ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ผบ.ตร.สั่งตรวจสอบ "กลุ่มน้ำไม่อาบ" ดำเนินคดีทุกมิติ

อาชญากรรม
26 พ.ย. 67
20:16
829
Logo Thai PBS
ผบ.ตร.สั่งตรวจสอบ "กลุ่มน้ำไม่อาบ" ดำเนินคดีทุกมิติ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"พล.ต.ท.สำราญ" เผย ผบ.ตร.สั่งตรวจสอบการกระทำความผิดของ "กลุ่มน้ำไม่อาบ" ทุกมิติ เน้นติดตามจับกุมตามหลักฐานที่ปรากฏ พร้อมตรวจสอบการกระทำความผิดในข้อหาอื่นเพิ่มเติม

วันนี้ (26 พ.ย.2567) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณี "กลุ่มน้ำไม่อาบ" รวมตัวขับขี่รถจักรยานยนต์และรถยนต์ไปท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ และมีพฤติกรรมการขับขี่ผิดกฎจราจร รวมถึงการแข่งขันรถในทาง

เบื้องต้น ผบ.ตร.มีคำสั่งให้ตำรวจในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะใน จ.เพชรบูรณ์ ตรวจสอบการกระทำความผิด โดยใช้หลักฐานจากภาพคลิป จากประชาชนและกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ที่โพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ มาเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี โดยได้รับรายงานจากผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ว่า ขณะนี้ได้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดไปแล้วกว่า 1,000 คน

พล.ต.ท.สำราญ ยืนยันว่า จะดำเนินการเอาผิดทุกมิติตั้งแต่กฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2565 ไปจนถึงสืบสวนเกี่ยวกับร้านค้าที่ร่วมสนับสนุนในการกระทำความผิดด้วย ส่วนผู้ที่มีพฤติกรรมพยายามขับขี่รถจักรยานยนต์และรถยนต์แข่งขันในทางโดยไม่สวมป้ายทะเบียน จะต้องพิสูจน์รถและตัวบุคคลติดตามมาดำเนินคดี นอกจากกฎหมายจราจรแล้ว อาจมีการสืบสวนเกี่ยวกับเรื่องประวัติอาชญากรรมและการกระทำความผิดข้อกฎหมายอื่นๆ

อ่านข่าว : ผลกระทบท่องเที่ยว "ทริปน้ำไม่อาบ" ภาพรวมเกิดอุบัติเหตุ 13 ครั้ง

พล.ต.ท.สำราญ นวลมา

พล.ต.ท.สำราญ นวลมา

พล.ต.ท.สำราญ นวลมา

ส่วนมาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดตำรวจไม่ดำเนินการอย่างเร่งด่วนนั้น รอง ผบ.ตร. ระบุว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีนโยบายไม่กระทำการปิดล้อม หรือไล่จับกุมเหมือนในอดีต เนื่องจากอาจส่งผลในเรื่องการเกิดอุบัติเหตุ อาจเป็นเหตุทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตได้ แต่จะเน้นสืบหาพยานหลักฐานเอาผิดตามภายหลัง รวมถึงอาจเชิญผู้ที่เป็นแกนนำกลุ่มในการชักชวนรวมตัว มาทำความเข้าใจเรื่องการรวมตัวไปท่องเที่ยวในอนาคต ซึ่งการรวมตัวไปท่องเที่ยวจำนวนมากเป็นเรื่องที่สามารถกระทำได้ แต่ต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย

ทั้งนี้ จากผลการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในข้อหาพยายามแข่งรถในทาง หรือขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ที่ผ่านมาศาลมีคำสั่งสูงสุดถึงขั้นริบรถ และ สั่งกักขังหรือจำคุกผู้กระทำความผิดไปแล้วจำนวนมาก จึงยกเป็นข้อกฎหมายที่จะดำเนินการเอาผิดกลุ่มคนเหล่านี้ในอนาคต และอยากให้เป็นตัวอย่างสะท้อนไปถึงผู้ที่คิดจะกระทำความผิดด้วย

พร้อมกันนี้ หากประชาชนพบการกระทำความผิดและมีหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นคลิปกล้องหน้ารถ หรือจากโทรศัพท์มือถือ ก็เป็นอีกหนึ่งหลักฐานสำคัญที่ตำรวจจะใช้ดำเนินคดี สามารถส่งร้องเรียนกับสถานีตำรวจในพื้นที่ หรือตามสื่อออนไลน์ต่างๆ ที่เปิดช่องทางให้รับเรื่องร้องเรียน เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกฎหมาย

อ่านข่าว

สกัด "ทริปน้ำไม่อาบ" ทำผิดกฎจราจร 100 คัน ยึดยาเสพติด 1 คน

พบอีก 32 ศพในวัดป่า จ.พิจิตร นายอำเภอสั่งอายัดตรวจสอบ

ปิดแล้ว! คาเฟปลาคาร์ปผิด กม.สาธารณสุข-ไม่มีใบอนุญาต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง