ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ดีเดย์ 15 ต.ค.นี้ ใช้ E-ticket - สแกนหน้า นำร่อง 6 อุทยานฯ ทางทะเล

สิ่งแวดล้อม
21:24
53
ดีเดย์ 15 ต.ค.นี้ ใช้ E-ticket - สแกนหน้า นำร่อง 6 อุทยานฯ ทางทะเล
“เฉลิมชัย” เผยใช้ระบบ E-ticket บริหารจัดการอุทยานฯ เริ่ม 15 ต.ค.นี้ นำร่อง 6 พื้นที่ทะเลอันดามัน ขอจัดสรรงบฯ 200 ล้าน ติดตั้งระบบสแกนหน้า มั่นใจช่วยเก็บรายได้โปร่งใส ป้องกันสวมสิทธิ เล็งนำเงินเพิ่มสวัสดิการ จนท.

วันนี้ (18 มิ.ย.2568) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ลงพื้นที่ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการจัดการระบบบริหารจัดการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ หรือ E-National Park โดยกล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เปิดให้มีการจัดซื้อจัดจ้าง หรือ e-bidding ซึ่งจะนำร่องใน 6 พื้นที่อุทยานฯ ทางทะเล รวม 11 จุด ได้แก่

อุทยานฯ อ่าวพังงา บริเวณเขาพิงกัน, อุทยานฯ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี บริเวณเกาะไม้ไผ่ อ่าวมาหยา เกาะปอดะ, อุทยานฯ หมู่เกาะสิมิลัน บริเวณเกาเมียง (เกาะสี่) เกาะสิมิลัน (เกาะแปด), อุทยานฯ หมู่เกาะลันตา บริเวณเกาะรอก, อุทยานฯ หมู่เกาะสุรินทร์ บริเวณอ่าวช่องขาด อ่าวไม้งาม, อุทยานฯ ธารโบกขรณี บริเวณเกาะห้อง เกาะเหลาลาดิง โดยจะใช้ระบบสแกนและจดจำใบหน้า

นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ขณะนี้ระบบมีความพร้อมที่จะให้บริการนักท่องเที่ยว หลังได้รับอนุมัติงบฯ ติดตั้งเครื่องสแกน คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการทันช่วงฤดูกาลการท่องเที่ยว หรือไฮซีซั่น วันที่ 15 ต.ค.2568 ตั้งเป้าจะเพิ่มรายได้เข้าอุทยานฯ 4,000-5,000 ล้านบาทในอนาคต เพื่อนำเงินรายได้มาพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอุทยานฯ ไม่ให้เสื่อมโทรม และดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กลับมามากขึ้น

ขณะเดียวกันจะนำเงินรายได้ส่วนหนึ่งมาเป็นสวัสดิการให้กับลูกจ้างของกรมอุทยานฯ ซึ่งการใช้ระบบ E-ticket จะช่วยคัดกรองนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติได้ชัดเจน ป้องกันการสวมสิทธิ

สำหรับแผนในปีหน้า คาดว่าจะเพิ่มจุดดังกล่าว 70-80 แห่ง และภายในปี 2570-2572 จะดำเนินการให้ครบกวา 150 แห่งทั่วประเทศ ขณะนี้ได้เริ่มประชาสัมพันธ์การใช้ระบบ E-ticket ไปยังบริษัทนำเที่ยว และอุทยานฯ ทุกแห่ง รวมทั้งช่องทางเว็บไซต์อุทยานฯ โดยมั่นใจว่า เจ้าหน้าที่ผ่านการฝึกอบรบใช้ระบบนี้แล้ว

นอกจากระบบ E-ticket ยังมีการเตรียมความพร้อมในการให้บริการนักท่องเที่ยวที่วอล์กอินเข้ามาในพื้นที่อุทยานฯ

นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ผู้บริหารมีความห่วงใยและพยายามแก้ไขปัญหาต่าง ๆ พร้อมย้ำว่าในบางเรื่องที่ดำเนินการมานานกว่า 10 ปี และมีการเปลี่ยนแปลง เจ้าหน้าที่อาจต้องปรับตัวบ้าง ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับตัวบุคลากรของกรมฯ เอง

ด้านนางวนบุษป์ อรรถวิทย์ ผอ.ส่วนจัดการท่องเที่ยวและนันทนาการ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากเดิมระบบ E-Ticket เป็นการจองและจ่ายเงิน แต่พบว่าอุทยานฯ บางแห่งไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ จึงไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลได้

ดังนั้นระบบใหม่ที่กำลังพัฒนา คือ การจองล่วงหน้าและชำระเงิน รวมทั้งเพิ่มการแสกนใบหน้า (Face Scan) เหมือนการสแกนใบหน้าที่สนามบิน โดยคนไทยจะเชื่อมข้อมูลกับแอปพลิเคชัน Thai ID ทำให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น แม้ไม่ได้พกบัตรประชาชน ก็ยังคงสแกนหน้าได้ ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติต้องใช้พาสปอร์ตเวลาท่องเที่ยวอยู่แล้ว

นางวนบุษป์ กล่าวว่า กรมอุทยานฯ จะนำร่อง 6 อุทยานทางทะเล โดยทั้ง 11 จุด ใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งได้ข้อสรุปว่าจะเสนอขอจัดสรรงบประมาณในส่วนของงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท ทั้งนี้จะพร้อมเปิดให้บริการในวันที่ 15 ต.ค. 2568

นางวนบุษป์ กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนการซื้อบัตร E -Ticket สามารถจองอุทยานได้ผ่านทางเว็บไซต์หรือผ่านทางแอปพลิเคชัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำระบบ จากนั้นกรอกข้อมูลนักท่องเที่ยว หรือสแกนบัตรประชาชน และถ่ายรูปใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน

จากนั้นจะมีการเลือกวิธีการชำระเงิน เมื่อชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถสแกนใบหน้าเพื่อเข้าพื้นที่อุทยานแห่งชาติได้เลย

อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าเทรนด์การท่องเที่ยวยุคใหม่ ต้องโปร่งใส ถูกกฎหมาย ไร้ทุจริต ซึ่งกรมอุทยานฯ มีความมุ่งมั่นทำด้วยใจ เพื่อให้การบริหารจัดการอุทยานฯ เป็นไปอย่างโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ 

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

-