฟ้า" ทำลายสมองเด็ก วิจัยพบสารเคมี 2 พันชนิด
บุหรี่ไฟฟ้า? สินค้าต้องห้ามครอบครองผิดกฎหมาย











