อายัดทรัพย์ 250 ล้านบาท หลานเจ้าของแหนมชื่อดังลักเงินบริษัท

อาชญากรรม
10 พ.ค. 67
18:46
736
Logo Thai PBS
อายัดทรัพย์ 250 ล้านบาท หลานเจ้าของแหนมชื่อดังลักเงินบริษัท
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ขยายผลตรวจค้นบ้านพัก "หลานเจ้าของแหนมชื่อดัง" ยักยอกเงินบริษัทเกือบ 400 ล้านบาท อายัดทรัพย์สินทั้งเงินสด รถยนต์หรู โฉนดที่ดิน พระเครื่อง ทองคำ รวมมูลค่า 250 ล้านบาท

วันนี้ (10 พ.ค.2566) ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม แถลงผลการจับกุมหลานเจ้าของบริษัทแหนมหมูชื่อดัง ยักยอกทรัพย์บริษัทฯ 400 ล้านบาท หลังควบคุมตัว น.ส.นภษร และนายธชธร ผู้เป็นสามี เข้าตรวจค้นบ้านพัก และสถานที่รวม 7 แห่ง ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี จ.นครนายก และ จ.นครราชสีมา เพื่อตรวจค้นและอายัดทรัพย์สิน ที่ต้องสงสัยว่าได้มาจากเงินที่ลักไปจากบัญชีของบริษัท ซึ่งเป็นธุรกิจของเครือญาติ

ผลการตรวจค้น ตำรวจอายัดทรัพย์หลายรายการ เช่น รถยนต์หรู โฉนดที่ดิน ทองคำแท่ง พระเครื่อง เงินสด 4,000,000 บาท รวมทรัพย์สินที่อายัดไว้ 780 รายการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 250 ล้านบาท

พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า คดีนี้ผู้บริหารบริษัท เป็นผู้เข้ามาแจ้งความกับกองบังคับการปราบปราม เนื่องจากมีบริษัทคู่ค้าร้องเรียนไม่ได้รับเงินค่าวัตถุดิบ รวมถึงบัญชีรายรับ -รายจ่าย ของบริษัทก็มีข้อพิรุธ จึงเชื่อว่า มีการทุจริตภายในเกิดขึ้น เมื่อตำรวจตรวจสอบ ก็พบว่า ผู้ที่ทุจริตยักยอกเงิน ก็คือ เจ้าหน้าที่การบัญชีของบริษัท และเป็นหลานสาวเจ้าของบริษัทด้วย

ผู้กระทำผิดเป็นหลานของเจ้าของบริษัท ซึ่งมีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับด้านบัญชีและการเงิน โดยลักทรัพย์บริษัทตั้งแต่ 2556-2566 รวม 10 ปี ทำกว่าพันครั้ง ได้ทรัพย์สินรวมมูลค่า 400 ล้านบาท

พฤติกรรมของ น.ส.นภษร พบการทำธุรกรรมโอนเงินสดผ่านบัตรเอทีเอ็มของบริษัท เข้าบัญชีธนาคารของตนเอง และอีกวิธีคือออกเช็คเงินสดในนามบริษัทฯ เพื่อชำระค่าสินค้าแก่คู่ค้าของบริษัท โดยเป็นการสั่งจ่ายเข้าบัญชีธนาคารของตัวเอง ตลอด 10 ปี ที่ผ่านมา มีการนำเงินไปซื้อทรัพย์สินจำนวนมาก ซึ่งส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบทั้งหมด เบื้องต้นจะต้องคืนทรัพย์ที่เอามาให้กับเจ้าของ ส่วนที่เกินหากชี้แจงที่มาไม่ได้ ก็จะเข้าข่ายได้มาไม่ถูกต้อง และถูกยึดตกเป็นของแผ่นดิน

สำหรับความผิด น.ส.นภษร ถูกดำเนินคดีลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง หรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้างในเวลากลางคืน ใช้บัตรเอทีเอ็มของผู้อื่นโดยมิชอบ, คดีฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน ส่วนนายธชธร ถูกดำเนินคดีฟอกเงิน แต่เบื้องต้นทั้ง 2 คน ยังให้การปฏิเสธทุกข้อหา

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง