วันนี้ (12 มิ.ย.2568 ) การประชุมคณะกรรมการบริหารแพทยสภา ตามวาระปกติ ซึ่งจัดขึ้นทุกวันพฤหัสบดีที่ 2 ของทุกเดือน โดยวันนี้มีวาระการพิจารณามติแพทยสภาเกี่ยวกับมติการลงโทษแพทย์ 3 คน จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ แพทย์ที่รักษา นายทักษิณ ชินวัตร ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
ล่าสุด ผศ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิเคราะห์ถึงกรณีหากวันนี้บอร์ดแพทยสภา โหวตยืนยันมติเดิมลงโทษแพทย์ 3 คน จะส่งผลต่อคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่นัดนายทักษิณให้ข้อมูลชี้แจงเพิ่มเติมวันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ว่า
วันนี้การเปิดประชุมได้ต้องครบองค์ประชุม ซึ่งสำหรับการประชุมของแพทยสภาในวันนี้ต้องมีมติอย่างหนึ่งอย่างใด ถ้าบุคคลที่งดออกเสียงในประเด็นที่เป็นกระแสสังคมอาจจะมีการตั้งข้อสังเกตได้ เลยอาจมีกรรมการบางคนถือโอกาสในการขาดประชุม
สำหรับการยืนยันมติของแพทยสภาต้องมีเสียง 2 ใน 3 ของกรรมการทั้งหมด 70 คือ 47 เสียง
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข
ผศ.ปริญญา ยังตั้งข้อสังเกต 2 ประการ คือ กรณีที่ รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ขอเข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งปรากฏว่าทางแพทยสภาให้เวลาในการชี้แจง 12.00-12.15 น.
ส่วนอีกประเด็นคือเมื่อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุขได้มีการวีโต้ ทางแพทยสภาได้มีการนัดประชุมวันที่ 12 มิ.ย.ก่อนวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะพิจารณาไต่สวนคดีการพักรักษาตัวชั้น 14 ของนายทักษิณเพียงหนึ่งวันซึ่งมองว่าทางแพทยสภาอยากให้เรื่องนี้ได้ข้อยุติอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อให้ศาลฎีกาฯ ได้ข้อเท็จจริง
สำหรับเนื้อหาหนังสือวีโต้ของนายสมศักดิ์เห็นด้วยกับมติแพทยสภา 1 เรื่อง ไม่เห็นด้วย 3 เรื่อง เนื่องจากกรณีดังกล่าวมีผู้ถูกร้อง 4 คน แพทยสภายกข้อกล่าวหา 1 คน ในประเด็นนี้ทางนายสมศักดิ์ได้เห็นด้วยกับกรณีดังกล่าว
และให้ลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน กรณีประกอบวิชาชีพเวชกรรมไม่ได้มาตรฐาน และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน เนื่องจากให้ข้อมูลหรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง โดยให้เหตุผลว่าโทษรุนแรงเกินไปกว่าพฤติกรรม
โดยการยืนยันมติของแพทยสภาต้องมีเสียง 2 ใน 3 ของกรรมการทั้งหมด 70 คือ 47 เสียง ถ้าหากว่าในวันนี้กรรมการโหวตไม่ถึง 47 เสียง ซึ่งหมายถึงว่าแพทยสภาต้องมีการจัดประชุมใหม่ในครั้งหน้าตาม พระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 มาตรา 25 เรื่องการลงโทษสภานายกพิเศษเห็นชอบ หรือต้องมีเสียง 2 ใน 3 ถ้าเสียงไม่ถึงต้องประชุมใหม่
ผศ.ปริญญา ยังระบุว่า ไม่ว่าวันนี้ผลการประชุมของแพทยสภาจะออกมาอย่างไร ในพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ศาลฎีกาฯ ก็ไต่สวนคดี ซึ่งทั้งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ แพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ต้องไปให้การในชั้นศาล ซึ่งถ้ามติแพทยสภายืนยันการให้ความเห็นทางการแพทย์ไม่ตรงกับความจริง ทำให้ทางกรมราชทัณฑ์และแพทย์จะลำบากมากขึ้น
ตามปกติสิทธิของผู้ป่วย ถ้าหากมีอาการป่วยเกิดขึ้นที่สถานพยาบาลเรือนจำรักษาไม่ได้ หรือโรคเฉพาะทาง ใน 30 วันแรก ผบ.เรือนจำมีอำนาจให้รักษาตัวในโรงพยาบาลนอกเรือนจำ แต่ถ้าเกิน 30 วัน เป็นอำนาจของอธิบดีกรมราชทัณฑ์
ในกรณีที่ 30 วันแรก หรือเกิน 30 วัน อธิบดีกรมราชทัณฑ์จะอนุมัติหรืออนุญาตให้พักรักษาตัวก็ต้องขึ้นอยู่กับความเห็นแพทย์ และถ้าในวันนี้แพทยสภามีความเห็นว่าความเห็นของแพทย์ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง พรุ่งนี้ก็จะชี้แจงกับศาลได้ยากขึ้น
ถ้ากรณีเห็นด้วยกับการวีโต้ หมายถึงไม่ถึง 47 เสียง แพทย์ใหญ่ผู้ให้ความเห็นทางการแพทย์กรณียังกลับเรือนจำไม่ได้ มีโอกาสได้มากขึ้น
ทั้งนี้จากการวีโต้ที่ระบุโทษที่ลงหนักเกินไป แต่ไม่ใช่เรื่องของการไม่ผิด ไม่บกพร่อง ซึ่งแพทยสภาอาจจะมีการพิจารณาในเรื่องของบทลงโทษแพทย์ใหม่
ทั้งนี้ต้องจับตาดูว่าในการประชุมแพทยสภาวันนี้นายสมศักดิ์จะเข้าร่วมประชุมด้วยหรือไม่ รวมถึงท่าทีในการประชุมจะมีเสียงโหวตลงมติถึง 47 เสียงหรือไม่
อ่านข่าว :
ลุ้น! มติแพทยสภาลงโทษหมอปม "ทักษิณ" ชั้น 14 "สมศักดิ์" ร่วมประชุม 15 นาที
นพ.ตุลย์ มอบกว่า 50,000 รายชื่อ หนุนมติแพทยสภา ปมชั้น 14
"สมศักดิ์" แจง "วีโต้" เพราะมติแพทยสภาไม่ชัดเจน-ปัดมีใบสั่งการเมือง