ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหา "อดีตผู้บริหาร กสทช." ล็อกสเปกจัดซื้อระบบไอที 158 ล้าน

สังคม
16:41
422
ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหา "อดีตผู้บริหาร กสทช." ล็อกสเปกจัดซื้อระบบไอที 158 ล้าน
อ่านให้ฟัง
10:18อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหาคดี “ล็อกสเปก” จัดซื้อจัดจ้างพัฒนาระบบไอที ใน กสทช.158 ล้านบาท จ่อฟ้อง อดีต ผอ.กลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ อดีตผู้บริหารกสทช. และ พล.อ.ท.ธนพันธุ์ กรรมการ กสทช. เผยร่วมกันเปลี่ยนเงื่อนไข เพื่อให้อำนาจอนุมัติไม่ต้องผ่านบอร์ด

วันนี้ (12 มิ.ย.2568) แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2568 คณะกรรมการป.ป.ช. ได้มีมติแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิคัดค้านคณะกรรมการไต่สวน ในคดี เลขที่ 01-2-0602/2566 ต่อนายเนติพงษ์ ตลับนาค รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการกลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงาน กสทช. โดยมีอดีตผู้บริหาร และกรรมการ กสทช.อีก 1 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

กรณีกระทำความผิดต่อหน้าที่ ไม่ปฏิบัติตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง 2 โครงการ งบประมาณ 158 ล้านบาท ไม่เปิดให้แข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม กำหนดราคากลางสูงเกินจริง เพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดได้สิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐโดยมิชอบ

ทั้งนี้ในสำนวนไต่สวนของ ป.ป.ช. มีการกล่าวหาพาดพิงไปถึง พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี อดีตประธาน กสทช. รวมถึง นายฐากร ตัณฑสิทธิ อดีตเลขาธิการ กสทช. พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการ กสทช. (ปัจจุบัน) ฯลฯ ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับนายเนติพงษ์ในช่วงดังกล่าว

คณะกรรมการไต่สวน ป.ป.ช.มีพยานหลักฐานเพียงพอ สนับสนุนข้อกล่าวหาว่า มีมูลความผิด จึงแจ้งข้อกล่าวหา ตามมาตรา 70 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ประกอบข้อ 72 ของระเบียบ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยการตรวจสอบและไต่สวน พ.ศ.2561

แหล่งข่าวจาก ป.ป.ช. ระบุว่า คดีนี้เกิดขึ้นในขณะที่ นายเนติพงษ์ รักษาการผู้อำนวยการกลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ (รก.อทย.) ได้รับมอบหมายให้จัดทำ TOR และกำหนดราคากลาง 2 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการจ้างพัฒนาระบบบริหารการเงินการบัญชี ระบบการจัดการรายได้ และระบบสินทรัพย์และการพัสดุ (ERP) งบประมาณ 98 ล้านบาท และ 2.โครงการจ้างพัฒนาระบบบริหารทรัพยากรบุคคลของ กสทช.(HR) งบประมาณ 60 ล้านบาท

ทั้ง 2 โครงการนี้อำนาจอนุมัติเดิมเป็นของ “เลขาธิการกสทช. โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ กสทช.” แต่ต่อมานายเนติพงษ์ และพวก ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขให้การอนุมัติ ลดวงเงินงบประมาณให้อยู่ใน “อำนาจอนุมัติเป็นของเลขาธิการ กสทช. โดยความเห็นชอบของประธาน กสทช.”

สำนวนไต่สวนของ ป.ป.ช. ระบุว่า นายเนติพงษ์ ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ ตามบันทึกกลุ่มงานพัสดุและบริหารทรัพย์สิน ลงวันที่ 8 พ.ย.2556 อาศัยโอกาสที่เป็นเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่ของรัฐ ร่วมกันกระทำการโดยแบ่งหน้าที่กันทำกับ พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช. ร่วมกับ พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ

ขณะนั้นปฏิบัติหน้าที่เลขานุการประธาน กสทช. และอนุกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. และคณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ ปรับเปลี่ยนรูปแบบ วิธีการ และลดวงเงินงบประมาณโครงการ ERP และ HR ลงเหลือโครงการละ 50 ล้านบาท เพื่อให้อำนาจอนุมัติ อยู่ในอำนาจของเลขาธิการ กสทช. โดยการขอความเห็นชอบต่อประธาน กสทช. ตามระเบียบคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 19(4)

สำนวน ป.ป.ช.ไต่สวน พบด้วยว่า เมื่อนายเนติพงษ์ ได้เข้ามารับตำแหน่ง รก.ผู้อำนวยการกลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ประมาณเดือน ก.ค.-ส.ค.2555 ได้รับแจ้งว่า พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช. ต้องการให้ปรับลดวงเงินงบประมาณโครงการ ERP และ HR เหลือโครงการละ 50 ล้านบาท

ดังนั้นจึงมีการตั้งเรื่อง โดยประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ครั้งที่ 9/2555 วันที่ 7 ก.ย.2555 มีมติเห็นควรให้ดำเนินการจ้างทั้ง 2 โครงการแบบบูรณาการ และจ้างที่ปรึกษาเพื่อให้ TOR ทั้งสองระบบสอดคล้องกันวงเงิน 4 ล้านบาท

สำนวนไต่สวนของ ป.ป.ช. ระบุอีกว่า ในการประชุมครั้งที่ 10/2555 วันที่ 17 ก.ย.2555 แม้ที่ประชุมเห็นว่าการจ้างที่ปรึกษาควรเปิดกว้าง ให้สถาบันอุดมศึกษาสถาบันวิจัยของรัฐ สถาบันอิสระ หรือนิติบุคคล ที่ขึ้นทะเบียนเป็นที่ปรึกษากับกระทรวงการคลัง เข้าร่วมประมูลได้ แต่ทาง พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ ต้องการให้ สจล. หรือ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นที่ปรึกษาโครงการ ERP และ HR

ในที่สุด ต่อมากลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ มีหนังสือที่ กสทช. 2007/493 ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2555 เรื่อง “การจัดทำงบประมาณกลางปี 2555” โดยปรับลดวงเงินงบประมาณทั้งสองโครงการ คือ EPR และ HR ลงเหลือเพียงโครงการละ 50 ล้านบาท ตามแนวทางถูกกำหนดและสั่งการไว้

การกระทำดังกล่าว ถือเป็นการปรับเปลี่ยนเป็นลักษณะการแบ่งจ้าง ลดวงเงินที่จะจ้างในครั้งเดียวกัน เพื่อให้อำนาจสั่งจ้างเปลี่ยนแปลงไป กำหนดเงื่อนไขเพื่อช่วย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ให้มีสิทธิเข้าทำสัญญากับ กสทช.ทั้ง 2 โครงการ มีเจตนาไม่ให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อแสวงหาประโยชน์มิควรได้โดยชอบ จัดซื้อจัดจ้างสูงเกินจริง ทำให้เกิดความเสียหายแก่ กสทช.

อ่านข่าว :