จับกระแสการเมือง วันที่ 16 มิ.ย.2566 ยุทธการเตะตัดขา “สกัด”พิธา เข้าทำเนียบ

การเมือง
16 มิ.ย. 66
16:11
480
Logo Thai PBS
จับกระแสการเมือง วันที่ 16 มิ.ย.2566  ยุทธการเตะตัดขา “สกัด”พิธา เข้าทำเนียบ
แม้หลายฝ่ายจะออกมาตั้งข้อสังเกต การเคลื่อนไหวของบรรดานักร้องว่า จะเป็นยุทธการเตะตัดขา “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”ว่าที่นายกคนที่ 30 ประเดิม เรื่อง “หุ้นไอทีวี” ว่ามี “เบื้องหลัง” และทำกันเป็น “ขบวนการ” สกัดหนทางเข้าสู่ทำเนียบ

ล่าสุดกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ก็ออกมาชี้แจงสนับสนุนคำแถลงของไอทีวีเมื่อวานนี้ พร้อมยืนยันว่า ไอทีวี “ยังดำเนินธุรกิจอยู่” แถมยังเปรียบเทียบว่า “ก็เหมือนบุคคลนั่นแหละ ที่เกิดมา มีชีวิตอยู่ และอาจจะทำงานหรือไม่ทำงาน” ก็ได้

ตามด้วย สนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร ที่ยังไม่จบ แม้คำร้องก่อนหน้านี้ถูก กกต.ตีตกไปแล้ว

วันนี้ สนธิญายื่นคำร้องใหม่ต่อ กกต.อีกครั้ง ให้ตรวจสอบว่า “ข้อบังคับพรรคก้าวไกลมีการกำหนดเรื่องการถือหุ้นสื่อไว้เป็นลักษณะต้องห้ามของการเป็นสมาชิกพรรคหรือไม่”

และการที่นายพิธา ถือหุ้นไอทีวี จะเข้าข่ายขัดข้อบังคับพรรคก้าวไกลหรือไม่

นี่คือท้ายๆ ของกระแส “หุ้นไอทีวี” ที่ยังไม่น่าจะจบลงง่ายๆ ขณะเดียวกันก็มีการเคลื่อนไหวที่สอดรับของ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ เข้ายื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยสั่งให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่ 2 ให้เลิกทำนโยบายการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และขอให้เลิกการให้สัมภาษณ์ ป้ายโฆษณาใด ๆ

โดยอ้างรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ที่ระบุว่า หากพบเห็นการกระทำที่เข้าข่ายเป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพ อันอาจจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้ใช้สิทธิ์ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดได้ หากครบ 15 วันแล้ว อัยการยังไม่ได้สั่งการใด ๆ ให้ยื่นร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้

ขณะที่ นายอานนท์ กลิ่นแก้ว แกนนำกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน หรือ ศปปส. นำหลักฐานที่เป็นข้อความในเพจเฟซบุ๊กชื่อ “สหายนอนน้อย” ส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้โพสต์ข้อความที่เข้าข่ายความผิดหมิ่นสถาบันฯ ม.112

ยืนยันว่า ไม่ได้กลั่นแกล้งเยาวชนให้ถูกดำเนินคดี แต่หากกระทำความผิดจริงก็ต้องรับโทษตามกฎหมาย ซึ่งก็มีกฎหมายของเด็กและเยาวชนอยู่แล้ว และอยากให้ตำรวจเร่งรัดทำคดี เนื่องจากเห็นว่าเยาวชนคนดังกล่าว หลังจากที่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจากสถานพินิจ ยังมีพฤติกรรมทำผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง หากปล่อยไว้ก็จะยิ่งก่อความวุ่นวาย นายอานนท์กล่าว

ด้าน นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย พรรคก้าวไกล ระบุว่า การร้องเรียนเป็นสิทธิที่ประชาชนจะร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้นายพิธา และพรรคก้าวไกล เลิกทำนโยบายแก้ไข ม.112 แต่ตั้งข้อสังเกตว่า มีวัตถุประสงค์ซ่อนเร้นหรือไม่

เชื่อว่าไม่มีประเด็นใดเป็นพิเศษให้ต้องไม่กังวล หากศาลรับคำร้องพรรคก้าวไกล พร้อมชี้แจงเรื่องการแก้ไขกฎหมาย ก่อนจะย้ำเจตนาว่า มุ่งหวังไม่ให้มีการใช้กฎหมายดังกล่าว ในการกลั่นแกล้งผู้เห็นต่างทางการเมือง โดยท้ายที่สุดจะแก้กฎหมายได้จริงหรือไม่ ก็อยู่ที่มติความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร และรัฐสภา

มาถึงนาทีนี้ ที่หลายคนคาดการณ์ไว้ว่า “ม็อบมาแน่” อาจจะยังไม่มาหรือไม่มี แต่ที่แน่ ๆ ร้อง-ฟ้องแก้กันไปมาเกิดขึ้นแล้วเป็นรายวัน และนักร้องหน้าใหม่ก็ผุดขึ้นอีกหลายคน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมพัฒน์ฯ แจงสถานะไอทีวี "ยังดำเนินกิจการอยู่"

กกต.เตรียมรับรอง ส.ส.สัปดาห์หน้า แต่ไม่ยืนยันครบ 100%

ป.ป.ช.ยืนยัน "พิธา" ยื่นบัญชีทรัพย์สินหุ้น itv เป็นผู้จัดการมรดก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง