
จากฝั่งไทยที่ จ.บึงกาฬ หากจะข้ามไปยังแขวงบอลิคำไซของ สปป.ลาว ทุกวันนี้ มีเพียงเส้นทางเรือโดยสารข้ามฟากแม่น้ำโขง ที่ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ค่าโดยสารคนละประมาณ 50-60 บาท และมีเป็นแบบเหมาประมาณ 2,000 บาท
แต่หากต้องการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ก็จำเป็นต้องเดินทางอ้อมเป็นระยะทางไกล โดยต้องขับรถไปใช้สะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 ที่ จ.หนองคาย ข้ามไปที่นครหลวงเวียงจันทน์ แล้วต่อไปยังแขวงบอลิคำไซ อีกราว 150 กิโลเมตร
หรืออีกเส้นทางคือ ข้ามสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 ที่ จ.นครพนม ข้ามไปทางแขวงคำม่วนต่อไปอีกเกือบ 200 กิโลเมตร ถึงแขวงบอลิคำไซ ซึ่งเป็นการเดินทางที่ต้องใช้ทั้งเวลา และค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น

ทองริด ฟองสีนวล กองหัวหน้าแผนกโยธาธิการและขนส่ง แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว บอกว่า หากไม่มีสะพาน การเดินทางของชาวบ้านสองประเทศค่อนข้างลำบาก โดยเฉพาะช่วงน้ำหลากหรือช่วงฤดูแล้ง เพราะการเดินทางข้ามฝั่งโขงที่ง่ายที่สุด คือเดินทางโดยใช้เรือ นอกจากเสียเวลาในการเดินทางแล้ว กว่าจะผ่านพิธีทางศุลกากรอีก
สะพานนี้จะทำให้ประชาชนสองประเทศเดินทางได้สะดวกเพิ่มขึ้น
หากโครงการสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) ก่อสร้างแล้วเสร็จ จะทำให้การเดินทางข้ามแม่น้ำโขงด้วยรถยนต์จากด่านฝั่งไทยถึงฝั่งลาว ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไทยและสปป.ลาว มีการเชื่อมโยงผ่านสะพานมิตรภาพ ข้ามแม่น้ำโขงขนาดใหญ่แห่งแรก ระหว่าง จ.หนองคาย กับนครหลวงเวียงจันทน์ ในปี 2537
ต่อมาแห่งที่ 2 ที่ จ.มุกดาหาร กับแขวงสะหวันนะเขต แห่งที่ 3 ระหว่าง จ.นครพนม กับแขวงคำม่วน และแห่งที่ 4 จาก อ.เชียงของ จ.เชียงราย ข้ามไปยัง เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว และแห่งที่ 5 คือที่นี่
โดยสะพานนี้ คาดว่า จะเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ถึง 28,000 ล้านบาท สะพานแห่งนี้จะเชื่อมต่อไปยังเส้นทางโลจิสติกส์สำคัญ รวมถึงท่าเรือน้ำลึกของเวียดนามได้อีกด้วย

อีกทั้งยังประเมินว่า ปริมาณการจราจรในบริเวณดังกล่าว จะเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 5 ต่อปี ขณะที่ในพื้นที่ จ.บึงกาฬ ปลูกยางพารา ซึ่งจะทำให้ส่งออกได้สะดวกขึ้น รวมถึงอนาคตจะมีแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวสองประเทศ
ขณะเดียวกัน การเทคอนกรีตเชื่อมสะพานในวันนี้ เป็นเครื่องยืนยันว่า ทั้งสองประเทศมีเป้าหมายจะเปิดใช้งานสะพานอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและ สปป.ลาว

หลังจากนี้มีแผนโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 6 (อุบลราชธานี-สาละวัน) ขณะนี้ได้ดำเนินการออกแบบแล้วเสร็จ คาดว่า จะประมูลก่อสร้างหาผู้รับจ้างได้เร็ว ๆ นี้
สำหรับสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 เชื่อมต่อกับ ทล.222 อ.เมืองบึงกาฬ กับถนนสาย 13 เมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ บริเวณก่อนทางขึ้นสะพาน จะมีการก่อสร้างอาคารด่านพรมแดนและด่านชั่งน้ำหนักทั้ง 2 ฝั่ง และมีการก่อสร้างจุดสลับทิศทางจราจรบริเวณอาคารด่านพรมแดนฝั่งสปป.ลาว

ขณะที่รูปแบบการก่อสร้างตัวสะพานเป็นรูปแบบคานขึง คอนกรีตอัดแรงรูปกล่อง มีขนาด 2 ช่องจราจร ความยาวรวมทั้งสิ้น 1,350 เมตร ตรวจสะพานยาว 810 เมตร และทางลาดลงจากตัวสะพาน
ความยาวฝั่งไทย 410 เมตร ฝั่งสปป.ลาว 130 เมตร โดยได้รับเงินสนับสนุนเงินกู้จากสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือ NEDA จำนวนกว่าพันล้านบาทในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
นอกจากนี้สะพาน ยังมีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น คือการนำรูปทรงของ “แคน” เครื่องดนตรีพื้นบ้านลุ่มน้ำโขง มาออกแบบเป็นเสาหลักของสะพาน เพื่อสื่อถึงวัฒนธรรมร่วมกันและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของสองประเทศ

ส่วนความปลอดภัยสะพานมิตรภาพไทย-ลาว มีการติดตั้งระบบเฝ้าติดตามพฤติกรรมสะพานเพื่อใช้สำหรับติดตามสภาพโครงสร้างของสะพานได้ตลอดเวลา ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทำให้การตรวจสอบสะพานง่ายขึ้น ลดภาระการเข้าไปตรวจสอบด้วยคน และสามารถช่วยในการตัดสินใจในการเลือกมาตรการดำเนินการกับโครงสร้างสะพานได้

ขณะที่ในมิติทางเศรษฐกิจ สะพานแห่งนี้จะเข้ามาพลิกโฉมการค้าชายแดน นายสหรัถ พิศาลเศรษฐพงศ์ ประธานหอการค้าจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า เมื่อเปิดสะพานจะส่งผลดีโดยเฉพาะธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ที่ไม่ต้องขับรถอ้อม สามารถเชื่อมต่อจากลาวไปยังเวียดนามได้ที่เมืองวินห์ และเมืองเว้ ขณะที่ปัจจุบันมีมูลค่าระหว่างไทย-ลาว อยู่ที่ประมาณปีละ 8 หมื่นล้านบาท หลังจากนี้คาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ส่วนใหญ่ชาวบ้านจาก สปป.ลาวจะซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคของไทย โดยเฉพาะสินค้าเครื่องครัว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เครื่องปรุง ส่วนไทยจะซื้อมันสำปะหลัง มั่นใจว่า โครงสร้างพื้นฐานจังหวัดบึงกาฬที่สร้างไว้ จะทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่เติบโตขึ้น

ล่าสุด การก่อสร้างมีความคืบหน้าไปมาก โดยมีความคืบหน้าอยู่ที่ร้อยละ 98 คาดว่า หลังจากการเทคอนกรีตเชื่อมสะพานทั้งสองฝั่งแล้วเสร็จ กรมทางหลวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งหารือกับทาง สปป.ลาว เกี่ยวกับข้อตกลงด้านการผ่านแดนและกรรมสิทธิ์การบำรุงรักษา เพื่อให้พร้อมเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการตามแผนในเดือนธันวาคม ปี 2568

สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 เป็นอีกหนึ่งโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เป็นประตูการค้าที่สำคัญในการส่งเสริมการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ตลอดจนอำนวยความสะดวกในการขนส่งจากไทยไปสู่ตลาดจีนตอนใต้และเชื่อมโยงการส่งสินค้าจากภาคกลางของ สปป.ลาว สู่ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อขนส่งทางทะเลไปยังภูมิภาคอื่นในอนาคต
รายงาน : วิภูษา สุขมาก ผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ไทยพีบีเอส
อ่านข่าว : 5 จุด ประสานส่งต่อกำลังใจให้ทหารไทย ชายแดนไทย-กัมพูชา
"อนุทิน" บินด่วน "อุบลฯ" ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
เปิดตัวเลขการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ปี 68 ไทยได้ดุลการค้า 3.5 หมื่นล้าน