เปิด 12 ธุรกิจ "สถานบันเทิงครบวงจร" ฝ่าฝืนโทษสูงสุดปรับ 5 แสน

การเมือง
28 มี.ค. 67
18:07
719
Logo Thai PBS
เปิด 12 ธุรกิจ "สถานบันเทิงครบวงจร" ฝ่าฝืนโทษสูงสุดปรับ 5 แสน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เปิดร่าง พ.ร.บ. เอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ โครงสร้างทำงานมีกรรมการนโยบาย และกรรมการบริหาร กำกับดำเนินการ พร้อมบทกำหนดโทษ ปรับ 500,000 บาท กรณีผู้ประกอบการปล่อยละเลยให้มีการกระทำผิดกฎหมาย

วันนี้ (28 มี.ค 2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาเรื่องการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร ได้แนบ ร่างพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ.... มาด้วยโดยมีเนื้อหาสาระ 10 หมวด 69 มาตรา กำหนดนิยามคำต่างๆ กำหนดโครงสร้างคณะกรรมการ นโยบายการประกอบ ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ที่มี นายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมาธิการ มีรองนายกฯ 1 คนที่นายกฯ มอบหมายเป็นรองประธาน มี รมว.คลัง , รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา , รมว.มหาดไทย เป็นกรรมการ และให้มีผู้ทรงคุณวุฒิที่นายกฯ แต่งตั้งจากนักวิชาการหรือตัวแทนภาคประชาสังคมจำนวนไม่เกิน 4 คน เป็นกรรมการ

ซึ่งมีหน้าที่ในการกำหนดนโยบายจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจร กำหนดนโยบายการบริหารจัดการประกอบธุรกิจ กำหนดมาตรการป้องกัน แก้ไขหรือเยียวยาผลกระทบที่จะเกิด ออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาต และอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ออกประกาศกำหนดลักษณะและประเภทของธุรกิจที่อาจดำเนินการได้ในสถานบันเทิงตามบัญชีแนบท้าย ออกประกาศกำหนดพื้นที่ประกอบธุรกิจสถานบันเทิง ออกอากาศเพื่อกำหนดประเภท คุณสมบัติ มาตรฐานและความปลอดภัยอาชีวะอนามัยของแรงงานในสถานบันเทิง พิจารณาอนุญาตระงับหรือเพิกถอนใบอนุญาต พิจารณาการอุทธรณ์ของผู้รับใบอนุญาต

อ่านข่าว : เรือธงสกัดสีเทา “กาสิโนครบวงจร” พลุไฟรัฐบาลจุดแก้เศรษฐกิจ

และกำหนดคณะกรรมการบริหารที่ประกอบไปด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งคณะกรรมการนโยบายแต่งตั้งจำนวนไม่เกิน 4 คน เป็นกรรมการ ปลัดกระทรวงการคลังการ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นกรรมการ โดยให้กรรมการบริหารเลือกกรรมการหนึ่งคนเป็นประธานโดยโดยหลักเกณฑ์และวิธีในการประชุมเป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด โดยมีอำนาจในการพิจารณาเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิง

โดยในมาตรา 43 กำหนดเกี่ยวกับผู้ขออนุญาตประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรจะต้อง (1) เป็นนิติบุคคลซึ่งจดทะเบียนในประเทศไทย (2) มีทุนจดทะเบียนชำระเต็มไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท (3) กรรมการของผู้ขออนุญาตต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 7

และ มาตรา 52 กำหนดลักษณะประเภทและวิธีการเล่นของกิจกรรมต่างๆ ในกาสิโนให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศประกาศกำหนด มาตรา 53 กาสิโนต้องมีเขตบริเวณที่ชัดเจนมีการควบคุมการเข้าออก มาตรา 54 ห้ามบุคคลดังต่อไปนี้เข้าเล่นหรือเข้าพนันในกาสิโน คือ ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์ บุคคลซึ่งถูกสำนักงานสั่งห้ามเข้า บุคคลซึ่งถูกศาลสั่งห้ามเล่นการพนัน และเงื่อนไขอื่นตามที่กำหนด

ยังมีบทกำหนดโทษ กรณีบุคคลฝ่าฝืนเข้าเล่นพนันต้องชำระค่าปรับไม่เกิน 20,000 บาท ผู้ได้รับใบอนุญาตที่ปล่อยปละละเลยยินยอมให้บุคคลที่ถูกห้ามเข้าเล่นการพนันต้องชำระค่าปรับเป็นพินัยไม่เกิน 100,000 บาท ผู้รับใบอนุญาตปล่อยละเลยหรือยินยอมให้มีการกระทำผิดตามกฎหมายว่าด้วยการพนันในกาสิโนที่ตั้งอยู่ในสถานบันเทิงครบวงจรต้องชำระค่าปรับไม่เกิน 500,000 บาท

สำหรับบัญชีแนบท้ายประเภทธุรกิจของสถานบันเทิงครบวงจร ประกอบไปด้วย 12 รายการ คือ 

1. ห้างสรรพสินค้าครบวงจร
2. โรงแรมระดับ 2 ดาว
3. ร้านอาหารและบาร์
4.ศูนย์ประชุมหรือสถานที่จัดนิทรรศการขนาดใหญ่
5.ศูนย์สุขภาพครบวงจร
6.สนามกีฬา
7.ยอร์ชและครูซซิ่งคลับ
8.สถานที่เล่นเกม
9.สระว่ายน้ำ และสวนน้ำ
10.สวนสนุก
11.พื้นที่สำหรับส่งเสริมวัฒนธรรมไทย และสินค้า OTOP
12. กิจการอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการบริหารกำหนด

อ่านข่าวอื่นๆ : 

วิเคราะห์ เลือก สว.ชุดใหม่ "เงียบ-ซับซ้อน" ที่สุดในโลก

"ปานปรีย์" เชื่อช่วย 8 ตัวประกันไทยได้​ หลัง "ยูเอ็น" ประกาศหยุดยิง​

ข่าวที่เกี่ยวข้อง