คดี 'บัตรชมพู' เอื้อประโยชน์ 'จีนเทา' อยู่ไทย

อาชญากรรม
5 มิ.ย. 66
14:21
2,546
Logo Thai PBS
คดี 'บัตรชมพู' เอื้อประโยชน์ 'จีนเทา' อยู่ไทย
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
คดีจับหญิงจีนสัญชาติไทย ทำให้เห็นบทบาทผู้ทำหน้าที่ ‘ธุระจัดหา’ บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย หรือ ‘บัตรชมพู’ ให้จีนเทา เอื้อประโยชน์อาชญากรต่างชาติใช้บัตรนี้เป็น ‘ใบเบิกทาง’ ทำมาหากินในประเทศไทย

จุดเริ่มต้นคดี 'เจ๊โจว' ธุระจัดหา 'บัตรสีชมพู'

ธุรกิจลักลอบทำ ‘บัตรชมพู’ ให้เครือข่ายทุนจีนสีเทา ที่มี ‘เจ๊โจว’ หญิงชาวจีนสัญชาติไทย มีบทบาทเป็นธุระจัดหา เจ้าหน้าที่แกะรอยมาจาก 'บัตรชมพู' หรือ บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ของนักธุรกิจชาวจีนคนหนึ่งที่ จ.ชลบุรี หลังจาก ภรรยาสัญชาติเดียวกัน และพี่ชายของเขาถูกกลุ่มชาวจีนอุ้มเรียกค่าไถ่ ที่ อ.หนองปรือ เมื่อเดือน มี.ค.66

ข้อมูลบนบัตรชมพู ปรากฎที่อยู่อาคารแห่งหนึ่งย่านสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ  ที่มีชื่อ 'เจ๊โจว' เป็นเจ้าของ  นี่กลายเป็นเป้าหมายที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นในวันที่ 4 เม.ย.66  

พบบุคคลต่างด้าว 7 คน ภายในอาคารแบ่งเป็นห้องๆ แต่ละห้องมีที่นอน และเครื่องใช้คล้ายเตรียมไว้รองรับหญิงไทยรับจ้างอุ้มบุญ โดยมีบุคคลต่างด้าวที่พบทำหน้าที่ดูแล

 

เจ๊โจวถูกจับในอีก 4 วันต่อมา (8 เม.ย.66) ข้อหาปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ร่วมกันแจ้งข้อความเท็จต่อเจ้าพนักงาน และ ปลอมดวงตรา หรือแผ่นตรวจลงตราการเดินทางระหว่างประเทศเพื่อทำบัตรชมพูให้กับบุคคลซึ่งไม่มีสัญชาติไทย

เธอให้การปฏิเสธ แม้เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานและพบความเชื่อมโยงว่า เธอมีบทบาทสำคัญในการลักลอบอยู่ในราชอาณาจักรของกลุ่มจีนเทา พัวพันกับการออกบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย หรือที่เรียกว่า บัตรชมพู และยังเป็นนายหน้าธุรกิจอุ้มบุญผิดกฎหมายให้กลุ่มลูกค้าชาวจีน ตั้งแต่ต้นจนจบ

'บัตรชมพู' ในมือกลุ่มจีนเทา

 

ตำรวจขยายผลพบชาวจีนกว่า 20 คนมีชื่อปรากฏอยู่ในทะเบียนบ้านหลังเดียวกัน ทุกคนมี ‘บัตรสีชมพู’ ที่ได้บัตรมาด้วยวิธีการแจ้งเท็จ และ สำแดงเอกสารเท็จต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางรัก โดยมี เจ๊โจว เป็นธุระจัดหา

ข้อมูลการสืบสวนพบว่า บัตรชมพูทุกใบของเครือข่ายนี้ เลขหลักแรกขึ้นต้นด้วย “เลข 6” หมายถึง คนไม่มีสัญชาติไทยที่ได้รับการเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน โดยเจ้าบ้านต้องอนุญาตและแสดงเหตุผลที่ต้องการให้ชาวต่างชาติเข้าอยู่ในทะเบียนบ้านต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตนั้นๆ เพื่อออกบัตรประจำตัวชาวต่างชาติ หรือบัตรชมพู ได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยในลักษณะชั่วคราวและผ่อนผันให้อยู่เป็นกรณีพิเศษ

บัตรชมพู เสมือนเป็นใบเบิกทาง ให้กลุ่มจีนเทา ได้ทำมาหากินอยู่ในประเทศไทย ควบคู่กับการต่ออายุวีซ่าประเภทต่างๆ ทุกปี เช่น มาเรียนหนังสือ ทำงานด้านศาสนา อาสาสมัคร มูลนิธิ ทำธุรกิจ สามี/ภรรยาไทย วีซ่าอุปการะบุตร และ ใช้ชีวิตบั้นปลาย

การได้สัญชาติไทยของ 'เจ๊โจว'

ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองให้ข้อมูลว่า ผู้ต้องหาหญิงชาวจีนสัญชาติไทย มีประวัติแต่งงานกับคนไทยเมื่อปี 2532 ก่อนหย่าร้างในปี 2534 แต่ระหว่างนั้นมีการยื่นเอกสารร้องขอสัญชาติไทยตามสามี และได้สัญชาติไทยตามสามีคนไทยในปี 2535 ในปีเดียวกัน เจ๊โจวมีสามีใหม่เป็นคนจีน มีบุตรด้วยกัน 3 คน ทุกคนได้สัญชาติไทยตามมารดา

ขณะนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยื่นเรื่องต่อกระทรวงมหาดไทย ขอให้ยกเลิกคำสั่งอนุญาตให้สัญชาติไทยกับผู้ต้องหาหญิงชาวจีนคนนี้ เพราะเห็นว่าขาดคุณสมบัติตั้งแต่แรก

 

กรมการปกครองให้ข้อมูลว่า อยู่ระหว่างขอหลักฐานเพิ่มเติมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการพิจารณาเพิกถอนสัญชาติไทยของ 'เจ๊โจว' แม้พบว่าการให้สัญชาติไทยตามคู่สมรสเมื่อปี 2535 เกิดขึ้นหลังหย่าร้างกับสามีคนไทยแล้วก็ตาม 

พ.ร.บ.สัญชาติ มาตรา 16 ระบุว่าหญิงต่างด้าวที่ได้สัญชาติไทยโดยการสมรส อาจถูกถอนสัญชาติไทยได้ หากเกิดกรณีที่การสมรสนั้นได้เป็นไปโดยปกปิดข้อเท็จจริง หรือแสดงข้อความเท็จ , กระทำการใด ๆ อันเป็นการกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงหรือขัดต่อประโยชน์ของรัฐ หรือเป็นการเหยียดหยามประเทศชาติ และกระทำการใด ๆ อันเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ซึ่งการถอนสัญชาติจะไม่มีผลผูกพันกับลูกที่ได้สัญชาติไทยก่อนหน้านี้

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง