ภัยแล้งทำ "พริก" ราคาแพง ผลผลิตวูบ 50 % ชี้แพงสุดแค่กิโลละ 650 บาท

เศรษฐกิจ
24 พ.ค. 67
16:10
293
Logo Thai PBS
 ภัยแล้งทำ "พริก" ราคาแพง ผลผลิตวูบ 50 % ชี้แพงสุดแค่กิโลละ 650 บาท
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมการค้าภายใน เผยพริกแพง เหตุภัยแล้งทำผลผลิตวูบ 50 % โต้ราคาแพงสุดแค่ 650 บาท/กก. ไม่ใช่ 800 บาท/กก. สั่งพาณิชย์จังหวัดเปิดจุดหน่ายผัก พริกราคาถูก 20 จังหวัด

วันนี้ (24 พ.ค.2567) นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่าพริกขี้หนูมีราคาแพงสูงถึงกิโลกรัมละ 800 บาท ว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ พบว่ามีราคากิโลกรัม ละ 600-650 บาท

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน

ปัจจุบันพริกที่ใช้บริการโภคมี 3 ชนิด คือ พริกขี้หนูสวนหอม พริกขี้หนูสวนธรรมดา และพริกขี้หนูจินดา โดยพริกขี้หนูที่มีราคาเพิ่มสูงขึ้นมากคือ พริกขี้หนูสวนหอม ซึ่งนิยมใช้ในการทำน้ำจิ้มซีฟู๊ด

อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่า ปัจจุบันพบว่า มีการเพาะปลูกเฉพาะพื้นที่จ.กาญจนบุรี เท่านั้น ซึ่งขณะนี้มีปัญหาผลผลิตลดลงไป 50 % จากปัญหาภัยแล้ง ส่งผลให้ราคาจำหน่ายปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 450-65 บาท สูงกว่าปีก่อน ที่ราคากิโลกรัมละ 320-450 บาท

ส่วนพริกขี้หนูสวนธรรมดา ราคามีการปรับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยปรับจากกิโลกรัมละ 180-220 บาท เป็นกิโลกรัมละ 200-240 บาท ส่วนพริกขี้หนูจินดา ราคาทรงตัวไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น ราคาเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาท

สำหรับผักสดส่วนใหญ่ราคาปรับลดลงแล้ว เมื่อเปรียบเทียบราคากับช่วงสัปดาห์ก่อน เนื่องจากฝนเริ่มตกมากขึ้น โดยผักคะน้า ราคาปรับลดลงจากกิโลกรัมละ 42 บาท เหลือกิโลกรัมละ 39 บาท ถั่วฝักยาว ลดลงจากกิโลกรัมละ 89 บาท เหลือกิโลกรัมละ 66บาท

กะหล่ำลดลงจากกิโลกรัมละ 37บาท เหลือ 36 บาท มีเพียงผักชีเท่านั้นที่ ยังมีราคาปรับเพิ่มขึ้น เพราะฝนที่ตกหนัก ทำให้ผักชีคอหัก และเน่าเสีย โดยราคาปรับจากกิโลกรัมละ 157.40 บาท เป็น 174 บาท

ทั้งนี้ได้ประสานให้พาณิชย์จังหวัด ติดตามตรวจสอบราคาผัก และพริกขี้หนูอย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้กรมการค้าภายในเร่งเชื่อมโยงตลาดผัก และพริก จากแหล่งผลิตไปเสริมในจุดหน่าย 20 จังหวัดที่มีปัญหา เช่น แม่ฮ่องสอน กำแพงเพชร ชัยนาท ลพบุรี ฉะเชิงเทรา นครพนม อำนาจเจริญ สกลนคร บึงกาฬ ภูเก็ต พังงา เป็นต้น เชื่อว่าราคาผักต่างๆ จะเริ่มดีขึ้นเนื่องจากฝนเริ่มตกชุกมากขึ้น

นอกจากนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ไปตรวจสอบสถานการณ์ปาล์มน้ำมัน ที่ จ.พังงา กระบี่ และสุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามดูว่าสาเหตุของราคาที่ปรับตัวลดลง เป็นเพราะสาเหตุอะไร พร้อมให้มีการตรวจสอบการรับซื้อผลปาล์มน้ำมันของลานเท

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

และโรงงานสกัดว่ามีการรับซื้อผลปาล์มดิบเป็นปกติหรือไม่ รวมไปถึงให้มีการติดตามสถานการณ์ผลผลิตในพื้นที่เป็นอย่างไร เพื่อหาข้อเท็จจริงปัญหาทั้งหมดเกิดจากอะไร เพื่อที่จะหามาตรการเข้าไปช่วยเหลือต่อไป

โดยราคาผลปาล์มดิบขณะนี้อยู่ที่ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 4.60 บาท บางพื้นที่ 5 บาทกว่า โดยราคาผลปาล์ดิบที่ปรับลดลง สาเหตุมาจากในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.2567 ที่ผ่านมา ผลผลิตออกสู่ตลาดมากกว่าปกติ และผลผลิตไม่ค่อยมีคุณภาพ จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้ผลปาล์มสุกแดด ไม่ได้สุกธรรมชาติ ทำให้เปอร์เซ็นต์น้ำมันน้อยลง

อย่างไรก็ดี ได้กำชับไปยังผู้ประกอบการจุดรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน (ลานเท) และโรงงานสกัด ให้รับซื้อผลปาล์มตามปกติ ห้ามชะลอการรับซื้อ และห้ามทำให้ผลปาล์มน้ำมันร่วงอย่างไม่เป็นธรรมชาติ หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542

อ่านข่าว: แพงมาก! พริกขี้หนู ราคาพุ่งแตะกิโลกรัมละ 500 บาท

ราคาทอง รอบบ่าย ร่วงแรง 700 บาท นักลงทุนเทขายทำกำไร

"ภูมิธรรม" เดินหน้าประมูลข้าวเก่า 10 ปี ชี้ "แอฟริกา" ตลาดหลัก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง