เหตุการณ์ “ยิงสารวัตรทางหลวง” จะไปถึงไหน?

อาชญากรรม
18 ก.ย. 66
15:53
1,031
Logo Thai PBS
เหตุการณ์ “ยิงสารวัตรทางหลวง” จะไปถึงไหน?
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ผ่านมา 12 วัน สำหรับคดี ยิงสารวัตรตำรวจทางหลวง ที่ จ.นครปฐม เสียชีวิต นอกจากมีผู้เสียชีวิตเพิ่มแล้ว มีผู้ถูกจับกุมดำเนินคดี และยังมีคดีพัวพันอีกมากมาย ที่จะต้องขยายผลออกไป

มาสรุปภาพให้เห็นกันชัดๆ อีกครั้งว่าเกิดอะไรขึ้น และจะเป็นยังไงต่อไป

(1) เหตุการณ์

เกิดเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 บก.2 บก.ทล. เสียชีวิต เมื่อวันที่ 6 ก.ย.2566

(2) ผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ

ผู้เสียชีวิต : พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว (เสียชีวิต 6 ก.ย.2566) / พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.2 บก.ทล. ยิงตัวเองเสียชีวิต (11 ก.ย.2566)
ได้รับบาดเจ็บ : พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล.(ถูกยิงที่บ้านกำนันนก 6 ก.ย.)

ภาพงานเลี้ยงบ้านกำนันนกคืนเกิดเหตุยิงสารวัตรตำรวจทางหลวง

ภาพงานเลี้ยงบ้านกำนันนกคืนเกิดเหตุยิงสารวัตรตำรวจทางหลวง

ภาพงานเลี้ยงบ้านกำนันนกคืนเกิดเหตุยิงสารวัตรตำรวจทางหลวง

(3) จำนวนคดี

1.คดียิงตำรวจ
2.คดีปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต (มาตรา 157)
3.คดีการทำธุรกิจของบริษัทกำนันนก (ฮั้วประมูล)

(4) การดำเนินคดี

- คดียิงตำรวจ
ตำรวจแจ้งข้อหาและดำเนินคดี 7 คน คือ
1.นายธนัญชัย หมั่นมาก (หน่อง) ถูกระบุว่า เป็นมือปืนยิง พ.ต.ต.ศิวกร เสียชีวิต ต่อมาถูกวิสามัญฆาตกรรมเสียชีวิต
2.นายประวีณ จันทร์คล้าย (กำนันนก) ถูกดำเนินคดีใน 5 ข้อหา ได้แก่ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในเมืองหรือที่ชุมชน

3.นายสนทยา (เก่ง) คนงานบ้านกำนันนก หลังเกิดเหตุนำปืนที่ใช้ยิง พ.ต.ต.ศิวกร ไปฝังที่ริมบึง
4.นายฐิตินันท์ (โบ๊ท) เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางราชบุรี หลังเกิดเหตุนำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปทิ้งที่คลองหลังวัดตาก้อง ถูกแจ้งข้อหาทำลายพยานหลักฐาน
5-6-7 ตำรวจแจ้งข้อหา แม่บ้าน 3 คน ฐานทำลายพยานหลักฐาน เนื่องจากช่วยกันล้างความสะอาดที่เกิดเหตุ

นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก ถูกดำเนินคดีใน 5 ข้อหา

นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก ถูกดำเนินคดีใน 5 ข้อหา

นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก ถูกดำเนินคดีใน 5 ข้อหา

สำหรับคดีอาวุธปืน มีผู้ถูกดำเนินคดี 3 คน ในข้อหาร่วมกันครอบครองอาวุธปืน และเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ คือ
1.นายประสงค์ ไทรไกรกระ รปภ.บริษัทของกำนันนก
2.นายชัชวาล ไทรไกรกระ (เด้ง) นำปืนมาส่งให้นายต๋องที่หน้าบริษัท
3.นายชัชวาลย์ ก้องภัคดีสุข (ต๋อง) นำปืนจากนายเด้งเข้าไปในงาน

- คดีทุจริต ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต (มาตรา 157)
มีตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ถูกดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อช่วยไม่ให้ผู้อื่นได้รับโทษ, ร่วมกันทำลาย ซ่อนเร้น, ร่วมกันช่วยเหลือผู้กระทำความผิด จำนวน 6 คน คือ
1.พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สมสุข สว.สส.สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
2.ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ แตงอำไพ รอง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.
3.ร.ต.อ.ณัฏฐพล นาคกร รองสว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.
4.ร.ต.ท.ประสาร รอดผล รองสว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.
5.ร.ต.ต.สรรเสริญ ศรีสวัสดิ์ รอง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.
6.ร.ต.ต.นิมิตร สลิดกุล รอง สว.จร.สภ.เมืองนครปฐม

ล่าสุด พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งให้โอนสำนวนทั้ง 2 คดี คือ คดียิง พ.ต.ต.ศิวกร และคดีทุจริต ไปที่กองบังคับการปราบปราม

กระทั่งค่ำวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา มีกระแสข่าวว่า มีตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ยิง พ.ต.ต.ศิวกร จะถูกดำเนินคดีเพิ่มอีก 14 คน คือ
1.พ.ต.อ.ภาณุทัต เหลืองสัจจกุล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม
2.พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร ผกก.สน.พญาไท
3.ร.ต.อ.ประสมมาศ แสงสุขมี รอง สว.จร.สภ.กำแพงแสน
4.ร.ต.อ.นุชิต บรรณชัย รอง สว.ปทส.5
5.ร.ต.อ.จตุรวิทย์ ชวาลเกียรติธนา รอง สวป.สภ.เมืองนครปฐม
6.ร.ต.อ.ศิริชัย รูปสวย สังกัด บก.ป.
7.ร.ต.ท.มนัส จันทร์มีทรัพย์ รอง สว.จร.สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
8.ด.ต.ถนอม ศักดิ์มีศรี ผบ.หมู่ สภ.สามควายเผือก
9.จ.ส.ต.พิสิฐ ชิวปรีชา ผบ.หมู่ ส.ทล.กก.2
10.ด.ต.สมโชค บัวไชย บก.สส.ภาค 7
11.จ.ส.ต.อภิรักษ์ โรจน์พวง ผบ.หมู่ กก.5 บก.ปคม.
12.ส.ต.ท.สุทธิกานต์ แซ่ล้อ ผบ.หมู่ คฝ.ภ.จว.นครปฐม
13.ส.ต.ต.ธนทัต ท่าน้ำตื้น ผบ.หมู่ คฝ.ภ.จว.นครปฐม
14.ส.ต.ต.สรรเสริญ ศรีอุบล ผบ.หมู่ คฝ.ภ.จว.นครปฐม

เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเข้าตรวจค้นบ้านกำนันนก

เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเข้าตรวจค้นบ้านกำนันนก

เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเข้าตรวจค้นบ้านกำนันนก

ในจำนวนนี้มีชื่อของ ร.ต.อ.จตุรวิทย์ ชวาลเกียรติธนา รวมอยู่ด้วย ซึ่งหากมีการดำเนินคดี ร.ต.อ.จตุรวิทย์ อาจเป็นผู้รอดหรือถ้าถูกลงโทษอาจเป็นโทษสถานเบา เพราะภาพที่ปรากฏใน “กล้องวงจรปิด” ในที่เกิดเหตุ มีเขาเป็นผู้ร่วมช่วยเหลือ พ.ต.ต.ศิวกร หลังถูกยิงด้วย แม้ว่าหลังจากนั้น ตัวเขาจะไปปรากฏในภาพขี่รถขักรยานยนต์ ไปกับขบวนรถกำนันนกก็ตาม

ส่วนอีกคดีที่เป็นที่จับตามองก็คือ การทำธุรกิจของกำนันนก ที่ถูกจับตามองว่า “ฮั้วประมูล” หรือไม่ เพราะจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ในบางโครงการ มีผู้มาซื้อซองประกวดราคาจำนวนมาก แต่เมื่อถึงเวลายื่นประมูลกลับมีผู้ยื่นแข่งเพียงไม่กี่ราย

ซึ่งคดีนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. จะยังคงอำนวยการด้วยตัวเองต่อไป และยังอยู่ในความดูแลของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7

โดยในวันที่ 19 ก.ย.จะประชุมร่วมกับสํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.), สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.), กรมสรรพากร และกรมบัญชีกลาง

เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเข้าตรวจค้นบ้านกำนันนก

เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเข้าตรวจค้นบ้านกำนันนก

เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเข้าตรวจค้นบ้านกำนันนก

ขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โดย ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีฮั้วประมูล จะเรียก 58 บริษัท ที่มีประวัติซื้อซองประกวดราคา เข้าให้ข้อมูล ตั้งแต่วันที่ 18-20 ก.ย.นี้ เพื่อสอบถามถึงสาเหตุของการซื้อซองประกวดราคา แต่ไม่เข้าร่วมเสนอราคา ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกเรียกสอบในฐานะพยาน

นั่นหมายความว่า ต่อไปนี้ คดียิงตำรวจ และ คดีทุจริต ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต (มาตรา 157) ต้องรอฟังความเคลื่อนไหวจากกองปราบปราม ที่ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง มาอำนวยการเอง หลังกลับจากอบรม FBI ที่สหรัฐฯ

ส่วนจะจบลงอย่างไรคงต้องติดตามกันเป็นระยะ แม้ว่าตัวละครของเรื่องนี้จะครบหมดแล้ว แต่เรื่องราวอีกมากมายก็คงต้องดำเนินไป ภายใต้กฎหมายที่จะทำได้

และกลายเป็นจุดกระตุกเตือนตั้งแต่ต้นๆ ของรัฐบาลเศรษฐา กันเลยทีเดียวว่า ต่อไปนี้ต้องไม่มีผู้มีอิทธิพล แม้ว่านายชาดา ไทยเศรษฐ รมช.มหาดไทย จะประกาศขีดเส้นให้ตัวเอง เริ่มทำงานปราบ-ปราม ผู้มีอิทธิพล ว่าจะต้องทำให้ได้ภายใน 6 เดือน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กำชับให้กระทรวงมหาดไทย ปราบปรามผู้มีอิทธิพลให้หมดไปโดยเร็วที่สุด และให้ถือเป็น KPI ด้วย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กำชับให้กระทรวงมหาดไทย ปราบปรามผู้มีอิทธิพลให้หมดไปโดยเร็วที่สุด และให้ถือเป็น KPI ด้วย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กำชับให้กระทรวงมหาดไทย ปราบปรามผู้มีอิทธิพลให้หมดไปโดยเร็วที่สุด และให้ถือเป็น KPI ด้วย

ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็ได้มอบหมายอย่างเป็นทางการอีกรอบ ให้ รมว.มหาดไทย อนุทิน ชาญวีรกูล กวาดล้างผู้มีอิทธิพลสีดำ สีเทา ทั้งหลาย โดยให้ถือเป็น KPI ของผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด กอ.รมน.จังหวัด

ถ้าเอาเรื่องนี้ไม่อยู่ 3 ท่านนี้ต้องรับผิดชอบ ถ้าอยากจะรักษาตำแหน่งเอาไว้ต้องตอบสนองนโยบายนี้ ต้องให้ราบคาบรวดเร็ว รวมถึงยาเสพติดด้วย

ฟังอย่างนี้แล้ว ทั้ง มท.1-2-3 อาจจะร้อนๆ หนาวๆ แต่ที่จะหนาวกันไปกว่านั้น ก็เห็นจะเป็น “แคนดิเดต ผบ.ตร.” เพราะนั่นเป็นหน้าที่โดยตรง ที่สำคัญยังไม่ได้ตั้งใครในเวลานี้ และกระแสก็ยิ่งไม่นิ่งเอาเสียด้วย

จ่อดำเนินคดีอีก 14 ตร.ในงานเลี้ยงบ้าน "กำนันนก" "บิ๊กโจ๊ก"ยันว่ากันไปตามหลักฐาน

20 บริษัท เข้าให้ข้อมูลสอบปมฮั้วประมูล "กำนันนก"

กรมราชทัณฑ์ แจงดรามา "กำนันนก" ในเรือนจำตัวจริง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง