เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2568 ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศตกลงที่จะเลื่อนการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 50 สำหรับสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU) ออกไปอีก โดยกำหนดวันใหม่เป็นวันที่ 9 ก.ค. การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทรัมป์เคยสร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาดด้วยการประกาศจะเก็บภาษี ก่อนจะปรับเปลี่ยนท่าทีในเวลาต่อมา
ทรัมป์เปิดเผยว่า การตัดสินใจเลื่อนภาษีครั้งล่าสุดนี้ เป็นผลมาจากการพูดคุยทางโทรศัพท์ที่ดีมาก กับ เออร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่สนามบินมอร์ริสทาวน์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ ว่า ประธาน EU ได้แจ้งว่าต้องการเริ่มการเจรจาอย่างจริงจัง และได้ขอให้เลื่อนกำหนดเวลาจากวันที่ 1 มิ.ย. ออกไปเป็นวันที่ 9 ก.ค. และทรัมป์ก็ตกลงตามคำขอ
เราจะร่วมมือกันอย่างรวดเร็วและดูว่าเราจะสามารถตกลงอะไรกันได้บ้าง
การประกาศเลื่อนภาษีครั้งนี้ ถือเป็นการพลิกท่าทีจากที่ทรัมป์เคยกล่าวไว้เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า ไม่ได้มองหาข้อตกลง กับสหภาพยุโรป ในตอนนั้นผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันว่าอัตราภาษีร้อยละ 50 จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย. ภาษีร้อยละ 50 นี้จะตามมาหลังจากที่เคยใช้ภาษีตอบโต้ในอัตราร้อยละ 20 กับ EU ไปแล้วในเดือน เม.ย. ซึ่งภาษีร้อยละ 20 นั้นก็เคยถูกเลื่อนออกไปก่อนหน้านี้เช่นกัน เช่นเดียวกับภาษีตอบโต้รายการอื่น ๆ
หลังจากที่พูดคุยกับผู้สื่อข่าวได้ไม่นาน ทรัมป์ก็ได้โพสต์ข้อความบน Truth Social สื่อสังคมออนไลน์ของตัวเองว่าการพูดคุยจะเริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านั้น ฟอน แดร์ ไลเอิน เองก็ได้โพสต์บน X (ทวิตเตอร์) ว่า เป็นการพูดคุยที่ดีกับทรัมป์ ยุโรปพร้อมที่จะผลักดันการพูดคุยอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด เพื่อให้ได้ข้อตกลงที่ดี และกล่าวว่า สหภาพยุโรปและสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์ทางการค้าที่สำคัญและใกล้ชิดที่สุดในโลก เราต้องการเวลาจนถึงวันที่ 9 ก.ค.
ภายหลังข่าวการเลื่อนเก็บภาษีนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ตลาดหุ้นในเอเชียก็ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ (26 พ.ค.2568) ดัชนีนิเคอิ 225 ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.8 ในช่วงเปิดตลาด ขณะที่ดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้ก็ปรับขึ้นร้อยละ 0.9 ส่วนดัชนี Shanghai Composite ของจีนขยับขึ้นร้อยละ 0.3
อ่านข่าวอื่น :