ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"พิธา" ยอมรับตั้งใจเยือน "เชียงใหม่" ไม่ได้มาปาดหน้า"ทักษิณ"

การเมือง
13:20
691
"พิธา" ยอมรับตั้งใจเยือน "เชียงใหม่" ไม่ได้มาปาดหน้า"ทักษิณ"
อ่านให้ฟัง
04:52อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"พิธา" ยอมรับตั้งใจเยือนเชียงใหม่ ไม่ได้มาปาดหน้า"ทักษิณ" ย้ำ ไม่มีนัยการเมือง มองกระแสพื้นที่ ไม่มีใครเป็นเจ้าถิ่น ประชาชนไม่ใช่สมบัติ ของนักการการเมือง ลั่น "ก้าวไกล" ได้รับคะแนนความไว้วางใจเป็นอันดับ 1 มี สส. 7 คนจาก 10 คน ก็ต้องลงมาช่วยเขาทำงาน​

วันนี้ (12 เม.ย.2567) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ จ.ลำพูน ร่วมงานประเพณีเทศกาลสงกรานต์ "อุโมงค์ จุ่มใจ๋ ปี๋ใหม่เมือง" พร้อมกับได้รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุในพื้นที่ด้วย

จากนั้นช่วงบ่าย นายพิธา จะลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามการส่งผู้สมัครลง นายกฯ อบจ.ที่มีการเปิดตัวก่อนหน้านี้ โดยไปไหว้พระ และให้กำลังใจผู้ว่าฯ เชียงใหม่

นายพิธาระบุว่า การลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ไม่ได้มาตามนายทักษิณ ชิน​วัตร​ แต่มาตามว่าที่ผู้สมัคร อบจ.และพี่น้องประชาชน โดยมาใช้วันสุดท้ายก่อนปิดยาวช่วงสงกรานต์ให้เป็นประโยชน์

นอกจากนี้ยังต้องการใช้โอกาสนี้ สื่อสารผ่านสื่อมวลชน เพื่อเชิญชวนประชาชนไปเลือกตั้ง อบจ. ให้ความสำคัญเท่ากับการเลือกตั้งระดับชาติ อยากให้มาใช้สิทธิเพราะหากคนมาใช้สิทธิน้อย ก็ไม่ตรงตามหลักประชาธิปไตยและเสียดายงบประมาณในการเลือกตั้งด้วย ที่ครั้งหนึ่งใช้งบประมาณจำนวนมาก

ส่วนการเดินทางมา จ.เชียงใหม่ ในช่วงเดียวกับนายทักษิณถึง 2 ครั้งแล้ว อาจถูกเชื่อมโยงได้ นายพิธา กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นความบังเอิญ เพราะที่มาครั้งแรกเพื่อต้องการเรียนรู้การดับไฟป่า และเป็นช่วงที่ จ.เชียงใหม่ ประสบปัญหาสภาวะทางอากาศสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ โดยพรรคก้าวไกลมี สส.7 คนจาก 10 คน และก็ได้รับคะแนนความไว้วางใจเป็นอันดับ 1 ก็ต้องลงมาช่วย สส.ทำงาน เพื่อที่จะนำกลับไปอภิปรายได้อย่างถูกต้อง

นายพิธา ระบุว่า คิดว่านักการเมือง ถ้ายึดโยงกับประชาชน ก็ขึ้นมาทั้งนั้น เข้าใจว่า รมว.สาธารณสุข รมว.มหาดไทย ก็เพิ่งลงพื้นที่ ซึ่งตนในฐานะฝ่ายค้านต้องมาทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลดังนั้นจึงเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่มีนัยทางการเมืองแต่อย่างใด

สำหรับกระแสของพรรคก้าวไกล จะเดินทางไป จ.เชียงใหม่ ท่ามกลางเจ้าถิ่นอย่างพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไรบ้าง นายพิธากล่าวว่า ไม่ได้คิดว่าพรรคไหนเป็นเจ้าถิ่นของใคร ประชาชนไม่ใช่สมบัติ ของนักการเมืองท่านไหน แต่ตอนมีความรับผิดชอบกับเชียงใหม่ เพราะเขาเลือกผมมาถล่มทลาย มาเป็นอันดับ 1 ของเชียงใหม่และจำนวน สส. ที่มีอยู่ และพื้นที่ที่มีไฟป่าเยอะก็เป็นเขตของพวกผมทั้งนั้น เพียงแต่ว่าพอเป็น สส.แล้ว ไม่มีงบประมาณ ทำได้แค่ตรวจสอบรัฐบาลหรือเสนอแนะ ก็ต้องลงพื้นที่เพื่อให้สสทำงานได้ เพราะ 10 ปากว่าไม่เท่าตาเห็น

ขณะที่การเลือกตั้งท้องถิ่น ที่ขณะนี้เกิดการแข่งขันกันหลายกลุ่มทั้ง พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย และกลุ่มทัศนีย์​ บูรณประกร นายพิธา กล่าวต่อว่า เป็นสีสันทางการเมือง การแข่งขัน ย่อมเป็นเรื่องดี แต่ตนคิดว่ายังเร็วเกินไป หลังจากนี้ก็จะมีเรื่องนโยบายและไดนามิคทางการเมือง ช่วงนี้ตนขอสื่อสารให้คนมาเลือกตั้งอบจให้เยอะก่อน อยากให้รู้ว่าการเลือกตั้ง อบจ.มีศักดิ์มีศรีไม่แพ้ สส.