ฝนเริ่มตกในหลายพื้นที่ภาคเหนือ บรรเทาวิกฤตภัยแล้ง เกษตรกรเร่งเพาะปลูก
วันนี้ (8 ก.ค.2558) ชาวนาหลายอำเภอใน จ.สุพรรณบุรี รวมตัวที่สำนักงานบำรุงรักษาสามชุก เรียกร้องให้ชลประทาน จัดสรรน้ำอย่างเป็นธรรม ชาวนากลุ่มนี้เป็นผู้ใช้น้ำจากคลอง 2 ขวา ซึ่งรับน้ำจากแม่น้ำท่าจีน อ้างว่า ชลประทานแบ่งน้ำไม่เป็นธรรม เนื่องจากการจัดสรรน้ำไม่เป็นระเบียบ ชาวนาที่อยู่ต้นน้ำ สูบน้ำจนไม่เหลือให้ชาวนาพื้นที่ท้ายคลอง เช่น ต.สวนแตง ต.ตลิ่งชัน ต.ไร่รด อ.เมือง ไม่ได้รับน้ำกระทบนาข้าวกว่า 18,000 ไร่ ส่วนที่จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ต้องเร่งนำน้ำจากรถดับเพลิง ใส่บ่อพักร่องสวนเล็กช่วยเหลือเกษตรกรนาหญ้า ในพื้นที่หมู่ 1 ถึงหมู่ 11 ต.หนองสามวัง ในอ.หนองเสือ หลังระดับน้ำในคลอง 12 แห้งขอด
ส่วนสภาพถนนลูกรังเลียบคลองส่งน้ำคลอง 2 ต.บางสมบูรณ์ อ.องครักษ์ จ.นครนายก ทรุดตัวลึกประมาณ 1 เมตร เนื่องจากผลกระทบจากสภาวะน้ำในคลองแห้งขอดจากภัยแล้ง เจ้าหน้าที่เร่งถมดินเพื่อซ่อมแซม เนื่องจากเป็นเส้นทางที่ชาวบ้านใช้ขนส่งสินค้าเกษตร ส่วนที่บริเวณประตูระบายน้ำเขื่อนมะขามเฒ่า ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งกั้นระหว่างน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำตะคอง มีสภาพตื้นเขินจนเทศบาล ต.บ้านใหม่ ไม่สามารถผลิตน้ำประปาได้ หลังชาวนา อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน และอ.ขามทะเลสอ ลักลอบสูบน้ำไปทำนาปีเป็นจำนวนมาก
ขณะที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เร่งผันน้ำจากแม่น้ำโขง ไปยังลำห้วยโมงทั้งวันทั้งคืนเพื่อส่งน้ำต่อเข้าไปยังพื้นที่การเกษตร อ.ท่าบ่อ อ.ศรีเชียงใหม่และอ.โพธิ์ตาก กว่า 30,000 ไร่ ที่กำลังประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง
ตรงข้ามกับนาข้าวหลายพื้นที่ใน จ.พะเยา ที่เริ่มกลับมามีน้ำท่วมขังให้อีกครั้ง หลังจากฝนที่ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เช่นเดียวกับ กว๊านพะเยา ซึ่งเหลือน้ำเพียงร้อยละ 50 ก็เริ่มมีน้ำไหลเข้าพื้นที่ แต่ยังคงมีปริมาณไม่มากนัก
เช่นเดียวกับ จ.เชียงราย ฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวัน แม้จะทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากพัดสะพานข้ามแม่น้ำคำ ที่บ้านหินแตก ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง ชำรุดเสียหายแต่ก็ทำให้แม่น้ำสายหลักๆหลายสายโดยเฉพาะแม่น้ำกก แม่น้ำจัน แม่น้ำลาว และแม่น้ำคำ เริ่มมีระดับน้ำสูงขึ้นทำให้เกษตรกรต่างเร่งทำการเพาะปลูกกันอย่างคึกคัก