ขึ้นหัวหน้าพรรคตามคาด ดาบสองคมของ “อุ๊งอิ๊ง”

การเมือง
27 ต.ค. 66
14:30
328
Logo Thai PBS
ขึ้นหัวหน้าพรรคตามคาด ดาบสองคมของ “อุ๊งอิ๊ง”
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เป็นไปตามคาดเมื่อ ”อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ขยับขึ้นไปรับตำแหน่งใหญ่ "หัวหน้าพรรคเพื่อไทย" คนใหม่ ขณะที่ตำแหน่งอื่น ๆ ทั้งเลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ อัดแน่นไปด้วยคนรุ่นใหม่แทบทั้งสิ้น

เท่ากับ “อุ๊งอิ๊ง” ใช้เวลาเพียง 2 ปีพอดิบพอดี ก็ก้าวขึ้นไปเป็นผู้นำพรรคคนใหม่ นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทยด้านนวัตกรรมและการมีส่วนร่วม เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ที่ จ.ขอนแก่น ถือเป็นดีเอ็นเอของแท้สายตรงจากนายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นพ่อ และผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ที่ต่อเนื่องมาถึงพรรคเพื่อไทย

“แพทองธาร” ย้ำแนวทางเพื่อไทย “ตายังดูดาว เท้ายังติดดิน”

เป้าหมายสำคัญของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แบบยกเครื่องพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ นอกเหนือจากหวังจะทำให้พรรคเพื่อไทยเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ดังที่เจ้าตัวประกาศไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ยังมีภารกิจใหญ่ คือการพลิกโฉมหน้าพรรคใหม่ เป็นการรีเอ็นจิเนียริ่ง หรือการปรับเปลี่ยนรื้อระบบการบริหารภายในใหม่ โดยคนรุ่นใหม่ๆ ที่นำโดยอุ๊งอิ๊ง และอาจมีนายทักษิณ ชินวัตร ที่กำลังใกล้เวลาพ้นโทษ เป็นที่ปรึกษาคนสำคัญ

จุดเด่นของ “อุ๊งอิ๊ง” ที่ถูกพูดถึงมาก คือการเป็นคนรุ่นใหม่ ไฟแรง มีวิสัยทัศน์เข้ายุคสมัย มีความเข้าใจและกำลังผลักดันเรื่องซอฟท์เพาเวอร์ของดีของไทยในขณะนี้ ในฐานะรองประธานกรรมการซอฟท์เพาเวอร์แห่งชาติ

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบทบาทในการร่วมขับเคลื่อนงานของรัฐบาลอีกตำแหน่ง ในฐานะรองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ขับเคลื่อนนโยบาย “30 บาทพลัส” ทั้ง 2 ชุดนี้ มีนายเศรษฐา นายกรัฐมนตรี นั่งเป็นประธาน

เท่ากับเป็นช่วงศึกษาเรียนรู้งานเพิ่มพูนประสบการณ์ ซึ่งในเชิงทางการเมืองแล้ว ไม่ต่างจากเป็น “นายกฯเงา” ถือเป็นจังหวะก้าวย่างสำคัญ เตรียมพร้อมรับงานใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า เห็นได้จากข่าวคราวความเคลื่อนไหวของ “อุ๊งอิ๊ง” ขณะนี้ ไม่ได้ด้อยไปกว่านายเศรษฐา ทั้งในมุมมองของสื่อและกูรูทางการเมือง

เท่ากับ หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองอย่างใดอย่างหนึ่งกับนายเศรษฐา หรือเจอภาวะทางตัน “อุ๊งอิ๊ง” มีโอกาส สามารถขึ้นทำหน้าที่แทนได้ทันที ทั้งในฐานะแคนดิเดทนายกฯ อีกคนหนึ่งของพรรคเพื่อไทย และหากย้อนกลับไปดูคะแนนนิยมจากการทำโพลของนิด้าหรือสำนักอื่น ๆ คะแนนนิยมอุ๊งอิ๊ง เหนือกว่านายเศรษฐามาตลอด

ถือเป็นช่วงเวลาเปล่งรัศมีท้าทายขีดความสามารถของ “อุ๊งอิ๊ง” อย่างเด่นชัด ในฐานะทายาททางการเมืองตัวจริงของนายทักษิณ ขณะเดียวกัน จะเป็น “เดอะแบก” หรือคนรับภาระสำคัญที่สุด ในการนำพาพรรคเพื่อไทยเดินหน้านับจากนี้ และเตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง สส.ครั้งหน้า ซึ่งคู่แข่งสำคัญ หนีไม่พ้นพรรคก้าวไกล

ในฐานะหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ แกนหลักพรรคฝ่ายรัฐบาล ย่อมมีปัจจัยเกื้อหนุนพร้อมสรรพ ทั้งเรื่องงบประมาณและสื่อของรัฐ กุมความได้เปรียบเหนือพรรคก้าวไกล ที่เป็นฝ่ายค้าน

แต่ต้องไม่ลืมว่า การเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 พรรคก้าวไกลไม่น่าจะใช้ทุนรอนสำหรับการเลือกตั้งมากเท่าใดนัก แต่กลับเป็นพรรคที่สร้างปรากฎการณ์ “แลนด์สไลด์” เป็นพรรคใหญ่อันดับ 1 แซงหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ในโค้งสุดท้ายชนิดตะลึงจังงังถ้วนหน้า

หากเลือกตั้งครั้งต่อไป ประวัติศาสตร์เกิดซ้ำรอยอีกครั้ง ย่อมส่งผลถึงชื่อเสียง ภาพพจน์ ภาวะความเป็นผู้นำ และเส้นทางทางการเมืองของ “อุ๊งอิ๊ง” อย่างปฏิเสธไม่ได้เช่นกัน

จึงเป็น “ดาบสองคม” ของ น.ส.แพทองธาร อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง