ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

พบ "ลูกช้างป่าภูวัว" พลัดหลง โขลงแม่ยังไม่มารับ

สิ่งแวดล้อม
10:46
1,135
พบ "ลูกช้างป่าภูวัว" พลัดหลง โขลงแม่ยังไม่มารับ
อ่านให้ฟัง
05:41อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
จนท.ช่วยเหลือ "ลูกช้างป่า" พลัดหลงริมป่านาตู้ดำ อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ เบื้องต้นทำคอกรอโขลงแม่ช้างมารับ ส่วนเคสลูกช้างป่าเขาตะแบก จันทบุรี ร่างกายขาดน้ำ-ผอม สัตวแพทย์ยิงยาซึมช่วยเหลือ ให้ยาบำรุง-วิตามิน ล่าสุดกลับเข้าป่าแล้ว แต่ต้องติดตามอาการต่อเนื่อง

วันนี้ (13 ก.ย.2566) นายวิษณุ กุมภาว์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว รายงานว่าเมื่อเช้าวันที่ 12 ก.ย.2566 เวลา 07.00 น. ได้รับแจ้งจากชาวบ้านเทพมีชัย ว่า มีโขลงช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และพบลูกช้างป่าพลัดหลงโขลง บริเวณริมป่านาตู้ดำ บ้านเทพมีชัย ต.หนองเดิ่น อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ

เจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างป่า พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจฯ ส่วนกลาง ขสป.ภูวัว จึงเข้าตรวจสอบทันที เมื่อถึงบริเวณที่รับแจ้งพบลูกช้างป่า 1 ตัว ตัวเมีย อายุ 2 เดือน ตรวจสอบโดยรอบไม่พบโขลงช้าง

เบื้องต้น ขสป.ภูวัว ประสานกับเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 (สบอ.10) เพื่อทราบแนวทางปฏิบัติเบื้องต้น โดยทำคอกให้กับลูกช้างในบริเวณที่พบ และเฝ้าสังเกตการณ์ว่าจะมีโขลงแม่ช้างกลับมารับลูกช้างหรือไม่ จนถึงเช้าของวันที่ 13 ก.ย.2566 ยังไม่มีโขลงช้างกลับมายังพื้นที่พลัดหลง จึงประสานเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ สบอ.10 เข้าพื้นที่ตรวจสอบและพิจารณาดำเนินการกับลูกช้างป่าตามแนวทางต่อไป

ช่วยเหลือ "ลูกช้างป่า" เขาตะแบก

ขณะที่นายพิทักษ์ อินทศร ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) รายงานว่า กรณีรับแจ้งการพบลูกช้างป่ามีลักษณะผอม คาดว่ามีปัญหาสุขภาพ ในพื้นที่เขาตะแบก ม.12 ต.โป่งน้ำร้อน อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี

วันที่ 12 ก.ย.2566 ทีมสัตวแพทย์จากประจำส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า ทีมสัตวแพทย์จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) และสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าช่องกล่ำบน, เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองเครือหวายเฉลิมพระเกียรติ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว เข้าตรวจสอบพื้นที่และปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลูกช้างป่า

เจ้าหน้าที่ได้เตรียมยิงยาซึม แต่ลูกช้างวิ่งหนีเข้าป่า จึงเปลี่ยนแผนเป็นการผูกเปลบนต้นไม้ และซุ่มยิงยาซึม แต่ลูกช้างป่ามีอาการตื่นตกใจและวิ่งหนีเข้าป่าทึบอีกรอบ ไม่สามารถตามตัวได้ทัน กระทั่งเวลา 13.30 เจ้าหน้าที่พบลูกช้างป่า

ทีมสัตวแพทย์เข้าถึงตัวลูกช้างป่า จากนั้นตรวจร่างกายโดยละเอียด พบว่า ลูกช้างป่ามีอาการผอม (Body condition score) อยู่ที่ 2/5 คะแนน มีอาการขาดน้ำจากการที่ลูกตาภายในเป้าตาจมลึก พบแผลในช่องปากและงวงโดยเป็นแผลที่มีการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาทดแทนแล้ว ไม่พบบาดแผลตามร่างกาย การขับถ่ายเป็นก้อนปกติ

ลูกช้างปลอดภัย-กลับเข้าป่า

การจากตรวจลักษณะภายนอกร่างกาย ทีมสัตวแพทย์ลงความคิดเห็นว่าลูกช้างป่าตัวดังกล่าวนี้มีความผิดปกติทางด้านสุขภาพจากการที่เป็นแผลในช่องปากและงวง ทำให้กินอาหารลดลง ร่างกายขาดสารอาหาร และขณะนี้เป็นช่วงการฟื้นฟูร่างกายให้ลูกช้างป่าเริ่มกลับมาแข็งแรงมากขึ้น

 

รักษาเบื้องต้นด้วยการให้ยาฆ่าเชื้อ ยาบำรุงร่างกาย ยาบำรุงกล้ามเนื้อ ให้สารน้ำทางเส้นเลือดดำพร้อมกับวิตามิน ทำความสะอาดบาดแผลในช่องปากและงวง และดำเนินการเก็บตัวอย่างเลือด ตัวอย่างสวอปในช่องปาก สวอปทางทวารหนัก และขี้ลูกช้างป่า ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการในวันนี้ (13 ก.ย.) เพื่อตรวจหาโรคแทรกซ้อนในร่างกายของลูกช้างป่า ประกอบการรักษาในครั้งถัดไป

ต่อมาเวลา 14.35 น. สัตวแพทย์ได้ให้ยาฟื้นจากยาซึม และพบว่าลูกช้างฟื้นจากยาสลบได้เป็นอย่างดี และเดินเข้าป่า

ทีมสัตวแพทย์ลงความคิดเห็นว่า ลูกช้างป่าแข็งแรงเพียงพอ สามารถดำเนินชีวิตอยู่ในป่าได้ จึงไม่ได้เคลื่อนย้ายออกมาจากป่า แต่จะติดตามอาการของลูกช้างป่าอย่างต่อเนื่องแทน โดยทีมเจ้าหน้าที่ทำบ่อน้ำสำหรับลูกช้างป่าในพื้นที่ เพื่อชดเชยการขาดน้ำของลูกช้างป่า ส่วนทีมสัตวแพทย์ได้เตรียมยากินเพื่อถ่ายพยาธิอย่างต่อเนื่อง 3 วัน และยาบำรุงร่างกายกินต่อเนื่อง 10 วัน โดยให้ซ่อนยาในกล้วยสุกและนำไปวางในจุดที่ลูกช้างป่าอาศัยอยู่