เรื่องนี้กำลังเป็นที่สนใจของสังคมเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะ "เงินสด 12 ล้านบาท" เป็นเงินอะไรกันแน่และทำไมเจ้าของไม่ฝากธนาคาร หรือซื้อเป็นเช็คเงินสด แต่กลับเอามาใส่ในลัง
จากการเกาะติดเรื่องนี้ตั้งแต่แรก เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 5 มิ.ย.68 มีผู้พบเห็นเงินสดถูกวางทิ้งไว้ในลังพร้อมเสื้อผ้าและเอกสารใบกำกับภาษี ระบุถึงหน่วยงาน "กสทช." และปรากฎเอกสาร ที่มีชื่อ "ทวีวัฒน์" บริเวณชั้น 4 คอนโดเมืองทองธานี
ผู้เขียนตรวจสอบไปที่ กสทช.ทันที ทำให้ได้ข้อมูลยืนยันว่า มีบุคคลชื่อ "ทวีวัฒน์" ที่มีนามสกุลเดียวกับที่ตำรวจระบุจริง (ขอสงวนนามสกุล) มีสถานะเป็นทนายความ และเป็นทั้งที่ปรึกษาของกรรมการ กสทช. (นายต่อพงศ์ เสลานนท์) นอกจากนี้ ยังเป็นคณะอนุกรรมการอีกหลายชุดใน กสทช. และเป็นผู้ที่ทำงานอยู่กับแวดวง กสทช.มาแล้วประมาณ 15 ปี

กลับไปที่เรื่องเงินสด 12 ล้านบาท มีข้อสงสัยหลายเรื่องผุดขึ้นมาทั้ง "แหล่งที่มา" และ "เส้นทางการเงิน" ล่าสุดทางคณะทำงานของตำรวจที่ร่วมประชุมกันเมื่อวานนี้ ( 7 มิ.ย.68 ) มี พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เป็นประธาน กำหนดกรอบทำงาน แบ่งเป็น 3 ส่วน
1.ส่วนที่เกี่ยวกับ สภ.ปากเกร็ด รับผิดชอบ จะมีหน้าที่ประสานงานกับทางธนาคาร, รวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ, สอบพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้แบ่งมอบงานกันเรียบร้อยแล้ว
2.การตรวจสอบเส้นทางการเงิน ที่ประชุมเห็นชอบร่วมกันว่า จะประสานกับทาง ป.ป.ง. ให้ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบ โดยวันจันทร์ที่ 9 มิ.ย.68 ตร.จะทำหนังสือแจ้งไปอีกที แต่เบื้องต้นได้ประสานแจ้งทางวาจากันไว้แล้ว
3.ข้อสงสัยว่า เงินสด 12 ล้านบาท "ได้มาจากไหน" และ อย่างไร ทาง พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ระบุว่า ทาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ได้ประสานเข้ามาว่า สัปดาห์หน้า ทาง บก.ป.ป.ป ของตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกับ ป.ป.ท. จะเข้ามาร่วมตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะเป็นเคสที่ประชาชนให้ความสนใจ การทำคดีของตำรวจในขั้นนี้ ยังไม่สันนิษฐานว่า เงินสด 12 ล้านบาทเป็นเงินที่ผิดปกติหรือไม่
ส่วนการเก็บตัวอย่างวัตถุพยานไปพิสูจน์หลักฐาน ทางคณะทำงานได้เชิญ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาเก็บตัวอย่างไปส่งตรวจบ้างแล้ว เช่น ลังสีเทาที่ใส่เงิน, เสื้อผ้าที่พบในลัง, ส่วนธนบัตรจำนวน 12 ล้านบาท จะสุ่มเก็บส่งตรวจลายนิ้วมือแฝง และ DNA เพิ่มเติม ซึ่งดำเนินการเก็บเสร็จแล้วเมื่อวานนี้
ส่วนคำตอบว่า เป็นเงินล็อตไหนที่เบิกไป แม้มีข้อมูลระบุว่าเป็นปี 2563 ทางตำรวจจะรีบประสานธนาคารอีกทีในวันพรุ่งนี้ (9 มิ.ย.2568) ซึ่งการตรวจสอบเบื้องต้นที่สายรัดธนบัตร พบว่า เป็นธนาคารกสิกรไทยธนาคารเดียว ไม่มีธนาคารอื่นเกี่ยวข้อง และข้อมูลเบื้องต้นได้แจ้งประสานธนาคารทราบแล้ว แต่อาจติดช่วงเสาร์-อาทิตย์ ทำให้ธนาคารยังไม่สะดวกตรวจสอบ

ส่วนการขอคืนเงินสด 12 ล้านบาทที่พบ และมี "ทวีวัฒน์" แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเงิน ล่าสุดตำรวจยังไม่ได้ส่งคืนให้ เพราะนายทวีวัฒน์ ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าเป็นเจ้าของเงิน ตำรวจจึงนัดนายทวีวัฒน์ช่วงบ่ายวันนี้ ( 8 มิ.ย.68) ให้นำหลักฐานไปที่ สภ.ปากเกร็ด โดยนายทวีวัฒน์ มีหน้าที่ต้องแสดงหลักฐานที่ชัดเจนว่า เป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านบาทจริง ต้องพิสูจน์ให้ได้ ซึ่งทางตำรวจจะนำข้อเท็จจริงที่ได้จากธนาคารสัปดาห์หน้า จากการรวบรวมพยานหลักฐาน มาสอบเทียบเพื่อยืนยัน
อย่างไรก็ตาม มีข้อสงสัยว่า "คอนโด" สถานที่พบเงินสด ใช้ห้องเป็นจุดพักเงิน หรือ ที่พักอาศัย หรือไม่ ทางตำรวจระบุว่า เจ้าตัวแจ้งว่า เข้ามาบ้างเป็นบางครั้ง แต่ไม่ได้พักอาศัย ห้องที่คอนโดฯ นายทวีวัฒน์ มีตั้งแต่สมัยเรียน ม.รามฯ นานพอสมควร ( 2538) และตรวจสอบพบมีอยู่ตามที่นายทวีวัฒน์แจ้งกับตำรวจว่ามี 1 ห้อง
ข้อสงสัยที่ว่า มีลังใส่เงินลักษณะนี้ อยู่ที่อื่นอีกบ้างไหม ทาง พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ตอบว่า ตอบแทนไม่ได้ เพราะขอโฟกัสกันแค่เคสนี้ก่อน
ประเด็นเรื่อง "กล้องวงจรปิด" ชั้น 5 หน้าห้องพักนายทวีวัฒน์ และ กล้องที่จุดทิ้งเงินสด 12ล้าน ที่ชั้น 4 บริเวณจุดทิ้งขยะกลางของคอนโดฯ ทางตำรวจชี้แจงว่า "กล้องวงจรปิดเสีย" โดยตำรวจใช้คำว่า ได้ไปตรวจสอบพบว่ากล้องไม่บันทึกภาพ คือ ความหมายเดียวกันกับ "เสีย" หรือ "ใช้การไม่ได้" โดยกล้องวงจรปิดชั้น 5 หน้าห้องพัก "ทวีวัฒน์" ไม่บันทึกภาพ ก็คือเสีย มีการแจ้งซ่อมไปแล้ว ตั้งแต่เดือน เม.ย.68 ส่วนบริเวณ "จุดทิ้งขยะ" หน้าลิฟต์ ชั้น 4 มันไม่มีกล้องไหน ที่มองเห็นได้
"เงินสด 12 ล้านบาท" จะเชื่อมโยงกับใครเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ? พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ระบุว่า ยังไปไม่ถึงตรงนั้น และอันดับแรกต้องขอรอดูข้อมูลจากทางธนาคารก่อน ถ้าเกี่ยวข้องกับใคร ก็จะเชิญมาให้ข้อมูลและยังไม่มีการสอบสวนไปถึงโครงการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรัฐ ยังไปไม่ถึงตรงนั้น แต่ถ้ามีความเชื่อมโยงก็จะทำ ในชั้นนี้ ตำรวจยังไม่รู้แน่ชัดว่า มีการกระทำความผิดหรือไม่ อยู่ระหว่างตรวจสอบ
พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ย้ำด้วยว่า ถ้านายทวีวัฒน์อยากได้เงินคืน ก็ต้องพร้อมหาหลักฐานมายืนยันการเป็น "เจ้าของเงิน" ตอนนี้ตำรวจต้องการหลักฐานหลายอย่าง เช่น หลักฐานการเบิกถอนเงิน, หลักฐานเกี่ยวกับบริษัท ที่เขาอ้าง หรือหลักฐานอะไรก็ได้ที่ยืนยันว่า "เงินนี้เป็นของเจ้าตัว"

ถ้าข้อมูล ที่ "ทวีวัฒน์" แสดง กับ ข้อมูลที่ธนาคารแสดง ต้องตรงกัน ก็จะยืนยันได้ว่า "เขาเป็นเจ้าของเงินจริง" แต่ถ้าปรากฏปรากฎว่า มี "ใคร" เบิกมาให้เขา ก็ต้องเชิญมาสอบปากคำว่า เบิกเงินมาให้ "ทวีวัฒน์" จริงหรือไม่ อย่างไร มันต้องเริ่มจากตรงนี้ก่อน
ระหว่างการสืบคดีสอบสวนคดีของตำรวจ และจากการลงพื้นที่ทำข่าวตรวจสอบเรื่องนี้ มีประเด็นที่ผู้เขียนคิดว่าน่าสนใจมาก คือ
- เงินสด 12 ล้านบาท แท้จริงแล้ว เป็นของใครกันแน่ ? มีใครนำมามอบให้นายทวีวัฒน์ แต่ผิดคิวกันหรือไม่ จนนำไปสู่เหตุการณ์ที่ "บัว" พลเมืองดีและเพื่อนอีก 2 คนไปพบเงินเสียก่อน ทำให้เกิดสถานการณ์ตามที่ปรากฏต่อสังคมในเวลานี้
- เงิน 12 ล้านบาท มีที่มาอย่างไร ทำไมนายทวีวัฒน์ ไม่นำเงินสดจำนวนมากขนาดนี้ฝากธนาคาร, เหตุใดถึงนำมาทิ้งไว้จน "ลืม" ตามคำกล่าวอ้างที่นายทวีวัฒน์บอก หรือ นายทวีวัฒน์จะร่ำรวยมาก จนสามารถลืมเงินสด 12 ล้านบาทจริงๆ เพราะจากข้อมูล ที่ "บัว" พลเมืองดีพบเงินคือ ช่วงค่ำวันที่ 5 มิ.ย.68 นี้เอง เหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นไม่กี่วัน การทิ้งเงินสดถึง 12 ล้านบาท จะลืมกันง่ายเพียงนี้เชียวหรือ ?
ณ ตอนนี้ แม้อยากเชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจ ว่า นายทวีวัฒน์ ลืมจริงๆ คนเรามันลืมกันได้ล่ะ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้
- จากข้อมูลที่ พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ระบุว่า นายทวีวัฒน์ ให้ข้อมูลว่า เขาเพิ่งเป็นคนเอาลังไปทิ้งไว้ตรงนั้นเอง หิ้วลงมาจากชั้น 5 เอาไปทิ้งชั้น 4 (จุดทิ้งขยะคอนโด) เพราะที่ห้องมีน้ำรั่ว กลัวจะเปียกและเกิดความเสียหาย เลยยกขนลงมาวางไว้ในวันที่เกิดเหตุ (5 มิ.ย.68) ตั้งแต่ช่วงเที่ยง ไม่ใช่การขนมาทื้งไว้นานแล้ว มันก็น่าแปลกว่า จากวันที่ 5 จนถึงค่ำที่พลเมืองดีพบเงิน ทำไมนายทวีวัฒน์ถึงให้ข้อมูลตำรวจว่า "ลืม" ( นี่ผู้เขียนก็พยายามโทรศัพท์หานายทวีวัฒน์ เพื่อขอสอบถามหลายประเด็น แต่นายทวีวัฒน์ ยังไม่รับสาย รวมถึง โทรหากรรมการ กสทช. คนอื่นด้วย)
- ข้อมูลตำรวจ สอดคล้องกับ "บัว" พลเมืองดี อาชีพเก็บของเก่าขาย ที่ผู้เขียนไปพบเมื่อวาน บอกเล่าว่า พบลังใส่เงิน 12 ล้านบาท ช่วงค่ำวันที่ 5 มิ.ย.68 เพราะตัวเธอจะเข้ามาเก็บของเก่าเก็บขวดที่จุดทิ้งขยะโซนเกิดเหตุทุกวัน วันละ 3 เวลา คือ เช้า, เที่ยง และ ค่ำ วันเกิดเหตุบัวบอกว่า ตอนมาเก็บขวดช่วงเที่ยง ยังไม่พบลังใบเกิดเหตุที่ใส่เงินแน่ๆ เพราะถ้าพบลังตั้งแต่ตอนนั้น บัวและเพื่อนอีก 2 คน ต้องเก็บลังไปแล้ว เพราะจะเอาลังไปขาย ดังนั้น ลังที่ใส่เงิน 12ล้านบาท ต้องโผล่มาวางไว้หลังเที่ยงวันนั้นไปแล้ว
- ถ้าจุดกล้องวงจรปิด ชั้น 5 หน้าห้อง บันทึกภาพไม่ได้ และ ชั้น 4 กล้องมองไม่เห็นว่า ใครนำลังมาวางทิ้ง ทางตำรวจก็อาจต้องตรวจสอบไปยังกล้องวงจรปิดจุดอื่น เพื่อดูว่า มีใคร ถือลังมาไว้ที่ชั้น 4 หรือไม่ อาจต้องไล่มาตั้งแต่ชั้นแรก ที่จุดจอดรถ และ ตามชั้นอื่นๆ ของช่วงวันที่ 5 มิ.ย.68 เวลาหลังเที่ยง ที่เกิดเหตุด้วยหรือไม่ โดยเฉพาะกล้องทางเข้าหน้าลิฟต์ของคอนโดฯ ชั้นล่าง เพื่อความกระจ่างคลายของสงสัยของสังคม
- ประเด็นที่น่าสนใจของเรื่องนี้ ยังหมายถึงสถานะของ "ทวีวัฒน์" ที่แสดงตัวเป็นเจ้าของเงินสด 12 ล้านบาท ที่สื่อมวลชน - ตำรวจ และสังคม สนใจว่า เป็นใครกัน..?

"ทวีวัฒน์" มีตำแหน่ง เป็นทั้งทนายความ, เป็นที่ปรึกษาของกรรมการ กสทช. และยังเป็นคณะอนุกรรมการ กสทช. อีกหลายชุด และหากย้อนไปต่อการที่ "ทวีวัฒน์" ทำงานในแวดวง กสทช.มา 15 ปี ด้วยประสบการณ์สูง ทำให้ "ทวีวัฒน์" มีส่วนต่อการร่วมพิจารณา ร่วมตัดสินใจ ในโครงการใหญ่ๆ ของ กสทช.มามากเช่นกัน
"ทวีวัฒน์" คือ ใคร..?? เจ้าของเงิน 12 ล้านบาท ที่นำลังใส่เงินไปทิ้งไว้ยังจุดทิ้งขยะคอนโดเมืองทองฯ เป็น "คณะอนุกรรมการ" ใน กสทช. อีก 5 คณะ ระหว่างปี 2565 – ปัจจุบัน ประกอบด้วย
1. คณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาและวิเคราะห์กรณีการรวมธุรกิจระหว่าง บริษัท ทรู คอร์ ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ด้านกฎหมาย
2. คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีดำเนินการของสำนักงาน กสทช. เกี่ยวกับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
3. อนุกรรมการเพื่อติดตามและประเมินผลการรวมธุรกิจ ตามประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม
4. คณะอนุกรรมการการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม
5. คณะอนุกรรมการกรองงานของ กสทช. เกี่ยวกับการจัดสรรเงินกองทุนวิจัยและพัฒนา กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ
และก่อนหน้านั้น ทำงานอยู่กับ กสทช.มาแล้ว ประมาณ 15 ปี จนมาเป็นที่ปรึกษา ให้ นายต่อพงศ์ กรรมการ กสทช.ในยุคปัจจุบัน
ซึ่งหากย้อนไป หน่วยงานอย่าง กสทช.เองก็จะมีโครงการใหญ่ๆ น้อย เกิดขึ้นเป็นระยะ ที่มีคณะอนุกรรมการ ร่วมดำเนินการพิจารณา เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ เช่น "โครงการเน็ตประชารัฐ" ที่ทำโดยกองทุน USO กสทช. ในช่วงแผนปี 2555-2566 ซึ่งนายทวีวัฒน์ เคยร่วมเป็นอนุกรรมการฯ ด้วย
- ในอดีต นายทวีวัฒน์ ยังเคยลง สมัคร "กรรมการ กสทช." ด้านกฎหมาย ในปี 2558
- ขณะที่เจ้าตัว ให้ข้อมูลตำรวจว่า เงิน 12 ล้านบาท ได้มาจากการว่าความ ในฐานะที่เป็นทนายความ และ เป็นที่ปรึกษาให้อีก 4-5 บริษัท
รอความจริงปรากฏกันต่อไป กับเบื้องหลังพบ "เงินสด 12 ล้านบาท" ถูกทิ้งจุดกองขยะ คอนโดฯ เมืองทองธานี
ภัทราพร ตั๊นงาม : ผู้สื่อข่าว ไทยพีบีเอส
อ่านข่าว : ปริศนาเงิน 12 ล้านวางข้างถังขยะ พบชื่อทีมหน้าห้อง 1 ใน กสทช.
เจ้าของเงิน 12 ล้านบนคอนโดฯ เมืองทอง เข้าพบตร.แล้ว รอพิสูจน์เจ้าของอีกครั้ง
ป.ป.ช.แจงเจ้าของเงิน 12 ล้าน เป็นสามี ผอ.ในสำนักงานฯ ตร.เร่งสอบต้นทาง-เส้นเงิน