ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ของบ “พันล้าน” รีโนเวทสภา อยู่ดีไม่ว่าดีหาทาง “เรียกแขก”

การเมือง
6 พ.ค. 68
13:41
1,848
Logo Thai PBS
ของบ “พันล้าน” รีโนเวทสภา อยู่ดีไม่ว่าดีหาทาง “เรียกแขก”
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

ตรวจรับมอบอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ สัปปายะสภาสถานครบ 100 % ได้เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2567 ที่ผ่านมานี้เอง หลังจากเริ่มสร้างวางเสาเข็มเมื่อ 8 มิ.ย.2556 ผ่านการต่อสัญญาก่อสร้าง 4 ครั้ง เลื่อนการส่งมอบหลายครั้ง เพราะปัญหาหลากหลาย รวมทั้งน้ำรั่ว น้ำสาด น้ำท่วม หากฝนตกหนักต่อเนื่อง

ตรวจรับงานแบบเงียบ ๆ โดย ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรคนปัจจุบัน ได้ยังไม่ถึง 1 ปี รัฐสภามีโครงการจะปรับปรุงหรือรีโนเวทใหม่ ดังที่เป็นข่าวคราวขณะนี้ โดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนฯ ได้เสนอของบรายจ่ายประจำปี 2569 เกือบ 1 พันล้านบาท เพื่อปรับปรุงพื้นที่ในรัฐสภาใหม่

อาทิ ปรับปรุงพิพิธภัณฑ์รัฐสภา 120 ล้านบาท ทำระบบเสียงห้องประชุมขนาด 1,500 ที่นั่ง มูลค่า 99 ล้านบาท ปรับปรุงห้องประชุม CB 406 มูลค่า 118 ล้านบาท ปรับปรุงไฟห้องสัมมนาชั้น B1 และ B2 มูลค่า 118 ล้านบาท ปรับปรุงห้องสารสนเทศ มูลค่า 180 ล้านบาท ปรับปรุงศาลาแก้ว 123 ล้านบาท ปรับปรุงครัวรัฐสภา 117 ล้านบาท

ยังไม่จบแค่นี้ มีแผนจะขอเพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 5 โครงการ ใช้งบอีกกว่า 1,800 ล้านบาท

เป็นที่มาของ “ทัวร์ลง” ทั้งเรื่องความเหมาะสม และการใช้งบประมาณในช่วงเศรษฐกิจของประเทศเจอกับมรสุมทั้งภายในและภายนอกประเทศ แทนที่จะช่วยกันประหยัดงบประมาณแผ่นดิน ที่ส่วนหนึ่งมาจากเงินภาษีของประชาชน

บางโครงการ อย่างปรับปรุงศาลาแก้ว อ้างว่าจะต้องปรับปรุงเพื่อใช้รองรับแขกบ้านแขกเมืองที่มาเยือนสภา ทั้งที่ตั้งแต่สร้างมาไม่เคยได้เปิดใช้งานเลย

ไม่ต่างจากการปรับปรุงห้องสารสนเทศ มูลค่า 180 ล้านบาท ที่เลขาธิการสภาปฏิเสธว่าไม่ใช่สร้างโรงหนังแบบ 4D แต่เป็นการปรับปรุงห้องสารสนเทศ เมื่อมีคนมาเยี่ยมชมรัฐสภาจะได้ฉายวิดีทัศน์ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลของรัฐสภา จึงต้องมีระบบถ่ายทอดแสงสีเสียงให้ได้ชมแบบทันสมัย

โดยไม่ได้คิดในอีกมุมหนึ่งว่า คนที่มาเยี่ยมต้องการข้อมูลความรู้ หรือต้องการสัมผัสแสงสีเสียงและระบบที่ก้าวล้ำแบบ 4 D กันแน่ หรือเพียงแค่สภาฯ อยากได้หน้า

เช่นเดียวกับการปรับปรุงเสียง และระบบไฟในห้องประชุมอื่น ๆ โดยใช้งบประมาณห้องละเป็นร้อยล้านบาท โดยมีคำถามว่ามีความจำเป็นแค่ไหน หรือเป็นเพียงการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ หรือหวังผลประโยชน์อื่นใดจากการปรับปรุงโครงการเหล่านี้

เทียบกับผลงานด้านกฎหมาย ซึ่งเป็นภาระหน้าที่หลักของ สส.และ สว. เฉพาะสมัยประชุมสภาประจำปี ครั้งที่ 2 ระหว่าง 12 ธ.ค.2567 -10 เม.ย.2568 มีประชุมสภาผู้แทนราษฎรรวม 31 ครั้ง ประชุมร่วมของรัฐสภา 6 ครั้ง และมีร่าง พ.ร.บ.ผ่านความเห็นชอบเพียง 9 ฉบับ และอยู่ระหว่างพิจารณา 2 สภา 1 ฉบับ

หากดูจากภาพรวม ร่าง พ.ร.บ.หลายฉบับที่มีความจำเป็น ยังค้างคาหรือถูกตีตก ขณะที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถูกตีตกร่างแล้วร่างเล่า แม้แต่ร่างของประชาชน มิหนำซ้ำ พรรคร่วมรัฐบาลก็เล่นเกมการเมืองในสภา ไม่เอาด้วยบ้าง ไม่ร่วมเป็นองค์ประชุมบ้าง

แต่สำหรับร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีกาสิโนซุกอยู่ด้วย กลับพยายามเดินหน้าเต็มที่ แม้จะมีเสียงคัดค้านจากผู้คนและภาคส่วนต่าง ๆ แต่รัฐบาลยังไม่ละความพยายาม ล่าสุดนายกรัฐมนตรี ออกมาแถลงตอกย้ำอ้างถึงประโยชน์สารพัด ผ่านรายการ “โอกาสไทยกับนายกฯ” ซัดว่า โดนเกมการเมืองโจมตีจนฉ่ำ

ทั้งที่ สส.และ สว. น่าจะได้บทเรียนราคาแพงจากหลายกรณี อาทิ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม.พรรคก้าวไกล ได้เสนอตัดงบประมาณรัฐสภาลง 50 % ในส่วนค่าอาหารของ สส.และ สว.ในงบปี 2565 เพราะเฉลี่ยราคาอาหารต่อมื้อ ของ สส.สูงถึง 861 บาท และ สว.มื้อละ 582 บาท รวมทั้งเสนอตัดงบเดินทางไปดูงานต่างประเทศทั้งหมด สะท้อนความไม่คุ้มค่าและไม่มีความจำเป็น

ขณะที่รายได้ เงินเดือน สวัสดิการต่าง ๆ รวมถึงค่าเดินทาง ที่พัก รักษาพยาบาล รวมทั้งเงินเดือนผู้ช่วยผู้ชำนาญการ รวมต่อเดือนมหาศาล ก็เคยถูกวิพากษ์อย่างหนักเมื่อเทียบกับผลงาน และช่วงเวลาครั้งหนึ่ง เจอกับเหตุการณ์สภาล่ม ไม่เว้นแต่ละวัน

คงจำกันได้ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 รัฐสภาเคยเตรียมจะเปิดใช้ “สโมสรรัฐสภา” ที่ภายในอัดแน่นไปด้วยสิ่งบันเทิงครบครันสำหรับ สส.และ สว. ทั้งห้องสปา ห้องนวด ที่ไดรฟ์กอล์ฟ ร้องเพลง-ลีลาศ มีการเปิดภาพความอลังการ์ดังกล่าว ผ่านสื่อต่าง ๆ นำไปสู่กระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก สุดท้ายต้องยกเลิกการเปิดสโมสรออกไป

จึงเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ที่สะท้อนให้เห็นความต้องการของคนในรัฐสภา ที่อยากจะได้นั่น สร้างนี่ โดยเน้นและให้ความสำคัญเรื่องวัตถุและโครงการต่าง ๆ แต่ไม่ได้ย้อนดูความเหมาะสมและศักยภาพของตนว่า มีแค่ไหน ทั้งที่มีหน้าที่และบทบาทสำคัญในงานนิติบัญญัติและกฎหมาย แต่กลับพยายามจะทำในเรื่องที่ไม่ควรจะทำ และไม่เกี่ยวกับหน้าที่ของ สส.และ สว. อย่างที่ควรจะเป็น

อยู่ดีไม่ว่าดี เพราะต้นตอมาจากหาเรื่องเรียกแขก สุดท้ายจึงโดนจน “น่วม” อย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : "ดีเอสไอ" ยืนยันทำตามขั้นตอน สอบสวน "อดีตผู้สมัคร" "คดีฮั้วเลือก สว."

เปิดพื้นคอนกรีตชั้นใต้ดิน-รอบตึก สตง.ถล่ม ยังไม่พบผู้ติดค้างเพิ่ม

ลาวห้ามนำเข้า-ส่งผ่านสัตว์จากไทย หวั่นโรคแอนแทรกซ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง