รวบ "เจ้าแม่ E-ticket" โกงบัตร BLACKPINK เสียหายรวม 7 แสนบาท

อาชญากรรม
31 พ.ค. 66
13:06
1,139
Logo Thai PBS
รวบ "เจ้าแม่ E-ticket" โกงบัตร BLACKPINK เสียหายรวม 7 แสนบาท
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ตำรวจ PCT 5 และสืบนครบาล รวบ "ดิสโก้ เจ้าแม่ E-ticket" โกงบัตร BLACKPINK's BORN PINK World Tour Bangkok "บลิ๊งค์ไทย" สุดช้ำ จ่ายเงินแต่อดดูคอนเสิร์ต เสียหายรวม 700,000 บาท

เจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 และชุดสืบนครบาล (บก.สส.บช.น.) นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.ณัฐริกา หรือดิสโก้ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงสระบุรีที่ 73/2566 ลงวันที่ 27 เม.ย.2566 โดยกล่าวหาว่า "ฉ้อโกงทรัพย์ทางออนไลน์"

พฤติการณ์พบเบาะแสว่ามีการฉ้อโกงบัตรคอนเสิร์ตวง Blackpink เป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้เสียหายหลายรายเป็นเหล่าแฟนคลับต่างได้รับความเสียหายรวมกว่า 700,000 บาท โดยจะขายตั๋วซ้ำ ๆ ขายตั๋วหมดแล้วก็เอาตั๋วใบเดิมกลับมาวนขายให้คนอื่นอีก

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออนไลน์ชุด pct5 และสืบนครบาล ได้สืบสวนแกะรอยจนทราบว่า คือ น.ส.ณัฐริกา ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับ และมีคดีเกี่ยวกับการฉ้อโกงบัตรคอนเสิร์ตกว่า 9 คดี จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามจับกุมตัวได้ที่หอพักแห่งหนึ่ง แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ตนเองหาเงินได้จากคอนเสิร์ตต่าง ๆ ที่จัดขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะคอนเสิร์ต Black Pink ที่มีคนไทยให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก จึงเห็นช่องทางหารายได้ รับกดบัตรทางออนใลน์ โดยให้กลุ่มเพื่อนและน้องสาวช่วยกันกดซื้อบัตรเพื่อนำมาขายต่อให้กับแฟนคลับ Black Pink ในประเทศไทย โดยได้จองบัตรคอนเสิร์ตในราคา 9,600 บาท ซึ่งเป็นบัตรนั่งราคาแพงที่สุดได้มาประมาณ 200 ใบ จากนั้นนำมาขายต่อในราคาใบละ 15,000-30,000 บาท มีผู้ต้องการซื้อจำนวนมากนับหมื่นคน จนขายหมดทั้ง 200 ใบ ได้กำไรหลายแสนบาท แต่ยังมีลูกค้ามาขอซื้อต่อเรื่อย ๆ ตนจึงเกิดความโลภ และเห็นว่าตั๋วทั้งหมดเป็นตั๋วแบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-ticket) จึงนำบัตรที่ขายไปแล้ววนขายซ้ำให้ผู้ที่มาขอซื้อ จนวันจัดคอนเสิร์ต Black Pink เกิดปัญหาตั๋วที่นั่งเดียวมีคนไปแสดงตัวเป็นเจ้าของหลายคน ทำให้ตนเองซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของบัตรดังกล่าวถูกติดตามตัว และแจ้งความดำเนินคดี

น.ส.ณัฐริกา กล่าวว่า ได้ทยอยคืนเงินให้ผู้เสียหายบางคนแล้ว แต่ยังมีผู้เสียหายจำนวนมากที่ยังไม่ได้เงินคืน เพราะตนเองไม่มีเงินแล้ว จึงหนีจากที่อยู่เดิมไปกบดานอยู่ที่แถวลาดพร้าวจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว พร้อมยอมรับผิดและจะพยายามหาเงินมาคืนให้ผู้เสียหายทุกคน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัว น.ส.ณัฐริกา ผู้ต้องหา ส่งที่ สภ.หนองแค จ.สระบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหายต่อไป

ขณะที่ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ไม่ปักใจเชื่อคำให้การหรือคำแก้ตัวของผู้ต้องหา เพราะพยานหลักฐานจากฝ่ายผู้เสียหายนั้นมัดแน่น อีกทั้งการสืบสวนเชิงลึกพบว่า มีพฤติกรรมติดพนันออนไลน์ เมื่อเสียเงินจากพนันออนไลน์จนหมดตัว ทำให้เกิดความโลภ คิดคดโกงหาเงินแบบรวดเร็วเพื่อเอามาเล่นพนันออนไลน์อีก ซึ่งการที่แฟนคลับจะได้พบศิลปินที่ชื่นชอบนั้น มีโอกาสเพียงน้อยครั้ง และถูกตัดโอกาสเช่นนี้ ไม่เพียงเรื่องเงิน แต่มันเป็นเรื่องทางจิตใจด้วย

จากการตรวจสอบพบประวัติการของผู้ต้องหาคนนี้ ถูกดำเนินคดี 9 คดี ดังนี้ คือ วันที่ 21 เม.ย.2565 ก่อเหตุ ฉ้อโกงทรัพย์ทางออนไลน์ พื้นที่ สภ.หนองแค จ.สระบุรี, วันที่ 18 ต.ค.2565 ก่อเหตุฉ้อโกง นeเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ พื้นที่ สน.ปทุมวัน, วันที่ 15 พ.ย.2565 ก่อเหตุฉ้อโกง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ พื้นที่ สน.ปทุมวัน, วันที่ 9 ธ.ค.2565 ก่อเหตุทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ พื้นที่ สภ.ปากเกล็ด จ.นนทบุรี, วันที่ 21 ธ.ค.2565 ก่อเหตุฉ้อโกง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ พื้นที่ สน.ปทุมวัน, วันที่ 8 ม.ค.2566 ก่อเหตุฉ้อโกง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ พื้นที่ สน.ปทุมวัน, วันที่ 8 ม.ค.2566 ก่อเหตุฉ้อโกง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ พื้นที่ สน.ปทุมวัน, วันที่ 8 ม.ค.2566 ก่อเหตุฉ้อโกง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ พื้นที่ สน.ปทุมวัน และวันที่ 8 ม.ค.2566 ก่อเหตุฉ้อโกง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ พื้นที่ สน.ปทุมวัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง