ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง (ศวอล.) ออกปฏิบัติงานสำรวจการแพร่กระจายสัตว์ทะเลหายาก บริเวณพื้นที่ จ.ตรัง โดยวิธีการบินสำรวจ (Aerial Survey) โดยใช้เครื่องบินปีกตรึง 2 ที่นั่ง สำรวจแบบ Line transect และ Hot spot และวิธีการสำรวจทางเรือ ณ บริเวณเกาะลิบง เกาะมุกด์และบริเวณแนวหญ้าทะเลใกล้เคียง ในวันที่ 5-11 มีนาคม พ.ศ. 2567
ผลการสำรวจโดยประมาณในเบื้องต้นพบพะยูน 36 ตัว เป็นพะยูนคู่แม่-ลูก จำนวน 1 คู่ , โลมาหลังโหนก 6 ตัว เป็นโลมาคู่แม่-ลูก 2 คู่ และเต่าทะเล 38 ตัว ผลการตรวจสุขภาพประเมินสุขภาพจากการสังเกตด้วยสายตา พบว่าพะยูนแสดงพฤติกรรมว่ายน้ำหาอาหารบนแนวหญ้าทะเล
นอกจากนี้ยังพบพะยูนคู่แม่-ลูก ซึ่งแสดงถึงความสมบูรณ์เพศของตัวสัตว์ โดยโลมาหลังโหนกพบว่าสุขภาพโดยรวมสมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีบาดแผลหรือร่องรอยที่เกิดจากการถูกเครื่องมือประมงหรือขยะทะเลพันรัด รวมถึงเต่าทะเล สุขภาพโดยรวมไม่พบพฤติกรรมที่แสดงความผิดปกติ
facebook : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
ทั้งนี้จากการสำรวจในปี 2566 พบพะยูนในพื้นที่มีจำนวนไม่น้อยกว่า 180 ตัว เป็นคู่แม่-ลูก 12 คู่ โลมาหลังโหนก 19 ตัว และเต่าทะเล 174 ตัว โดยปีนี้ประชากรลดลง ซึ่งเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ในอนาคตอันใกล้
ล่าสุดวันนี้ (13 มี.ค.) นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมทีมนักวิทยาศาสตร์ทางทะเลกรม ทช. จะลงพื้นที่ จ.ตรัง เพื่อสำรวจสถานการณ์ตลอดจนสาเหตุของหญ้าทะเลเสื่อมโทรม ตลอดจนจำนวนพะยูนและสัตว์ทะเลหายากที่ลดจำนวนลง
อ่านข่าว : ต้นตอวิกฤต "หญ้าทะเล" จ.ตรัง ระบบนิเวศเปลี่ยน หรือ มือมนุษย์
facebook : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
กระบี่พบพะยูน 31 ตัว เต่าทะเล 26 ตัว
ขณะที่สำรวจการแพร่กระจายสัตว์ทะเลหายาก บริเวณพื้นที่ จ.กระบี่ พบพะยูน 31 ตัว เป็นพะยูนคู่แม่-ลูก จำนวน 2 คู่ และเต่าทะเล 26 ตัว ผลการตรวจสุขภาพประเมินสุขภาพจากการสังเกตด้วยสายตา พบว่าพะยูนแสดงพฤติกรรมว่ายน้ำหาอาหารบนแนวหญ้าทะเล นอกจากนี้ยังพบพะยูนคู่แม่-ลูก ซึ่งแสดงถึงความสมบูรณ์เพศของตัวสัตว์ รวมถึงเต่าทะเล สุขภาพโดยรวมไม่พบพฤติกรรมที่แสดงความผิดปกติ
ทั้งนี้ในปี 2566 ผลการสำรวจโดยประมาณในเบื้องต้นพบพะยูน 22 ตัว เป็นพะยูนคู่แม่-ลูก จำนวน 3 คู่ และเต่าทะเล 74 ตัว
อ่านข่าว : สถิติ "หญ้าทะเล" ตรัง เสื่อมโทรม เปิด 2 สาเหตุทำลดฮวบ 1 หมื่นไร่
เรียกร้องเร่งแก้วิกฤตพะยูน-หญ้าทะเล
นายภาคภูมิ วิธานติรวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิอันดามัน จังหวัดตรัง 1 ในคณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินงานและแก้ไขปัญหาการเสื่อมโทรมของแหล่งหญ้าทะเลในบริเวณจังหวัดตรังและจังหวัดกระบี่ เรียกร้องให้ รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งแก้ปัญหา วิกฤตพะยูนตรัง หลังพบพะยูนทยอยตายมากขึ้น รวมไปถึงวิกฤตหญ้าทะเลที่ตายเป็นจำนวนมาก โดยเห็นว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพียงกรมเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาได้
จากกรณีวิกฤตหญ้าทะเล จ.ตรัง เสื่อมโทรมตายลงเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อแหล่งอาหารของพะยูนฝูงสุดท้ายของประเทศไทย รวมทั้งสัตว์ทะเลหายากอื่นๆ
ภาคภูมิ วิธานติรวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิอันดามัน
ต่อมากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้แต่งตั้งคณะทำงานศึกษาแหล่งหญ้าทะเลเสื่อมโทรม ระดมทีมนักวิทยาศาสตร์ ระดับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านของประเทศลงพื้นที่สำรวจหาสาเหตุระบุว่าเกิดจากภาวะโลกร้อน ทำให้ระดับน้ำทะเลลดต่ำลงมากขึ้นและนานกว่าปกติ ทำให้หญ้าผึ่งแดดนานขึ้น
ซึ่งการเกยตื้นตายของพะยูนตัวล่าสุด มีสภาพผอม มีเพรียงเกาะตามลำตัวจำนวนมาก แสดงอาการชัดเจนว่าป่วยและขาดอาหาร สืบเนื่องจากปัญหาหญ้าทะเลตายกว่า 30,000 ไร่ เป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้อาหารพะยูนขาดแคลน โดย 3-4 ปีมาแล้ว เพราะมีการพบพะยูนเกยตื้นตายจำนวนมาก ส่วนใหญ่เกิดจากอาการป่วย และสาเหตุหลักเกิดจากภาวะการขาดแคลนอาหารที่มาจากความไม่สมดุลทางระบบนิเวศ
เรื่องนี้ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ควรจะมีข้อสั่งการ และต้องเร่งกู้วิกฤตในครั้งนี้โดยเร็ว เพราะต้องอาศัยทั้งคน ความรู้ งบประมาณ และต้องการความเร็วในการทำงาน หากมัวแต่หาสาเหตุเพียงเรื่องเดียว พะยูนคงตายหมด ควรทำด้านการฟื้นฟูควบคู่กันไปด้วย
- “บิ๊กป๊อด” เคาะ 3 มาตรการเร่งด่วน โซนนิ่ง-คุมท่องเที่ยว แก้หญ้าทะเลตรังเสื่อมโทรม
- ทช.ชันสูตรซากพะยูนเกยตื้นเกาะลิบง คาดป่วยตายตามธรรมชาติ
ตะกอนทรายทับถมแหล่งหญ้าทะเล
ขณะที่ชาวบ้านชายฝั่งในพื้นที่รวมทั้งเครือข่ายอนุรักษ์ ระบุอีกสาเหตุหนึ่งที่สำคัญ เริ่มต้นจากการทับถมของตะกอนทรายจากการขุดลอกร่องน้ำกันตัง โดยกรมเจ้าท่าเพื่อการเดินเรือที่ตะกอนดินเข้ามาทับถมแหล่งหญ้าทะเลในบริเวณเกาะลิบง และขณะนี้แม้จะหยุดขุดไปแล้ว แต่ผลกระทบยังคงมีมาต่อเนื่อง
ซึ่งถือว่าขณะนี้สถานการณ์หญ้าทะเลอยู่ในขั้นวิกฤต ส่งผลให้พะยูนเสี่ยงสูญพันธุ์ หรือย้ายถิ่นฐานออกนอกพื้นที่เขตอนุรักษ์ และเพิ่มปัจจัยเสี่ยงการตายจากอุบัติเหตุ และภัยคุกคามอื่นๆ ได้
อ่านข่าวอื่นๆ :
ศึกขัดแย้ง “คน-ช้างป่า” 12 ปียังไม่จบ ระยะทางอีกยาวไกล