ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ภาพสะท้อนเลือกตั้ง อบจ. ชัยยะครองเพชรบุรี-ศราวุธนำทัพอุดรธานีชนะขาด

การเมือง
25 พ.ย. 67
20:18
458
Logo Thai PBS
ภาพสะท้อนเลือกตั้ง อบจ. ชัยยะครองเพชรบุรี-ศราวุธนำทัพอุดรธานีชนะขาด
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
วานนี้การเลือกตั้ง นายก อบจ. 3 สนามใหญ่ผ่านพ้นไปแล้ว ประเด็นที่น่าสนใจหลายพื้นที่ จ.อุดรธานี แกนนำ พท. มองว่า นายทักษิณ ชินวัตร ช่วยหาเสียง เป็นปัจจัยหนึ่งทำให้ชนะการเลือกตั้ง ขณะที่คะแนนในรายพื้นที่ พบบางอำเภอ ปชน.มีคะแนนเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ

วันนี้ (25 พ.ย.2567) นายศราวุธ เพชรพนมพร ว่าที่ นายก อบจ.อุดรธานี จากพรรคเพื่อไทย ขึ้นรถแห่ขอบคุณประชาชน ที่ทำให้ได้ 327,487 คะแนน มาเป็นอันดับ 1 เอาชนะคู่แข่งอย่าง นายคณิศร ขุริรัง จากพรรคประชาชน ที่ได้ 268,675 คะแนน เท่ากับว่า นายศราวุธ มีคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งมากกว่า 58,000 คะแนน

ในภาพรวม จ.อุดรธานี มีทั้งหมด 20 อำเภอ นายศราวุธ มีคะแนนนำในทุกอำเภอ มีเพียง อ.หนองวัวซอ ที่นายคณิศร พรรคประชาชน มีคะแนนมากกว่า

"ภูมิธรรม" ชี้ 3 ปัจจัยชนะเลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี

ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ชี้ว่าผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี มาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย สส.ลงพื้นที่-เข้าถึงประชาชนอย่างต่อเนื่อง และ สุดท้ายคือตัวของผู้สมัครรับเลือกตั้ง

นักวิชาการชี้หลายอำเภอ "พรรคประชาชน" คะแนนเพิ่มขึ้น

อีกด้านหนึ่ง หากดูผลการเลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี ย้อนหลังปี 2563 และล่าสุดปีนี้ รวมถึงผลการเลือกตั้ง สส.เมื่อปีที่แล้ว คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ จะพบว่าพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนิยม อยู่ที่กว่า 300,000 คะแนน แต่คะแนนของค่ายสีส้มตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล กระทั่งกลายเป็นพรรคประชาชน พบคะแนนความนิยมของพรรคใน จ.อุดรธานี เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

นักวิชาการ มองว่า พรรคประชาชนได้ความนิยมจากกลุ่มคน Gen Z และกลุ่มเสื้อแดงที่อกหักจากการจับขั้วรัฐบาล ทำให้พื้นที่รอบนอกในหลายอำเภอ มีคะแนนสูสีกับพรรคเพื่อไทย

เลือกตั้ง นายก อบจ.รอบนี้ กลุ่มบ้านใหญ่ตระกูลการเมือง ถูกจับตาเป็นพิเศษ เพราะมีทั้งรักษาเก้าอี้ไว้ได้ และเสียเก้าอี้อย่างที่ จ.เพชรบุรี ตระกูล "อังกินันทน์" ยังรักษาเก้าอี้เอาไว้ได้

แชมป์เก่า "ชัยยะ" ครองเก้าอี้ นายก อบจ.เพชรบุรี 

จ.เพชรบุรี มีผู้สมัคร นายก อบจ. เพียง 2 คน คือ นายชัยยะ อังกินันทน์ อดีตนายก อบจ. ซึ่งมีคะแนนทิ้งห่างผู้ท้าชิงอย่าง นายกฤษณ์ แก้วอยู่ มากกว่า 1 เท่าตัว นายชัยยะ ได้คะแนน 170,171 คะแนน ซึ่งชนะในทุกอำเภอ (8 อำเภอ) ของ จ.เพชรบุรี ขณะที่ นายกฤษณ์ ได้คะแนน 57,854 คะแนน

ผลคะแนนที่ออกมา สอดคล้องกับการวิเคราะห์ก่อนหน้านี้ ที่มองว่า นายชัยยะ เป็นตระกูลการเมือง ที่อยู่กับท้องถิ่นมานาน และครองตำแหน่งนายก อบจ.นานกว่า 20 ปี จึงทำให้มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ต่อคนในพื้นที่ ขณะที่ นายกฤษณ์ แม้จะเคยเป็น สส.พรรคพลังประชารัฐ ต่อมาย้ายสังกัด และล่าสุดเพิ่งเป็นสมาชิกพรรคประชาชน แต่ในการหาเสียง มีกลุ่มการเมืองค่ายสีน้ำเงินร่วมสนับสนุน จึงอาจถูกมาว่ามีฐานการเมืองที่ยังไม่ชัดเจน

ส่วนตระกูลการเมืองที่เสียเก้าอี้ คือ จ.นครศรีธรรมราช ที่ นางกนกพร เดชเดโช แพ้ให้กับผู้ท้าชิงอย่าง น.ส.วาริน ชิณวงศ์

คะแนนเลือกตั้ง นายก อบจ.นครศรีฯ รายอำเภอ "สูสี" 

คะแนนรวมทั้งจังหวัด ปรากฏว่า น.ส.วาริน ชิณวงศ์ ผู้ท้าชิงจากค่ายสีน้ำเงิน จะมีคะแนนนำทิ้งห่าง นางกนกพร เดชเดโช บ้านใหญ่จากค่ายสีฟ้า-พรรคประชาธิปัตย์ กว่า 30,000 คะแนน ท่ามกลางข้อครหาว่า พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับความนิยมลดลงหรือไม่

หากพิจารณาคะแนนในรายอำเภอ ปรากฏว่าคู่ชิงมีคะแนนสูสีกันแทบทุกอำเภอ โดย นางกนกพร มีคะแนนนำใน 11 อำเภอ ขณะที่ น.ส.วาริน มีคะแนนนำใน 12 อำเภอ ทั้งนี้ในพื้นที่ 23 อำเภอ มีเพียง อ.ทุ่งสง เท่านั้นที่ น.ส.วาริน ผู้ท้าชิง มีคะแนนนำทิ้งห่าง นางกนกพร มากกว่า 10,000 คะแนน

ในช่วงการหาเสียง มีข้อสังเกตทั้งการทำโพลที่ทั้งคู่มีความนิยมสูสีกัน การกล่าวหาถึงการซื้อเสียงของผู้สมัครบางคน หัวละ 200 บาท รวมถึงการใช้โซเชียลมีเดียช่วยหาเสียง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ถูกมองว่ามีผลต่อการตัดสินใจของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งสิ้น

ด้านนักวิชาการอิสระที่ร่วมเวทีเสวนาของไทยพีบีเอส ตั้งข้อสังเกตว่าการที่ นางกนกพร อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ชิงลาออกก่อนครบวาระ อาจถูกมองว่าเห็นแก่ประโยชน์ทางการเมือง มากกว่าประโยชน์ของประชาชน และเสียงบประมาณที่ต้องจัดการเลือกตั้งซ้ำซ้อนถึง 2 ครั้ง

อ่านข่าวเพิ่ม :

ทำบุญอุทิศส่วนกุศล 23 ชีวิตรถบัสไฟไหม้ แนะเลี่ยง ถ.วิภาวดีฯ ขาเข้า

"ศราวุธ" จากเพื่อไทย ประกาศชัยชนะ นายก อบจ.อุดรฯ

ปิดศึกชิงนายก อบจ. 3 จว. “อุดรฯ-เพชรบุรี-นครศรีฯ”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง