วันนี้ (28 พ.ค.2568) ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ ย.1445/2566 ที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องนายอุปกิต ปาจารียางกูร อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เป็นจำเลย ในข้อหาเป็นสมาชิกวุฒิสภาสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน, เป็นสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ สนับสนุนหรือช่วยเหลือ หรือสมคบกันกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดฯ รวม 6 ฐานความผิด ประกอบด้วย
1. เป็นสมาชิกวุฒิสภาสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด
2. ร่วมกันจำหน่ายโดยมีไว้ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (เคตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต
3. เป็นสมาชิกวุฒิสภาสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปกระทำความผิดฐานฟอกเงิน
4. เป็นสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันฟอกเงิน
5. เป็นสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรข้ามชาติโดยสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปกระทำผิดร้ายแรง
6. มีส่วนร่วมไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
ทั้งนี้ นายอุปกิต ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์พัวพันกับขบวนการยาเสพติดและการฟอกเงินกับนายทุน มิน ลัต ชาวเมียนมาที่ถูกตำรวจไทยจับกรณีเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดและฟอกเงิน เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2565
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์ไม่พบว่าจำเลยใช้ให้โอนเงินจากบัญชีที่ถูกตรวจสอบคดียาเสพติด ไปชำระค่าไฟฟ้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแม่สาย และไม่ปรากฏพยานหลักฐานแน่ชัดว่าใครเป็นผู้ใช้บัญชีดังกล่าว
ส่วนกรณีที่มีแชทสนทนาพูดคุยกันระหว่างจำเลยและนายทุน มิน ลัต เป็นเพียงการพูดคุยปรึกษาหารือกันเรื่องการชำระค่าไฟฟ้า และการกระเซ้าเย้าแหย่กัน ไม่มีการพูดคุยเรื่องยาเสพติดตามที่มีการเข้าใจ เมื่อมีการปรึกษากันว่าเห็นควรโอนเงินให้บริษัท ชเวชินโป ซึ่งเป็นบริษัทแลกเปลี่ยนเงินระหว่างประเทศ และให้บริษัท ชเวชินโป โอนค่าไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าแม่สาย โดยที่จำเลยไม่รู้ว่าบริษัทรับแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศจะใช้บัญชีใดในการโอนเงินไปชำระให้กับการไฟฟ้าแม่สาย
ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยสมคบกับคนในประเทศและต่างประเทศในการร่วมกันฟอกเงินหรือสมคบค้ายาเสพติด และไม่เกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พยานหลักฐานของโจทก์ยังไม่อาจรับฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิด จึงพิพากษายกฟ้อง

ภายหลังการตัดสินของศาล นายอุปกิต เปิดเผยว่า วันนี้ (28 พ.ค.) ถือเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองว่าไม่ได้กระทำความผิด โดยยืนยันว่าที่ผ่านมาเป็นแค่ที่ปรึกษาให้กับนายทุน มิน ลัต ในเรื่องการจ่ายค่าไฟฟ้าในช่วงที่มีการปิดด่านชายแดนแม่สาย เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงไม่สามารถนำเงินสดข้ามมาจ่ายฝั่งประเทศไทยได้
ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น สว.ทรงเอ เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา จึงขอคืนฉายา สว.ทรงเอ ให้กับนายโรม รังสิมันต์ และพรรคที่สังกัดอยู่ ซึ่งเป็นผู้ที่กล่าวหาและพยายามใช้ตนเองไปโจมตีทางการเมือง พร้อมระบุว่าตรียมฟ้องกลับตามสิทธิข้อกฎหมายอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับตำรวจที่ทำคดี แต่ต้องให้คดีถึงที่สิ้นสุดก่อน
นายอุปกิต เปิดเผยอีกว่า จากกรณีที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องไปแล้วนั้น ต้องดูว่าอัยการซึ่งเป็นโจทก์ในคดีนี้จะยื่นคำอุทธรณ์ต่อศาลหรือไม่ หากมีการยื่นอุทธรณ์ ตนเองก็พร้อมจะต่อสู้คดี
การตัดสินวันนี้ถือว่าเป็นทิศทางที่ดี ทำให้ตนเองนั้นได้พิสูจน์ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดที่ถูกกล่าวหา
อ่านข่าว
ทบ.เผย ศาลสั่งจำคุก 13 คน คดีทำร้ายพลทหารใหม่
ตัวแทนผู้รับเหมาฯ รับเงินค่าจ้างตึกสตง. ก้อนแรก 5.5 ล้านบาท
"ศิริกัญญา" ติง "ทักษิณ" โชว์วิชันดึงงบฯ ดิจิทัลวอลเล็ตปราบยาเสพติด