บางครั้งอาการเล็กน้อยที่เราเคยมองข้าม อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายที่กำลังแอบซ่อนอยู่ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากขึ้น การหมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกาย เช่น อาการที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หรืออาการที่ไม่หายไปตามปกติ รวมถึงการพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอย่างถูกต้องและทันท่วงที จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
มะเร็งหลอดอาหารคืออีกหนึ่งโรคที่หลายคนอาจไม่รู้จักดี แต่มีอัตราการเกิดทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 3-5 คนในประชากร 100,000 คนต่อปี โดยพบมากในประเทศที่มีฐานข้อมูลทางการแพทย์ เช่น จีน ญี่ปุ่น และยุโรปตะวันออก พบได้มากใน "กลุ่มผู้ชาย" มากกว่า "ผู้หญิง" โดยเฉพาะใน "กลุ่มอายุ 50-70 ปี"
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา นพ.สกานต์ บุนนาค รองอธิบดีกรมการแพทย์ ให้ข้อมูลว่า "มะเร็งหลอดอาหาร" เป็นโรคมะเร็งที่เกิดขึ้นในอวัยวะซึ่งเป็นท่อที่ทำหน้าที่ลำเลียงอาหารระหว่าง "ปาก" และ "กระเพาะอาหาร" มะเร็งชนิดนี้มีต้นกำเนิดที่เยื่อบุผิวของหลอดอาหาร สามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลัก ได้แก่
- ชนิด Squamous Cell Carcinoma มักเกิดจากเซลล์ที่ปกคลุมในหลอดอาหารเกือบทั้งหมดตั้งแต่คอจนถึงในช่องอก
- ชนิด Adenocarcinoma มักเกิดจากเซลล์ที่ผลิตสารหล่อลื่นในหลอดอาหาร โดยมักพบในส่วนล่างของหลอดอาหารในส่วนท้อง
รู้ทันปัจจัยเสี่ยง "มะเร็งหลอดอาหาร" ก่อนจะสายเกินไป
ร.อ.นพ.สมชาย ธนะสิทธิชัย ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เปิดเผยถึงปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งหลอดอาหารมีหลายอย่าง โดยเฉพาะพฤติกรรมที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน เช่น
- การสูบบุหรี่
- การดื่มแอลกอฮอล์
- โรคอ้วนหรือน้ำหนักเกิน
- ภาวะกรดไหลย้อน
- การบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่ร้อนจัด
- การบริโภคอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง เช่น อาหารที่มีสารกันบูด
- ผู้ที่เป็นมะเร็งในช่องปาก หรือโพรงจมูกร่วมด้วย เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยง
เช็กสัญญาณเตือน "มะเร็งหลอดอาหาร" มีอะไรบ้าง
อาการของผู้ป่วยมะเร็งหลอดอาหาร แตกต่างกันไปตามระยะของโรค แต่โดยทั่วไปอาการที่สังเกตได้ เช่น
- อาการปวดหรือไม่สบายที่หน้าอก รู้สึกเจ็บปวดหรือไม่สบายในบริเวณกลางหน้าอก
- อาการกลืนลำบาก (Dysphagia) มีความยากลำบากในการกลืนอาหารหรือของเหลว รู้สึกเหมือนมีอะไรติดอยู่ในหลอดอาหาร
- น้ำหนักลดโดยไม่ตั้งใจ ผู้ป่วยอาจสูญเสียน้ำหนักอย่างรวดเร็วโดยไม่เกี่ยวข้องกับการควบคุมอาหาร
- คลื่นไส้และอาเจียน แสบร้อนหน้าอก
- มีกรดไหลย้อน
- เสียงแหบ หากมีการกดทับที่เส้นเสียงจากการเติบโตของเนื้องอก
- อาการเหนื่อยง่ายหรือไม่มีแรง
- ไอมาก ไอเรื้อรัง
อย่างไรก็ตาม หากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น ควรพบแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม
วินิจฉัย "มะเร็งหลอดอาหาร" ด้วยวิธีการอย่างไร
ในส่วนของการวินิจฉัยมะเร็งหลอดอาหาร นพ.กิตินัทธ์ ทิมอุดม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งระบบทางเดินอาหาร สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า ทำได้ด้วยวิธีการส่องกล้องหลอดอาหาร (Endoscopy) โดยแพทย์จะใช้กล้องเล็ก ๆ ตรวจสอบหลอดอาหาร มักพบลักษณะได้ทั้งแผลลึก แผลตื้น ก้อนโตกีดขวางทางในรูหลอดอาหาร วิธีการตรวจชิ้นเนื้อ (Biopsy) ในระหว่างการส่องกล้อง อาจจะทำการเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อเพื่อตรวจหามะเร็ง วิธีการการตรวจภาพ เช่น เอกซเรย์กลืนแป้ง CT Scan หรือ MRI เพื่อดูว่ามะเร็งได้แพร่กระจายหรือไม่ มีความลึกถึงชั้นใด มีการลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียงหรือไม่ ส่วนการรักษามะเร็งหลอดอาหารขึ้นอยู่กับระยะของโรค แต่ทั่วไปจะมีวิธีการ ได้แก่
- การผ่าตัด อาจจะต้องตัดหลอดอาหารส่วนที่มีมะเร็งรวมถึงเนื้อเยื่อรอบ ๆ หรือลอกผิวที่เป็นมะเร็งออก ใช้ได้กับมะเร็งระยะต้น
- การฉายรังสีรักษาเพื่อลดขนาดของเนื้องอก หรือทำลายเซลล์มะเร็งในระยะลุกลาม มีการกระจายต่อมน้ำเหลือง
- การใช้เคมีบำบัด ซึ่งเป็นยาเพื่อใช้ในการทำลายเซลล์มะเร็งระยะกระจาย และการบำบัดทางภูมิคุ้มกัน เป็นการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ต่อสู้กับมะเร็ง
"มะเร็งหลอดอาหาร" เป็นโรคที่มีอันตรายและต้องการความสนใจอย่างเร่งด่วน การรู้จักและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง การวินิจฉัยอย่างถูกต้องและการรักษาที่เหมาะสม ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้
อ่านข่าว : สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ "วัดป่าวังน้ำเย็น"
ยังไม่พบคนงานตกหลุมเสาเข็ม ไซต์งานรถไฟฟ้าสายสีส้ม
เปิดแล้ว รถไฟฟ้าสายสีชมพู เข้าอิมแพ็คฯ - เมืองทอง นั่งฟรี 20 พ.ค. - 16 มิ.ย.นี้
แท็กที่เกี่ยวข้อง: