ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

จีนเผยแพร่ภาพชาวอุยเกอร์ถูกส่งกลับจากไทย มัดมือ-คลุมถุงดำ

ต่างประเทศ
12 ก.ค. 58
09:19
174
Logo Thai PBS
จีนเผยแพร่ภาพชาวอุยเกอร์ถูกส่งกลับจากไทย มัดมือ-คลุมถุงดำ

จีนเผยแพร่ภาพชาวอุยเกอร์ที่ถูกส่งกลับจากไทยในสภาพถูกมัดมือไพล่หลังและมีถุงดำคลุมศีรษะ โดยระบุว่าเป็นคนเหล่านี้ใช้การอพยพหนีภัยบังหน้า แต่เจตนาที่แท้จริงคือไปเข้าร่วมรบในสงครามที่ซีเรียและอิรัก

โทรทัศน์ทางการจีนเผยแพร่ภาพชาวอุยเกอร์ขณะเดินทางโดยเครื่องบินโดยมีเจ้าหน้าที่นั่งขนาบข้าง โดยเนื้อหาของข่าวระบุว่าชาวอุยเกอร์จำนวน 109 คนนี้เป็นผู้ที่หลบหนีออกจากประเทศจีนและถูกส่งกลับจากไทยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 ก.ค.2558 โทรทัศน์ทางการจีนยังรายงานด้วยว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นของตำรวจจีน ผู้หลบหนีเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากเขตปกครองตนเองอุยเกอร์ซินเจียง ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน รายงานข่าวระบุว่าคนเหล่านี้ตั้งใจจะเดินทางไปตุรกีเพื่อใช้เป็นทางผ่านเข้าไปในอิรักและซีเรียเพื่อร่วมรบในสงคราม

โทรทัศน์ทางการจีนยังอ้างต่อไปด้วยว่าบรรดาผู้หลบหนีเหล่านี้ให้การรับสารภาพว่าถูกยุยงปลุกปั่นโดยวิดีโอและบันทึกเสียงที่จัดทำโดย "ขบวนการอิสลามแห่งเตอร์เกสถานตะวันออก" และ "ที่ประชุมอุยเกอร์โลก" ซึ่งเป็นขบวนการแบ่งแยกดินแดนและกลุ่มก่อการร้าย ชาวอุยเกอร์ที่ไทยส่งกลับมาให้นี้จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

โทรทัศน์ทางการจีนปิดท้ายว่าตั้งแต่เริ่มปีนี้เป็นต้นมา มีผู้หลบหนีออกนอกประเทศอย่างผิดกฎหมายและพวก "สเนคเฮด" หรือ "หัวงู" ถูกส่งกลับมาจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวนมาก ทั้งนี้ข้อมูลของจีนระบุว่า "ขบวนการอิสลามแห่งเตอร์เกสถานตะวันออก" ซึ่งเป็นกลุ่มที่สหรัฐอเมริกาขึ้นบัญชีเป็นองค์การก่อการร้าย ต้องการแยกดินแดนมณฑลซินเจียงไปตั้งเป็นประเทศเอกราช

ด้านพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มั่นใจว่า รัฐบาลไทยดำเนินการแก้ปัญหาชาวอุยเกอร์ลับลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอย่างถูกต้องเหมาะสมที่สุดแล้ว ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นการตัดสินใจของรัฐบาล เพราะเมื่อมีหลักฐานว่าผู้ลักลอบเข้าเมืองเคยกระทำผิดในประเทศอื่นมาก่อน และพิสูจน์สัญชาติแล้วว่าเป็นพลเมืองของประเทศนั้นๆ ไทยก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากส่งตัวกลับไปยังประเทศต้นทาง จึงไม่มีเหตุผลที่จะตำหนิการดำเนินการของไทยในเรื่องนี้

พล.ต.สรรเสริญยังเชื่อมั่นว่า สถานการณ์ความไม่พอใจจะคลี่คลายลงได้ เมื่อทุกฝ่ายยึดเหตุผลมากกว่าการใช้อารมณ์ และเคารพต่อกฎหมายทั้งภายในประเทศและกฎหมายระหว่างประเทศ

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง