รัฐบาลยืนยันหาก นศ.เคลื่อนไหวอีกต้องดำเนินการทางกฎหมาย
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า หากกลุ่มนักศึกษามีการเคลื่อนไหวอีก ทาง คสช. จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ดังนั้นไม่ว่าจะเคลื่อนไหวอีกกี่ครั้ง ก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
สอดคล้องกับความเห็นของ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่า แม้กลุ่มนักศึกษาจะได้รับการปล่อยตัวแต่ไม่ได้หมายความว่าคดีความสิ้นสุดลงไปด้วย เพราะขั้นตอนต่อไปอยู่ที่ตำรวจจะสรุปสำนวนเพื่อเสนออัยการว่า สมควรส่งฟ้องหรือไม่ต่อไปและเมื่อทั้งหมดได้รับการปล่อยตัวแล้ว ทุกฝ่ายควรหยุดการเคลื่อนไหวที่จะสร้างความวุ่นวายในสังคมเพราะไม่มีเงื่อนไขหรือเหตุผลใด ๆ ที่จะต้องจัดกิจกรรมเช่นที่ผ่านมาอีกแล้ว ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
ขณะที่นายสุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาองค์การสิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรต์วอตช์ ประจำประเทศไทย กล่าวถึงกรณีการปล่อยตัว 14 นักศึกษาว่า เป็นเพียงการสร้างภาพเพื่อเป็นการลดแรงกดดันภายในประเทศและภายนอกประเทศเพราะในความเป็นจริงแล้ว นักศึกษาทั้งหมดยังต้องโดนดำเนินคดีในศาลทหารต่อไป โดยเฉพาะข้อหาร้ายแรง ซึ่งมีโทษสูงสุดคือการจำคุก 7 ปี
สิ่งที่เกิดขึ้นคือบรรยากาศการปิดกั้น ลิดรอนสิทธิเสรีภาพและปราบปรามผู้ที่มีความเห็นต่าง สิ่งที่ฮิวแมนไรต์วอตช์เรียกร้อง คือต้องการให้ข้อกล่าวหาในการดำเนินคดีของนักศึกษาเหล่านี้หมดไปและการดำเนินคดีต่อบุคคลอื่น ๆ ที่เห็นต่างจากรัฐบาลยุติลงโดยไม่มีเงื่อนไขในทันที จึงจะเป็นการบรรลุผลอย่างแท้จริงในการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ
ด้านพันเอกวินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ระบุถึงความเห็นของนายสุณัย ว่า เป็นเพียงมุมความคิดที่อาศัยทัศนคติส่วนบุคคล โดยข้อเท็จจริงเป็นเรื่องดุลพินิจของศาล ที่คงไม่มีใครสามารถไปก้าวล่วงได้ การให้ข้อมูลใดๆ ควรคำนึงถึงเกียรติขององค์กรนั้น ๆ
ส่วนที่ระบุว่าบรรยากาศการปิดกั้นลิดรอนสิทธิ เสรีภาพและปราบปรามผู้ที่มีความเห็นต่าง ปัจจุบันมั่นใจว่า คนในสังคมยังคงมีสิทธิและเสรีภาพภายใต้กรอบของกฎหมายเหมือนเดิม