เมื่อวันที่ 7 พ.ค.2568 โรงเรียนสอนศาสนาอิสลามในเมืองบาฮาวัลปูร์ รัฐปัญจาบของปากีสถาน พังเสียหายย่อยยับจากการโจมตีของอินเดีย ในปฏิบัติการที่ใช้ชื่อว่า Operation Sindoor เพื่อตอบโต้เหตุกราดยิงที่มีกลุ่มติดอาวุธบุกสังหารนักท่องเที่ยวในแคชเมียร์ฝั่งที่อยู่ภายใต้การปกครองของอินเดียเมื่อวันที่ 22 เม.ย.
อีกจุดหนึ่งที่เสียหายหนักในปากีสถาน อยู่ในแคชเมียร์ฝั่งที่อยู่ภายใต้การปกครองของปากีสถาน มัสยิดพังเสียหายอย่างหนักหลังการโจมตี อินเดียเปิดเผยว่าปฏิบัติการโจมตีสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย 9 จุด 2 สัปดาห์หลังเหตุกราดยิงที่พาฮัลแกม โดยกองทัพอินเดียเผยภาพที่ระบุว่าเป็นการโจมตีที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายในแคชเมียร์ฝั่งปากีสถาน
ขณะที่ปากีสถานระบุว่า มีจุดที่ได้รับความเสียหาย 6 จุด และอ้างว่ายิงเครื่องบินอินเดียตก 5 ลำ กับ โดรนอีก 1 ลำ ซึ่งอินเดียยังไม่ได้ยืนยันข้อมูลดังกล่าว แต่มีแหล่งข่าวในอินเดียระบุว่า เครื่องบินตก 3 ลำในฝั่งอินเดียเอง Shehbaz Sharif นายกรัฐมนตรีปากีสถาน ระบุว่า การยิงเครื่องบินอินเดียตก ถือเป็นการตอบโต้ของปากีสถานแล้ว พร้อมวิจารณ์การกระทำของอินเดียว่าขี้ขลาด
การโจมตีของอินเดียใช้เวลาเพียง 25 นาที ตั้งแต่ 01:05 - 01:30 น. ตามเวลาท้องถิ่นอินเดีย แต่ช่วงเวลา 25 นาทีนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั้งภูมิภาค
กองทัพปากีสถานระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีแล้ว 31 คน และบาดเจ็บ 57 คน โดยสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นในปากีสถานเผยภาพการจัดพิธีศพผู้เสียชีวิตในแคชเมียร์ฝั่งปากีสถาน ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า
สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ปากีสถานสั่งการยกเลิกการลางานของบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมดในกรุงอิสลามาบัด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ทุกรูปแบบ และยังจัดตั้งศูนย์ รับมือฉุกเฉินที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่ฝั่งอินเดียระบุว่า มีพลเรือนเสียชีวิต 15 คนจากการยิงปะทะกันข้ามเส้นควบคุมในแคชเมียร์ โดยบ้านเรือนในพื้นที่ได้รับความเสียหายจากการกระสุนปืนใหญ่เช่นกัน
โดย นเรนทรา โมดี นายกฯ อินเดีย จัดการประชุมระดับสูงร่วมกับคณะรัฐมนตรี เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีรัฐมนตรีมหาดไทย กลาโหม และ ต่างประเทศ เข้าร่วมด้วย ซึ่งกองทัพอินเดียระบุว่าเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ในการตอบโต้ต่อการกระทำของปากีสถานที่อาจทำให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
การโจมตีปากีสถานของอินเดีย ทำให้ชาวปากีสถานจำนวนมากออกมารวมตัวประท้วงเพื่อแสดงความไม่พอใจ หลายคนเหยียบรูปภาพของ นเรนทรา โมดี นายกฯ อินเดีย โดยการประท้วงจัดขึ้นในหลายเมืองใหญ่ ทั้งนครการาจี และละฮอร์ ซึ่งผู้ประท้วงส่วนมากแสดงพลังความสามัคคียืนหยัดเคียงข้างกัน และสนับสนุนกองทัพปากีสถาน โดยต้องการแสดงให้อินเดียเห็นว่าปากีสถานแข็งแกร่ง

ส่วน โดนัลด์ ทรัมป์ ปธน.สหรัฐฯ ระบุว่าการโจมตีเป้าหมายในปากีสถานของอินเดียเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ และหวังว่าความขัดแย้งจะจบลงโดยเร็ว พร้อมเรียกร้องให้ 2 ชาติหยุดโจมตีซึ่งกันและกัน และเสนอความช่วยเหลือทั้ง 2 ประเทศในการแก้ไขข้อพิพาทท่ามกลางความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น
ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ออกมาเรียกร้องให้อินเดียและปากีสถานให้ความสำคัญกับสันติภาพและความมั่นคง พร้อมทั้งระบุว่า จีนยินดีที่จะทำงานร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศและมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่าง 2 ฝ่ายต่อไป
เช่นเดียวกับรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ที่ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น พร้อมทั้งขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายยับยั้งชั่งใจเพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปมากกว่านี้
ปฏิบัติการโจมตีของอินเดียทำให้เที่ยวบินต่าง ๆ ต้องบินเลี่ยงน่านฟ้าของปากีสถาน โดยมีรายงานว่าสายการบินหลายแห่งในเอเชียต้องเปลี่ยนเส้นทาง หรือยกเลิกเที่ยวบินทั้งขาไปและกลับจากยุโรปเพื่อความปลอดภัย ส่วนเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 7 พ.ค. สายการบินต่าง ๆ ยกเลิกเที่ยวบินทั้งไปหรือกลับจากปากีสถานไปแล้วกว่า 50 เที่ยวบิน ขณะที่เที่ยวบินในประเทศของอินเดียและปากีสถานถูกยกเลิกเช่นกัน
อ่านข่าวเพิ่ม :
กระชับสัมพันธ์! สี จิ้นผิงเจอปูติน ร่วมฉลอง 80 ปีวันแห่งชัยชนะ
สายการบินเลี่ยง-ยกเลิกเที่ยวบินผ่านน่านฟ้าปากีสถาน
ผู้สมัคร สท.สมุทรปราการ ถูกจับร่วมแก๊งค้ายา พรรคประชาชนแถลงขอโทษ