วันนี้ (18 มิ.ย.2568) เวลาประมาณ 14.10 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ทำเนียบรัฐบาล หลังจากมีคลิปเสียง ที่ถูกระบุว่า เป็นการสนทนาระหว่าง นายกฯ กับ ฮุน เซน ผ่านล่ามผู้ชาย ถูกเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียจำนวนมาก
โดยเนื้อหาเป็นการพูดคุยถึงปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ปัญหาการปิด-เปิดด่าน ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลไทยกับทหาร และภาพลักษณ์ของนายกฯ แพทองธาร กับคนไทย ฯลฯ
อ่านข่าว : "ฮุน เซน" รับแชร์ต่อแล้ว 80 คน พร้อมปล่อยคลิปเต็ม 17 นาที
น.ส.แพทองธาร ออกมาแถลงข่าว พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริเดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลฯ และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม

น.ส.แพทองธาร ยอมรับว่า เป็นคลิปเสียงของตนคุยกับ ฮุน เซน จริง ซึ่งเป็นการคุยกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า ทราบข้อมูลจากล่ามว่า ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งตนได้คุยกับฮุน เซน ว่า ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นคู่ขัดแย้งกัน ในตอนนั้นจึงมีการพูดในลักษณะนี้ ขออย่าถือสา โดยพยายามทำความเข้าใจ ในเรื่องที่ฮุน เซนโกรธ
ซึ่งเป็นการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์แบบส่วนตัว จึงมองว่า ไม่ควรนำมาเปิดเผย เพราะเป็นเรื่องการเจรจาต่อรองกัน ซึ่งตนมีจุดมุ่งหมายที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขและอธิปไตยของไทย จึงคุยด้วยความนุ่มนวล
ระหว่างพูดคุยไปได้ครู่หนึ่ง ตนไม่แน่ใจเรื่องไทม์ไลน์ของกองทัพเป็นอย่างไร เขาขอให้ประเทศไทยเปิดด่าน จึงตอบไปว่าได้ และเสนอให้เปิดพร้อมกัน แต่ทางฝั่งกัมพูชาไม่ยอม ซึ่งเราพยายามเจรจาอย่างละมุนละม่อม แต่ก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้
จึงแจ้งไปว่า จะขอปรึกษากระทรวงกลาโหมก่อน ให้คำตอบ (ในวันที่มีการประชุมที่บ้านพิษณุโลก) จากนั้นฝ่ายกัมพูชาได้โพสต์ว่าจะปิดด่านทั้งหมด ซึ่งประเด็นนี้ตนคิดว่าไม่เหมือนที่คุยกันไว้

น.ส.แพทองธารกล่าวต่อว่า พยายามพูดคุยกับฝ่ายกัมพูชาด้วยความใจเย็น ต่อรอง เพื่อให้เกิดสันติภาพและไม่เสียเลือดเนื้อ ซึ่งเป็นความตั้งใจ แต่ฝ่ายกัมพูชาได้ย้ำถึงเรื่องการเปิดด่านเพียงอย่างเดียว แต่ตนยังไม่ได้รับปาก เพราะยังไม่ทราบความพร้อมของกองทัพ จึงแจ้งว่าจะตอบกลับหลังการประชุม
แต่ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า ฮุน เซน ต้องการคะแนนนิยมในประเทศของตัวเอง โดยไม่สนใจว่าจะเกิดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างไร
การกระทำดังกล่าวอยู่ในสายตาของโลก ที่จับตามองผู้นำ 2 คนพูดคุยกัน ส่วนตัว แต่มีการอัดคลิปแล้วปล่อยออกมาในลักษณะนี้ ซึ่งแน่นอนว่า ฝ่ายไทยไม่ได้ปล่อย เพราะจริง ๆ เราเจรจาเพื่อให้เกิดสันติภาพ แต่ไม่ทราบว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ฮุนเซนได้รับคะแนนนิยมเพิ่มขึ้น
นายกรัฐมนตรีได้ตอบคำถามของสื่อมวลชน กรณีจะมีการปล่อยคลิปเสียงฉบับยาวมีความกังวลหรือไม่ โดยระบุว่า ไม่อยากให้คนไทยไปหลงกลว่า จริงๆ เราทะเลาะกัน แต่ประโยคแรกที่พูดคือ อยากสร้างความเข้าใจ และให้สงบสุข ให้การปะทะยุติลง
เพราะดิฉันไม่ยอมเปิดด่านอย่างเดียว แต่ต้องการให้เปิดด่านร่วมกัน ไม่ทะเลาะกันแล้ว แต่ท่านไม่ยอมแต่ก็ฟังไม่ชัดว่า ไม่เปิดเพราะทหารโกหก ซึ่งตนเองบอกว่าขอปรึกษากองทัพก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากนี้จะไปคุยกันต่อได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีตอบว่า "ไม่ทราบ" พร้อมระบุว่า "ดิฉันไม่ใช่คนที่จะไปท้าตีท้าต่อย ฉะนั้นคงไม่มีการคุยส่วนตัวแล้ว
วันนี้ถือว่าความสัมพันธ์ 2 ตระกูลจบลงแล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ตอบว่า ไม่ทราบว่ายังไง แต่ไม่ขอคุยส่วนตัวแล้ว เพราะจะมีปัญหาเรื่องความไว้ใจ"

ส่วนกรณีที่เนื้อหาในคลิปบ่งชี้ว่า นายกรัฐมนตรีอยู่คนละฝั่งกับกองทัพภาคที่ 2 จะทำความเข้าใจอย่างไรนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องรอกองทัพก่อนว่า จะทำอย่างไร
จากต้นคลิปก็เข้าใจว่า มีการสุมไฟเรื่องนี้อยู่ว่า โกรธมากที่เห็นคลิป จึงพยายามที่จะทำความเข้าใจว่าคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็จะพูดแบบนี้ จึงพยายามทำความเข้าใจว่าปล่อยให้แม่ทัพภาคที่ 2 พูดเท่ๆ ไป ไม่มีอะไรจริงจัง เพื่อให้ประโยคต่อไปและพูดคุยเพื่อที่จะนำไปสู่การที่จะทำให้สงบสุข เช่น ถ้ายอมเรื่องนี้ ก็จะยอมเรื่องนี้
พอคุยเรื่องการเปิดด่าน เรื่องอาวุธ ก็แค่จำกัดเวลาตามที่ทราบ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นบทสนทนาแบบนี้ไม่ควรจะออกมาอยู่แล้ว ระดับผู้นำประเทศทั้งนายกฯ
อ่านข่าว :
ศบ.ทก.ชี้แจงขุดคูเลตในพื้นที่ไทย ยืนยันไม่ละเมิด MOU 43