ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ปริญญา" ขอทุกฝ่ายอย่าสร้างเงื่อนไขเกิด "รัฐประหาร" แนะสู้ใต้รัฐธรรมนูญ

การเมือง
17 พ.ค. 68
10:55
149
Logo Thai PBS
"ปริญญา" ขอทุกฝ่ายอย่าสร้างเงื่อนไขเกิด "รัฐประหาร" แนะสู้ใต้รัฐธรรมนูญ
"ปริญญา" ยอมรับ ถึงปี 68 แล้ว แต่ยังไม่มีใครกล้าพูด จะไม่เกิดเหตุการณ์รัฐประหาร-นองเลือดอีก เชื่อ "กองทัพ" ไม่ออกมาง่ายๆ ดังนั้น ไม่ควรสร้างเงื่อนไข ควรสู้กันภายใต้รัฐธรรมนูญ

วันนี้ (17 พ.ค.2568) ที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม มูลนิธิพฤษภาประชาธรรม จัดกิจกรรมรำลึก 33 ปีเหตุการณ์พฤษภาประชาธรรม โดยมีคนการเมืองร่วมกิจกรรมอย่างมากมาย อาทิ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ,นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร , ,นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ,นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ,นายศุภชัย ใจสมุทร แกนนำพรรคภูมิใจไทย ,นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน และบรรดาญาติผู้สูญเสียจากเหตุพฤษภาคม2535โดยในช่วงเช้าเป็นพิธีกรรมทางศาสนา พร้อมวางมาลา และรัฐพิธี

นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล ประธานมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงงานรำลึก 33 ปี เหตุการณ์พฤษภาประชาคม ว่า ตั้งใจจะสร้างสวนสาธารณะแห่งนี้​ เป็นที่เรียนรู้ เพื่อการเรียนรู้ประชาธิปไตย ให้ตระหนักว่า​ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 33 ปีที่แล้ว ไม่ควรจะเกิดขึ้นอีก ที่ผ่านมาก็ยังเกิดขึ้นเรื่อย ๆ​ เรียนรู้ความผิดพลาดน้อยมาก

ดังนั้น​ เมื่อใกล้จะครบ 35 ปี ของเหตุการณ์ดังกล่าว ควรเป็นวาระที่เราจะได้เปิดสวนแห่งนี้อย่างสำเร็จ และคาดว่าในปี 2570 จะมาเปิดสวนนี้ เพื่อการเรียนรู้ประชาธิปไตย เพื่อเป็นจุดรำลึกว่า​ ไม่ควรมีการสูญเสียในทุกเหตุการณ์

นายปริญญา มองเหตุการณ์​วันนั้นจนถึงการเมืองวันนี้​ เหมือนหลายเรื่องดูจะดีขึ้น แต่หลายเรื่องก็ดูเหมือนจะเกิดซ้ำ และถึงปี 2568 แล้ว​ แต่ยังไม่มีใครกล้าพูด​ว่า​ รัฐประหาร การล้มล้างรัฐธรรมนูญ หรือการนองเลือด จะไม่เกิดขึ้นอีก หากพูดในแง่นี้ดูเหมือนจะแย่ลง เพราะเราไม่มั่นใจว่าเราจะผิดซ้ำอีกกี่ครั้ง และตนคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำอีกจะหมดไป

ท่านผู้นำเหล่าทัพ จะรับปากประชาชน และวีรชนทุกเหตุการณ์ว่าจากนี้ไปกองทัพจะไม่มาแทรกแซงหรือจะไม่ล้มล้างรัฐธรรมนูญอีก พรรคการเมืองทุกพรรครับปากได้หรือไม่ว่า จะช่วยกันทำให้ประชาธิปไตยไม่ล้มเหลวแล้วกลายเป็นเงื่อนไขให้กองทัพยึดอำนาจอีก และประชาชนที่รักประชาธิปไตยจะช่วยกันได้หรือไม่ว่าจากนี้จะไม่ไปล้อมหน่วยเลือกตั้งหรือไปเรียกให้กองทัพมารัฐประหารอีก

นายปริญญา กล่าวว่า ต้องช่วยกันทำให้ประชาธิปไตยไม่ล้มเหลว ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของทุกฝ่าย ทั้งนี้ ประชาธิปไตยเห็นต่างได้ แต่ขัดแย้งกันภายใต้รัฐธรรมนูญ ไม่ใช่การไปล้มล้างรัฐธรรมนูญ เหมือนการแข่งกีฬา เราเลือกพรรคการเมืองต่างพรรคกันได้ ก็ว่ากันตามกติกา ใครชนะเป็นรัฐบาล ใครแพ้เป็นฝ่ายค้าน ซึ่งควรจะประสบความสำเร็จหลังจากเหตุการณ์พฤษภา 35 มาแล้ว ไม่ควรจะล้มเหลวอีก

เมื่อถามถึง สถานการณ์การเมืองตอนนี้จะเป็นการยั่วยุทำให้เกิดเหตุการณ์ในอดีตหรือไม่ นายปริญญา กล่าวว่า ถ้าดูจากเหตุการณ์รัฐประหาร 2 ครั้งที่ผ่านมา กองทัพไม่ได้อยู่ดี ๆ ออกมายึดอำนาจกันได้ง่าย ๆ เหมือนสมัยก่อน แล้วที่เขาออกมาได้เพราะไปทำให้เขาออกมา

ทางออกที่พอมีก็ไปทำให้ตัน และความจริงเรามีเครื่องมือในการแก้ปัญหาทุกอย่าง ขอให้เราใช้เครื่องมือตามวิถีทางประชาธิปไตย ฉะนั้น ไม่มีเหตุใดที่จะเป็นความชอบธรรมใด ๆ ให้มีการรัฐประหารอีก และไม่เกิดแน่ ๆ ถ้าไม่มีใครไปทำให้เกิด

เมื่อถามถึง ความขัดแย้งระหว่างพรรคสีแดงและพรรคสีน้ำเงินในขณะนี้ คิดว่าจะทำให้เกิดเหตุการณ์เหมือนในอดีตหรือไม่ นายปริญญา กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นสีแดง สีน้ำเงิน สีส้ม สีเขียวหรือสีอะไรก็แล้วแต่

นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล ประธานมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม

นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล ประธานมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม

นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล ประธานมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม

ทุกคนก็เหมือนกับกีฬาว่าไปตามกติกา เหมือนสีแดงกับสีน้ำเงินเปรียบเหมือนมวยก็ต้องชกกันตามกติกา ถ้าเป็นฟุตบอลมีกี่ทีมกี่สีก็แข่งกัน ประชาธิปไตยแค่นี้ และ 4 ปีประชาชนก็มาตัดสินอีกครั้งว่าใครควรจะมาเป็นรัฐบาล เว้นแต่ว่ามีการยุบสภาเลือกตั้งก่อน ล้วนอยู่ในกติกา

เราจะไม่นองเลือดหรือรัฐประหารอีก แต่เราจะตกลงกันภายใต้กติกา และเลือกตั้งคือเจตจำนงของประชาชน ใครจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็แสดงออกด้วยประชาชนในการเลือกตั้ง

ด้านนายชัชชาติ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ตนนั่งร้องไห้กับเพื่อนที่อเมริกา ปัจจุบันนี้เราสู้กับประชาธิปไตยสีเทาๆทุกคนรู้เท่าทันเพราะฉลาดขึ้น เหตุการณ์เหล่านี้การให้ความรู้กับประชาชนและให้ประชาชนมีส่วนร่วมเป็นสำคัญในระบอบประชาธิปไตย

"วันนอร์" หวังประชาชนหวงแหนประชาธิปไตย

ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ตอนนั้นตนอายุ 48 ปีเหตุการณ์ในครั้งนั้นคล้ายกับอีกหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือเป็นการต่อสู้โดยประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

เหตุการณ์นี้มีเกี่ยวข้องกับสภาผู้แทนราษฎรมากที่สุด เพราะต้นเหตุมาจากการตั้งรัฐบาลที่มาจากรัฐประหารมีการแสดงวิสัยทัศน์แต่ไม่จบเพราะมีผู้ไม่พอใจออกมาประท้วง เป็นความวุ่นวายในสภาฯลุกลามจนสู่การชุมนุมที่ท้องสนามหลวง ที่หลายคนจำได้ในชื่อ “ม็อบมือถือ” ของคนชนชั้นกลาง

เราคิดว่าการสูญเสียในครั้งนั้นอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายรัฐธรรมนูญปี 40 จะดีที่สุดแต่ก็ถูกฉีก ดังนั้นต้องสร้างความตระหนักให้กับประชาชนว่าประชาธิปไตยเป็นของประชาชนเพื่อประชาชน ให้ประชาชนหวงแหนประชาธิปไตยเหมือนหลาย ๆ ประเทศที่เราได้เห็นถึงพลังในการต่อสู้เพื่อปกป้องประชาธิปไตย

"ณัฐพงษ์" มอง "รัฐประหาร" ทำเสียต้นทุนประชาธิปไตย

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนเป็นตัวแทนของคนอีกหนึ่งรุ่นปฏิวัติที่ผ่านการปฏิวัติมา 3 ครั้ง ซึ่งก็ไม่เข้าใจทำไมประเทศไทยในขณะนั้นถึงต้องมีการปฏิวัติรัฐประหารอีก สิ่งที่น่ากลัวกว่าการปฏิวัติรัฐประหาร คือ ต้นทุนของประชาธิปไตยที่เราไม่สามารถเสียไปได้อีก คือ ความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนต่อนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งต่อการเมืองและในระบบรัฐสภา

ถ้าเมื่อไหร่ที่คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้เลิกเชื่อมั่นศรัทธาในคำว่าประชาธิปไตยนั่นคือจุดจบของประเทศนี้ ที่เราไม่สามารถปลูกต้นไม้เพื่อประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นมาในประเทศได้อีก

การเลือกตั้งที่ผ่านมาประชาชนกว่า 80 % ได้เลือกพรรคการเมืองที่ไม่ได้มาจากมรดกการรัฐประหาร ของ คสช.ตนอยากชวนขบคิดถึงหน้าตาของรัฐบาลในขณะนี้ว่า ตรงตามที่ประชาชนเลือกมาหรือไม่

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร

ดังนั้นจากนี้เราทำอย่างไรให้ประชาชนเชื่อว่านักการเมืองสัญญาอะไรไว้ก็ต้องดำเนินการอย่างนั้นเข้าสู่อำนาจการเมืองเพื่อประโยชน์ส่วนรวม เป็นปากเป็นเสียงแทนประชาชน นี้เป็นสิ่งสำคัญที่ตนจะให้คำมั่นสัญญา และไม่ขอเรียกร้องอะไรไปมากกว่านี้นอกจากขอให้ทุกพรรคการเมืองดำรงตนเพื่อประชาชน

อ่านข่าว : "ทักษิณ" มั่นใจรัฐบาลแพทองธาร ไม่มีรัฐประหาร 100% 

"โรม" ยกโมเดลรัฐสภาเกาหลีใต้ ทบทวน การเมือง-รัฐประหารไทย 

 นักวิชาการชี้ "รัฐประหาร" มักอ้างปราบทุจริต ที่แท้เป็นเสื้อคลุมคอร์รัปชั่นให้ยากต่อการตรวจสอบ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง