ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

คลื่นยักษ์ "ยาเสพติด" ซัดรอบทิศ ภัยเซาะกร่อน "ไทย-เพื่อนบ้าน"

อาชญากรรม
8 พ.ค. 68
16:35
49
Logo Thai PBS
คลื่นยักษ์ "ยาเสพติด" ซัดรอบทิศ ภัยเซาะกร่อน "ไทย-เพื่อนบ้าน"

ไม่บ่อยครั้งนัก ที่ขบวนการค้ายาเสพติดจะใช้วิธีซุกซ่อนยาเสพติดไว้ภายในพระพุทธรูป เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ หรือการแอบซ่อนไว้ในถังน้ำมันแล้วให้ลอยข้ามแม่น้ำโขง เพื่อรอนำขึ้นไปยังจุดเป้าหมาย นอกเหนือจากอุบายเดิม ๆ ซ่อนในช่องลับ ช่องเก็บยางอะไหล่ ในยางอะไหล่ ห้องเครื่อง พื้นกระบะ ใต้แม็กซ์ไลเนอร์ อะไหล่เกียร์ เครื่องปั้ม ลม ห้องโดยสาร กระบะรถยนต์ โดยใช้พืชผลการเกษตรทับอำพราง

แม้แต่แอบเก็บไว้สินค้า ถุงเกลือขัดผิว กระป๋องน้ำพริกเผา เครื่องนวดแป้ง กล่องบรรจุส้มสายน้ำผึ้ง ขาตั้งเหล็กแปลสนาม เต็นท์ ถุงกาแฟ ในชุดผ้าปู ที่นอน ใส้กรองรถยนต์ กล่องโฟมบรรจุอาหารทะเล ตู้ลำโพง ผ้าพื้นเมือง ซ่อนไว้ในกล่องแบตเตอรี่และโบกปูนทับ ฯลฯ รวมทั้งเก็บไว้ในอาคาร สถานที่ต่าง ๆ คอนโดมีเนียม รีสอร์ท ไร่มันสำปะหลัง พงหญ้า ใช้วิธีการเช่าโกงดังเก็บและพีคกว่านั้น คือ ฝังดินเก็บไว้

แต่ไม่ว่าขบวนการค้ายาเสพติดจะใช้วิธีการใดก็ตาม แต่พื้นที่ต้นทางนำเข้าและแหล่งผลิตหลักยาเสพติดทุกประเภท ยังอยู่ในประเทศเมียนมาเหมือนเดิม

ปิดช่อง 10 จังหวัดชายแดน "สกัดยาเสพติด-เคมีภัณฑ์"

ข้อมูลจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)ระบุว่า สถาน การณ์ยาเสพติดในรอบ 6 เดือน (ระหว่างต.ค.2567- มี.ค. 2568) พบว่า พื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้ายชายแดนไทย-ลาว มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเฉพาะยาบ้า ไอซ์ เฮโรอีน เคตามีน และยาเสพติดประเภท Happy Water

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาพบว่า มีการตรวจยึดสารตั้งต้นและเคมี ภัณฑ์ ที่ใช้ในการผลิตยาเสพติด เช่น สารเคมี PMK ethyl glycidate , Hydrochloric acid และ MPK glycidic acid ที่เตรียมถูกส่งออกไปยังแหล่งปลายทาง"เมียนมา" ได้ ในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงราย ตาก และกาญจนบุรี

มีรายงานระบุว่า ไอซ์และเฮโรอีน ที่นำออกจากประเทศไทย จะถูกส่งต่อไปที่กลุ่มประเทศ เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ ฮ่องกง อิสราเอล และกานา และยังพบอีกว่า มีความพยายามในการส่งออกช่อดอกกัญชาและกัญชาแห้ง ซึ่งเป็นสมุนไพรควบคุมไปที่ประเทศอังกฤษด้วยเช่นกัน

หากย้อนสำรวจสถานการณ์ยาเสพติดในประเทศ พื้นที่เฝ้าระวังหลักๆ ยังอยู่ในเขตชายแดนภาคเหนือ ซึ่งการลำเลียงยังใช้ในลักษณะกองคาราวาน สะพายเป้ดัดแปลงบรรจุยาเสพติด เดินเท้าลัดเลาะภูมิประเทศ มีการใช้อาวุธหนักตอบโต้ หากเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ พบข้อมูลว่า ผู้ต้องหาที่ลำเลียงยาเสพติดส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ หรือคนในพื้นที่

โดยยาเสพติดที่ลำเลียงจากพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะถูกนำไปเก็บยังพื้นที่ตอนในเพื่อจำหน่ายในพื้นที่ และส่วนหนึ่งจะลงสู่พื้นที่ภาคใต้ ก่อนที่บางส่วนจะส่งออกไปประเทศที่สาม

ด้าน จ .เชียงราย จะมีจุดเฝ้าระวังหลัก ใน 5 อำเภอ คือ อ.แม่ฟ้าหลวง ต.แม่สลองใน บ้านสันมะเค็ด และต.แม่สลองนอก บ้านสันติคีรี และต.เทอดไทย บ้านป่าซางสูง

อ.แม่จัน ต.ป่าตึง บ้านแสนใหม่ ดอยสามเส้า รอบต่อระหว่าง อ.แม่จัน กับอ.แม่อาย จ.เชียงใหม่

อ.เชียงแสน ต.แม่เงิบ บ้านปงของ ต.เวียงและต.บ้านแซว ติดแม่น้ำโขงชายแดนด้านสปป.ลาว แขวงบ่อแก้ว

อ.เวียงแก่น ต.ม่วงยาย บ้านไทยเจริญ และต.ปอ บ้านร่มโพธิ์เงิน ติดแม่น้ำโขงชายแดนด้านสปป.ลาวแขวงบ่อแก้ว

ส่วนที่จ.เชียงใหม่ มีจุดเฝ้าระวัง 4 อำเภอ คือ อ.แม่อาย อ.ฝาง อ.เชียงดาว และอ.เวียงแหง

อ.แม่อาย ต.มะลิกา บ้านป่าสี , บ้านปางต้นฆ้อง, บ้านโล๊ะป่าไคร้, ต.แม่ลาว บ้านป่าโหล, ต.แม่อาย บ้านนามะอื้น, ต.ท่าตอน บ้านอาเท่อ

อ.ฝาง ต.ม่อนปาน ชองทางเขาหัวนก , ช่องทางดอยอุ่น ,ช่องทางหลัง บ้านหนองเต่า

อ.เชียงดาว ต.เมืองนะ บ้านอรุโณทัย, ช่องทางไร่ขิง, ช่องทางหนองกะลาง ตรงข้ามบ้านนากองมู ฝั่งเมียนมา

อ.เวียงแหง ต.เปียงหลวง พื้นที่รอยต่อติดอ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน

ส่วนพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ข้อมูลจากป.ป.ส.ระบุว่า ผู้ค้ายาเสพติดฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน มักใช้วิธีลำเลียงยาเสพติดทางเรือ ลงเรือกีบเพลายาว ติดเครื่องยนต์ข้ามแม่น้ำโขง ส่งข้ามมายังฝั่งไทยตามท่าข้าม หรือวางไว้บริเวณจุดนัดหมายริมแม่น้ำโขงหรืออาจนำขึ้นรถของผู้มาขนเพื่อนำไปไว้ในเขตพื้นที่ตอนใน

โดยจะมีพื้นที่เฝ้าระวังหลัก ๆ 7 จังหวัด ประกอบด้วย จ.เลย , หนองคาย, บึงกาฬ นครพนม , มุกดาหาร , อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี

จ.เลย มี 2 อำเภอ คือ อ.ท่าลี่ ต.บ้านทูน บ้านแก่งม่วง ต.หนองผือ / อ.ปากชม ต.ปากชม , ต.ห้วยพิชัย บ้านสงาว และบ้านห้วยขอบ

จ.หนองคาย มี 3 อำเภอ คือ อ.ท่าบ่อ ต.โพนสา บ้านท่ามะเฟือง , อ.เมืองหนองคาย ต.เวียงคุก ต.มีชัย สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1 และ อ.โพนพิสัย ต.กุดบง บ้านหนองกุ้งเหนือ ต.ชุมพล บ้านเวิน ม.3 ต.วัดหลวง บ้านแดนเมือง

จ.บึงกาฬ มี 2 อำเภอ คือ อ.เมืองบึงกาฬ ต.โคกก่อง บ้านห้วยดอกไม้ บ้านท่าอินทร์แปลง และต.วิศิษฐ์ บ้านแสนเจริญ

จ.นครพนม มี 4 อำเภอ ได้แก่ อ.บ้านแพง , อำเภอท่าอุเทน อ.เมืองนครพนม และอำเภอธาตุพนม

จ.มุกดาหาร มี 2 อำเภอ คือ อ.หว้านใหญ่ บ้านหว่านใหญ่ บ้านไผ่ล้อม บ้านปางขาม

จ.อำนาจเจริญ มีอำเภอเดียว คือ อ.ชานุมาน ที่ต.โคกโก่ง ต.ชานุมาร และต.โคกสาร

จ.อุบลราชธานี มีอำเภอเดียว คือ อ.เขมราฐ ต.หนองนกทา ต.เขมราฐ และต.นาแวง

ขณะที่ชายแดนด้านตะวันตก พบที่จ.กาญจนบุรี ด้าน อ.สังขละบุรีและอ.ทองผาภูมิ

คลื่นยักษ์ "ยาเสพติด" ทะลักเพื่อนบ้าน "ไทย" ไม่ลด

แม้ไทยจะพยายามสกัดกั้นและป้องกันการลักลอบนำเข้ายาเสพติดทุกประเภททุกช่องทาง ทั้งช่องทางธรรมชาติ ทางบก ทางเรือ และทางอากาศ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง เมียนมา กัมพูชา ลาวและเวียดนามในรอบปีนี้ ต่างต้องเผชิญวิกฤตปัญหาดังกล่าวเช่นกัน มีการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ ที่มีของกลางจำนวนมากหลายคดี

เมียนมา มีการจับกุมตรวจยึดคาเฟอีน 2 คดี จำนวน 5 ตัน ที่เมืองมัณฑะเลย์ (สลากภาชนะบรรจุ ระบุว่าผลิดในประเทศอินเดีย) หากนำสารดังกล่าวไปผลิตยาบ้าจะได้ประมาณ 70 ล้านเม็ด

ส่วนกัมพูชา จับผู้ต้องหาชาวกัมพูชา พร้อมไอซ์ 4,017 กิโลกรัม เคตามีน 411 กิโลกรัม และเรือประมง 1 ลำที่ แขวงสมัจเมียนเจย จ.เกาะกง กัมพูชา เป็นการจับกุมคดีลักลอบลำเลียงยาเสพติดทางทะเลในปริมาณมากที่สุดของประเทศกัมพูชา

สปป.ลาว จับเจ้าหน้าที่รัฐของสปป.ลาว ลักลอบลำเลียงยาบ้าและไอซ์ ครั้งละประมาณ 2-3 ตัน จากบริเวณชายแดนที่ติดกับจีนและเมียนมา นำมาพักเก็บไว้ในพื้นที่ของทางราชการเมืองอุทุมพอร แขวงสะหวันเขต สปป.ลาว ก่อนส่งให้กับเครือข่ายนักค้ายาเสพติดชาวลาวและไทย

พบข้อมูลว่า ขณะนี้มีกลุ่มคนผิวสีในลาวเพิ่มมากขึ้น และมีการว่าจ้างผู้หญิงไทยและลาว ลักลอบซุกซ่อนยาเสพติดนำเข้าไปในประเทศไทยแล้วนำไปขายให้กับกลุ่มลูกค้าผิวสีที่อาศัยอยู่ในไทย

เวียดนาม ตำรวจปราบปรามยาเสพติดเวียดนาม ตรวจค้นโรงงานผลิตยาเสพติดที่ อ.คี๊ญฮหว่า จ.ญาจาง จับผู้ต้องหา 11 คน (ชาวจีน 4 คน ,จีนใต้หวัน 3 คน และเวียดนาม 4 คน) ตรวจยึดเคตามีนบริสุทธิ์สูงมาก 1,400 กิโลกรัม สารละลายคีตามีน 160 ลิตร และสารเคมีอื่น ๆ อีก 17 ตัน

รายงานจากหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ระบุว่า ผลตรวจยึดยาเสพติดในประเทศไทยมีแนวโน้มสูงขึ้น หากเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกัน (ห้วงเดือนต.ค.2566-มี.ค.2667) และในปีนี้ สัดส่วนการยึดเฮโรอีนลดลงเล็กน้อยแต่ไม่ต่างกันมากนัก

ในห้วงเดือนต.ค.2567-มี.ค.2568 ภาพรวมทั้งประเทศในการจับกุมคดียาเสพติดจำนวน 103,239 คดี จับผู้ต้องหาได้ 136,513 คน ยึดยาบ้า 510 ,633,642 เม็ด ไอซ์ 7,854 กิโลกรัม เฮโรอีน 709 กิโลกรัมและเคตามีน 3,390 กิโลกรัม

ผลการตรวจยึดและจับกุมชี้ให้เห็นว่า สถานการณ์ยาเสพติด ยังไม่มีแนวโน้มลดลง และไอซ์ เป็นยาเสพติดที่มีผลการตรวจยึดเพิ่มสูงขึ้นมาก  หากยังปล่อยให้สถานการณ์ยาเสพติดเป็นเช่นนี้ต่อไป ....คงไม่ต้องทำนายอนาคตของคนไทย เจอคลื่นยักษ์ซัดรอยทิศว่าจะมีวงจรชีวิตอย่างไร

หมายเหตุ : ข้อมูลสถิติการตรวจยึดปี 2568 จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส)

อ่านข่าว:

สึนามิ “ยาเสพติด” ทะลักรอบด้าน พิบัติภัย “ไทย-อาเซียน” 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง