ปมแต่งตั้ง Mr.Juncheng Zhu นักธุรกิจชาวจีนเป็นที่ปรึกษา “นายวีระพันธ์ ดีอ่อน” ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี จบลงอย่างรวดเร็ว หลังเอกสารหลุดว่อนโซเชียล ทำเอา “ศรีมโหสถ” สะเทือนไปทั้งเมือง และสั่นไหวถึงกระทรวงคลองหลอด
เป็นเหตุให้กระทรวงมหาดไทยต้องออกหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ให้เช็กข้อมูลการแต่งตั้งที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อทำฐานข้อมูลผู้บริหาร และได้รับคำตอบกลับมาว่า ยังไม่พบเหตุการณ์ลักษณะนี้ ในจังหวัดอื่น ๆ
หลังผู้ว่าฯ วีระพันธ์ เซ็นหนังสือยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งที่ปรึกษา โดยให้เหตุผลว่า มีความไม่เหมาะสม อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายกับทางราชการได้ แต่ไม่ได้ระบุว่า ทำไมก่อนหน้านี้ จึงลงนามในข้อเสนอดังกล่าวไป หากได้ทำรายงานถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยระบุเหตุผลที่ต้องแต่งตั้ง เพราะมองในมุมการกระตุ้นเศรษฐกิจ EEC
นายวีระพันธ์ เริ่มต้นชีวิตราชการกรมการปกครองจากตำแหน่งนายอำเภอแหลมงอบ จ.ตราด เมื่อปี 2560 เคยเป็นนายอำเภอประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี มาก่อนที่จะโยกย้ายไปรับราชการอยู่ จ.เชียงใหม่ เป็นนายอำเภอเชียงใหม่ ,ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ และรอง ผวจ.เชียงใหม่ ยาวจนถึงปี 2563 ก่อนจะขยับขึ้นตำแหน่งผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี เมื่อ 16 พ.ย.2567
เดือน มี.ค.2568 ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เคยมีปัญหาความขัดแย้งกับทางเทศบาลเมืองปราจีนบุรี กรณีไฟไหม้สั่งปิดบ่อขยะในพื้นที่ ต.โนนห้อม จ.ปราจีนบุรี ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้
2 พ.ค.2568 หลังเกิดปัญหา นายวีระพันธ์ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายอนุทินเพื่อขอโทษอีกครั้ง หลังถูกตำหนิว่า “เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ” และต่อมาได้มีการกำชับผ่านไปยังปลัดกระทรวงมหาดไทยว่า การปรึกษาใครที่เป็นประโยชน์ต่อจังหวัด ไม่จำเป็นถึงขั้นต้องตั้งเป็นที่ปรึกษา จากนี้คงไม่มีใครที่จะทำเรื่องเช่นนี้อีก
คำสั่งยกเลิกแต่งตั้ง “ชาวจีน” เป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีถูกยกเลิกไปแล้วก็จริง แต่หากย้อนกลับไปดู ชื่อที่ปรึกษาคนไทยทั้ง 5 คือ นายสุเทพ จำนงค์, นายสมบัติ สิทธิมงคล,นายอาธิศักดิ์ กังสวร,นายกฤษดา กฤตเมธานนท์ และนายสนิท กุลธรรม ถือว่าไม่ธรรมดาและมีสายสัมพันธ์กับคนการเมืองและข้าราชการในท้องถิ่นทั้งสิ้น
ประเดิมที่ นายสุเทพ จำนงค์ เคยเป็นอดีต ส.อบจ.ปราจีนบุรี เขต อ.บ้านสร้าง เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บ้านสร้างการโยธา และกรรมการผู้จัดการ บริษัท จำนงค์ชัยวิศวกรรม จำกัด
ขณะที่ นายสมบัติ สิทธิมงคล อดีต ส.อบจ.ปราจีนบุรี เขต อ.ประจันตคาม และอดีตประธานหอการค้าปราจีนบุรี
ส่วน นายอาธิศักดิ์ กังสวร หรือ “สจ.เอก” อดีต ส.อบจ.ปราจีนบุรี เขต อ.เมือง โดยปัจจุบันนั่งอยู่หน้าห้อง รมช.เฮ้ง “นายสุชาติ ชมกลิ่น” รมช.พาณิชย์
และนายกฤษดา กฤตเมธานนท์ หรือ “ทนายเฮง” เคยเป็นอดีตทีมที่ปรึกษา “นายธนกฤต จิตอารีย์รัตน์” ผช.รมว.ยุติธรรม ยุคที่ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” เป็น รมว.ยุติธรรม ในโควตาพรรคพลังประชารัฐ
รวมทั้ง “นายสนิท กุลธรรม” อุปนายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด สถาพรวัสดุก่อสร้าง
ในอดีตหลายคนเคยเดินเข้า-ออก “บ้านใหญ่วิลาวัลย์” ตั้งแต่ครั้ง “โกทร” สุนทร วิลาวัลย์ ยังเรืองอำนาจ แต่เมื่อเวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน และอำนาจในท้องถิ่นเปลี่ยนมือ ความพยายามเข้ามาเจาะสนามการเมืองลุ่มน้ำตะวันออกของ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ก็เข้าเป้า
เมื่อสามารถหนุน สจ.จอย “ณภาภัช อัญชสาณิชมน” จากพรรคเพื่อไทย ให้ได้เป็น “นายกฯจอย” ในการเลือกตั้งนายก อบจ.ปราจีนบุรี เมื่อครั้งที่ผ่านมา และนายกฯจอย “ณภาภัช” ได้แต่งตั้ง “ทักษิณ แก้วสามดวง” อดีตผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ที่อยู่ในสังกัด “ร.อ.ธรรมนัส “ ให้เป็นที่ปรึกษานายก อบจ.ปราจีนบุรี พรรคเพื่อไทย
จึงไม่ต่างจากอยู่ภายใต้ร่มเงาของผู้กองธรรมนัสที่กำลังขยายฐานการเมืองไปสู่ฐานรากในระดับท้องถิ่น ในขณะกลุ่มการเมืองท้องถิ่น ไม่เพียงใกล้ชิดกับกลุ่มของผู้กองธรรมนัส เท่านั้น แต่ยังมักคุ้นกับนักการเมืองภาคตะวันออกอย่าง “สุชาติ” จากพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย แม้จะทราบกันดีว่า ก่อนหน้านี้ “โกทร” สุนทร และ “ครูโอ๊ะ” กนกวัลย์ วิลาวัลย์ อดีต รมว.ศึกษาธิการ จะเป็นสายตรงของค่ายสีน้ำเงิน “ภูมิใจไทย” ก็ตาม
หากดูวงจรการทางเมืองของข้าราชการประจำ และการเมืองในระดับท้องถิ่น-จนถึงระดับประเทศ เส้นทางการเติบโตจนก้าวเป็นพ่อเมือง หรือการเกื้อหนุนนักธุรกิจสู่นักการเมืองท้องถิ่น ในยุคนี้จังหวัดไหนๆ ก็คงไม่ต่างกันมากนัก และเมืองปราจีนบุรีที่กำลังเต็มไปด้วยนักลงทุนต่างชาติก็ไม่ได้อยู่ในข้อยกเว้น
อ่านข่าว :
ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรีนำมาลัยไหว้ขอโทษ "อนุทิน" ปมแต่งตั้งคนจีนที่ปรึกษา
เส้นทางธุรกิจ "จู เจิ้นเฉิง" ก่อนนั่งเก้าอี้ที่ปรึกษา ผวจ.ปราจีนบุรี