ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

วิบากกรรมตอนแก่ “ฮุน เซน” ผู้นำตัวจริงกัมพูชา

ต่างประเทศ
16:01
232
วิบากกรรมตอนแก่ “ฮุน เซน” ผู้นำตัวจริงกัมพูชา
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
การอ้างถึงข้อมูลของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ที่ระบุว่า “กัมพูชา” เป็นหนึ่งในศูนย์กลางของอาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลกปัจจุบัน ในการประชุมติดตามแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ทำเนียบรัฐบาล

โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ เมื่อวันจันทร์ (23 มิ.ย.) ที่จริงไม่ใช่ข้อมูลใหม่ แต่มีนัยเพื่อตอบโต้กัมพูชา ในช่วงที่นายกฯ ไทย อยู่ในช่วงซวนเซเรื่องคะแนนนิยม จากกรณีคลิปเสียงกับสมเด็จฮุน เซน

เท่ากับดิสเครดิต และสะท้อนความจริงของประเทศกัมพูชา ภายใต้อำนาจที่ยาวนานกว่า 4 ทศวรรษของผู้นำตัวจริง และเป็นประมุขใหญ่ของตระกูลฮุน ที่ถูกยกให้เป็น “ก็อด ฟาเธอร์” ของกัมพูชา

ไม่มีใครรู้ว่า สมเด็จฮุน เซน มีทรัพย์สินจริงมากน้อยแค่ไหน แต่ข้อมูลเมื่อปี 2559 จากรายงานของ Global Witness หรือ องค์กรสืบสวนระหว่างประเทศ เพื่อเปิดโปงการแสวงประโยชน์จากการทุจริตฯ ระบุว่า ครอบครัวของฮุน เซน มีทรัพย์สินมหาศาลกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการถือครองหุ้นบริษัทในประเทศ อย่างน้อย 114 แห่ง ครอบคลุมทั้งพลังงาน การสื่อสาร เหมืองแร่และการค้า แต่ทางการกัมพูชาปฏิเสธ

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาโดดเด่น ทั้งการควบคุมอำนาจการบริหารประเทศ และเครือข่ายธุรกิจ ด้านหนึ่งเป็นเพราะปราศจากคู่แข่ง แม้แต่ด้านการเมือง พรรคฝ่ายค้านจะถูกกำราบ โดยใช้ทั้ง การออกกฎหมายสกัดกั้น และ “นิติสงคราม” หรือการใช้ทุกองค์กรในกระบวนการยุติธรรม เป็นเครื่องมือ รวมถึงการไล่ล่า แม้จะหลบหนีไปลี้ภัยต่างประเทศ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะรอด

อย่างกรณีของนายลิม คิมยา อดีต สส.และฝ่ายค้านของกัมพูชา ที่ถูกยิงเสียชีวิตในประเทศไทย สำนักข่าวอัลจาซีร่า นำเสนอเบื้องหลังข่าวนี้ ระบุว่า คลิปเสียงคำสั่งไล่ล่า ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย พิสูจน์แล้วว่า เป็นเสียงของสมเด็จฮุน เซน แต่ทางการกัมพูชาปฏิเสธเช่นกัน

อ้างว่าเป็นเสียงเอไอ แต่หากเป็นจริง ดังที่สื่อระดับโลกแห่งกาตาร์อ้างถึง เท่ากับแสดงว่า เขามีเครือข่ายและบารมีข้ามประเทศ รวมทั้งในประเทศไทย

ฉากหลังของ “ระบอบฮุน เซ็น” ได้ใช้วิธีการปลุกกระแสชาตินิยมลักษณะโฆษณาชวนเชื่อดึงมวลชนช่วยค้ำบัลลังก์ โดยเจ้าแม่สื่อ คือฮุน มะนา ลูกสาวคนโต ที่เป็นเจ้าของหุ้นสื่อใหญ่ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในกัมพูชา รวมทั้งทีวีบายนหรือบายัน ยังไม่นับสื่อแห่งชาติของกัมพูชาที่คอยสนองตอบรัฐบาล

ขณะที่นายพลฮุน มาเนต ลูกชาย ปัจจุบันเป็นนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ก้าวขึ้นนั่งเก้าอี้ใหญ่เป็นผู้นำประเทศอย่างเป็นทางการ แทนสมเด็จฮุน เซน จากการเลือกตั้งครั้งหลังสุด ที่ไม่มีพรรคฝ่ายค้านเป็นคู่แข่ง

และเพราะการบริหารประเทศที่ไม่ประสบความสำเร็จ จากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ผลจากนโยบาย และความล้มเหลวจากการสนับสนุนให้กลุ่มทุนจากประเทศจีน เข้าไปลงทุนในประเทศ

รวมทั้งพัฒนาเมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่างสีหนุวิลล์ จนเต็มไปด้วยสถานบันเทิงครบวงจร และกาสิโน ตั้งแต่ปี 2556 ที่กลายเป็นศูนย์รวมของกลุ่มมิจฉาชีพรายใหญ “แก๊ง 14 เค” จากจีน ที่เข้ามาลงทุนและขยายอาณาจักร โดยมีกลุ่มลูกค้าหลักและนักเสี่ยงโชค ที่ไปเล่นการพนันในกาสิโน จนกลายเป็น “ไชน่าทาวน์” เพราะมีคนจีนอาศัยและเข้าออกมากกว่า 5 แสนคน เมื่อครั้ง “พีค” สุดขีด

แต่ผลที่ตามมา ไม่เพียงติดหนี้สินพนันล้นตัวเท่านั้น ยังนำไปสู่แก๊งอาชญากรเรียกค่าไถ่จากครอบครัวในประเทศจีน และก่อให้เกิดเงินทุนนอกระบบ และเงินทุนไหลออกจากประเทศจีน กระทั่งประธานาธิบดี สี จินผิง ในฐานะ “พี่ใหญ่” ที่หนุนหลังและคอยช่วยเหลือกัมพูชา ต้องทำหนังสือถึงสมเด็จฮุน เซน เมื่อปี 2562 ขอความร่วมมือแกมบังคับ ให้ปราบปราบกลุ่มแก๊งอาชญากรเทาจีนในประเทศกัมพูชา เมื่อปี 2562

นำไปสู่การเป็นเมืองร้างของเมืองสีหนุวิลล์ อย่างที่เห็นในปัจจุบัน และเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลถึงระบบเศรษฐกิจของประเทศกัมพูชา ยิ่งเมื่อเกิดข้อพิพาทเรื่องสามเหลี่ยมมรกต ชายแดนไทย-กัมพูชา และลุกลามบานปลาย

ผู้นำกัมพูชาประกาศนำพื้นที่พิพาทขึ้นศาลโลก ปฏิเสธไม่ใช้เวทีเจบีซีเจรจาหาทางออก ทั้งเรียกแรงงานกลับประเทศ ประกาศไม่ซื้อสินค้าและน้ำมันจากไทย และใช้มาตรการปิดด่านชายแดนตอบโต้ฝั่งไทย กลายเป็นความเดือดร้อนของชาวกัมพูชาอย่างเลี่ยงไม่พ้น

ข้อมูลจากเวทีแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติที่ทำเนียบฯ ระบุว่า กัมพูชาสูญเสียรายได้จากกิจกรรมผิดกฎหมายไปแล้วประมาณ 30,000 ล้านบาท จากมาตรการที่ไทยใช้ตอบโต้กัมพูชา จึงเป็นอีกหนึ่งผลกระทบอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นกับกัมพูชา ภายใต้การขับเคลื่อนและเป็นผู้บัญชาการ รวมทั้งตัดสินใจสำหรับการตอบโต้กลับรัฐบาลไทย ของสมเด็จฮุน เซน

เพื่อหวังโยนผลพวงต่าง ๆ ว่า เกิดจากรัฐบาลไทย เป็นการปกปิดและเบี่ยงเบนประเด็นไปจากเรื่องฝีมือบริหารประเทศที่ล้มเหลวของทายาท

ถือเป็นวิบากกรรมตอนแก่ ไม่ต่างจากการถูกสหประชาชาติ หรือยูเอ็น กล่าวหาว่าเป็นแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติรายใหญ่แห่งหนึ่งของโลกในปัจจุบัน

ทั้งที่ประชาชนคนกัมพูชาไม่ได้รู้เห็น และไม่ได้มีส่วนร่วมในการจัดสินใจเรื่องเหล่านี้เลย

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : นายกฯ สั่งเร่งเยียวยาประชาชน ได้รับผลกระทบเหตุขัดแย้ง

กกล.บูรพา เปิดด่าน 17.00-20.00 น. อนุโลมให้คนไทย-กัมพูชากลับประเทศ

"กาตาร์" ตัวกลางสำคัญ! ช่วยทรัมป์เจรจาหยุดยิงอิหร่าน-อิสราเอล