ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ไม่ใช่แค่หยุดยิง! "ทรัมป์" ขู่หนักหากอิหร่านโจมตีกองกำลังสหรัฐฯ

ต่างประเทศ
18:15
379
ไม่ใช่แค่หยุดยิง! "ทรัมป์" ขู่หนักหากอิหร่านโจมตีกองกำลังสหรัฐฯ
ความขัดแย้งอิหร่าน-อิสราเอลรุนแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ขณะที่ ปธน.ทรัมป์ ย้ำชัดไม่ต้องการแค่การหยุดยิง แต่ต้องการ "การยุติอย่างแท้จริง" ของโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน พร้อมขู่ตอบโต้ หากแตะต้องทหารอเมริกัน สหรัฐฯ จะเอาคืนอย่างหนักหน่วง

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2568 ตามเวลาสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ปธน.สหรัฐฯ แถลงระหว่างโดยสารบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันถึงสถานการณ์ในตะวันออกกลางว่า ไม่ต้องการเพียง "การหยุดยิง" แต่ต้องการ "การยุติโครงการนิวเคลียร์อิหร่านอย่างแท้จริง"

ต้องยุติอย่างแท้จริงหรืออิหร่านยอมจำนนโดยสมบูรณ์ก็ใช้ได้

ทรัมป์ย้ำว่า อิหร่านไม่สามารถมีอาวุธนิวเคลียร์ได้เด็ดขาด และหวังว่าโครงการนี้ควรถูกทำลายไปตั้งแต่ต้นโดยไม่ต้องให้สหรัฐฯ เข้ามาแทรกแซง ทรัมป์ยังเตือนอิหร่านว่าอย่าแตะต้องกองกำลังหรือทรัพย์สินของสหรัฐฯ ในภูมิภาค โดยกล่าวว่า

อย่าแตะต้องทหารของสหรัฐฯ เราพร้อมโจมตีหนักมาก หากอิหร่านลงมือ

ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯ ได้โพสต์ข้อความบน Truth Social เรียกร้องให้ชาวเมืองเตหะรานอพยพออกจากเมืองโดยเร็ว แม้จะไม่มีภัยคุกคามเฉพาะเจาะจง แต่เขาเตือนว่าอะไร ๆ อาจเกิดขึ้นได้เสมอ

ทรัมป์เดินทางออกจากการประชุม G7 ที่แคนาดาก่อนกำหนดเพราะความรุนแรงในตะวันออกกลาง แต่ได้ปฏิเสธคำพูดของ ปธน.ฝรั่งเศส แอมานุแอล มาครง ที่กล่าวว่า ทรัมป์เดินทางกลับเพื่อดำเนินการเรื่องการหยุดยิง โดยโต้ว่า มาครงพูดผิด มาครงอยากได้พื้นที่ข่าว และย้ำว่า สิ่งที่เขากำลังทำ ใหญ่กว่านั้นมาก และเสริมว่า ข่าวที่รายงานว่ายื่นข้อเสนอ "เจรจาสันติภาพ" ให้กับอิหร่านนั้นเป็น "ข่าวปลอม"

เมื่อถูกถามว่ามีแผนจะส่งทูตพิเศษ หรือ รอง ปธน. เจ.ดี. แวนซ์ ไปเจรจากับอิหร่านหรือไม่ ทรัมป์ตอบคลุมเครือว่า อาจจะ ขึ้นอยู่กับว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเขากลับไป พร้อมย้ำว่าแผนการใด ๆ จะตัดสินใจภายหลังจากประชุมทีมความมั่นคงแห่งชาติที่ห้องสถานการณ์ฉุกเฉินของทำเนียบขาวในวันอังคารที่ 17 มิ.ย.

ขณะที่ทรัมป์แสดงท่าทีแข็งกร้าว การโจมตีของอิสราเอลยังดำเนินต่อเป็นวันที่ 5 โดยเป้าหมายหลักคือโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านและผู้นำกองทัพ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 มิ.ย.) อิสราเอลได้ใช้ปฏิบัติการโจมตีใจกลางกรุงเตหะราน รวมถึงศูนย์เสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่เมืองนาทานซ์ สังหารนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์และผู้นำกองทัพระดับสูงหลายราย เจ้าหน้าที่อิสราเอลอ้างว่าสามารถควบคุมน่านฟ้าของอิหร่านได้แล้ว และมีแผนจะขยายปฏิบัติการเพิ่มเติม

ในด้านของอิหร่าน ได้ตอบโต้ด้วยขีปนาวุธและโดรนรุ่นใหม่ยิงกลับสู่อิสราเอล สื่อท้องถิ่นรายงานเสียงระเบิดทั่วกรุงเตหะราน และมีควันลอยทางตะวันออกของเมือง โดยระบบป้องกันภัยทางอากาศถูกเปิดใช้งานที่เมืองนาทานซ์ ซึ่งห่างจากกรุงเตหะรานราว 320 กิโลเมตร

รายงานระบุว่าการโจมตีครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คนในเมืองคาชาน และบาดเจ็บอีก 4 คน เจ้าหน้าที่อิหร่านรายงานยอดรวมผู้เสียชีวิต 224 คน ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือน ขณะที่อิสราเอลรายงานการสูญเสียพลเรือน 24 คน พร้อมอพยพประชาชนกว่า 3,000 คน

ผู้อำนวยการ IAEA ราฟาเอล กรอสซี เปิดเผยว่าโรงงานนิวเคลียร์นาทานซ์ได้รับความเสียหายหนัก เซนทริฟิวจ์ราว 15,000 ตัวถูกทำลาย ขณะที่โรงงานฟอร์โดวยังคงสภาพสมบูรณ์

ในด้านการทูต แหล่งข่าวเปิดเผยว่าอิหร่านได้ร้องขอโอมาน กาตาร์ และซาอุดีอาระเบียช่วยกดดันทรัมป์ให้โน้มน้าวอิสราเอลตกลงหยุดยิง โดยแลกกับความยืดหยุ่นในการเจรจานิวเคลียร์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน อาบาส อารากชี ระบุว่า

หากทรัมป์จริงใจที่จะหยุดสงคราม ต้องทำให้อิสราเอลหยุดการรุกรานเสียก่อน

อิหร่านยืนยันว่าไม่ได้ต้องการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์และมีสิทธิ์ในการเสริมสมรรถนะตามข้อตกลง NPT ซึ่งอิสราเอลไม่ใช่ภาคี ในขณะเดียวกัน ผู้นำโลกในที่ประชุม G7 เรียกร้องให้ลดความตึงเครียด พร้อมย้ำว่าอิหร่านต้องไม่ถือครองอาวุธนิวเคลียร์ และยืนยันสิทธิ์ของอิสราเอลในการป้องกันตนเอง

ที่มา : BBC, The Guardian, ABC news, Reuters

อ่านข่าวอื่น :

รัฐบาลทรัมป์พิจารณาห้ามเข้าสหรัฐฯ เพิ่มเป็น 36 ประเทศ

ปูมหลังขัดแย้ง 46 ปี! จุดแตกหักมิตรรักสู่ศัตรู "อิสราเอล-อิหร่าน"