ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“สมบัติ” ชี้เสียง "หนุนรัฐประหาร" ทำให้ชุมนุมเป้าหมายเปลี่ยน

การเมือง
09:34
505
“สมบัติ” ชี้เสียง "หนุนรัฐประหาร" ทำให้ชุมนุมเป้าหมายเปลี่ยน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

สมบัติ บุญงามอนงค์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ให้สัมภาษณ์รายการมุมการเมือง วันนี้ (30 มิ.ย.2568)

หลายคนที่ไปยืนบนนั้น เคยประกาศไม่เอารัฐประหาร แต่การปราศรัยของ สนธิ ลิ้มทองกุล และท่วงทำนองของผู้ชุมนุมบางคนมันคล้อยไปในทางนั้น ผมคิดว่าต้องมีการอธิบายกัน ไม่งั้นการชุมนุมจะฝืดมาก

ผู้สื่อข่าวถามว่า พอเปิดช่องถึงการรัฐประหาร จะกลายเป็นจุดร่วมหรือจุดต่าง นายสมบัติกล่าวว่า ผมว่าทำม็อบสะดุดเลยนะ ก่อนการชุมนุมมีการดักคอกันมาก่อน เพราะกลุ่มแกนนำที่เป็นผู้จัดการชุมนุมเกือบทั้งหมด เคยเคลื่อนไหวแล้ว ทำให้สถานการณ์มันปูทางไปสู่การรัฐประหาร แล้วหลังการรัฐประหาร ท่าทีของพวกเขาก็ไม่ชัดเจนว่า ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร

เวลารัฐประหารเสร็จมีการฉลองเฮฮากัน ภาพจำของคนมองเข้าไปจึงแคลงใจกัน ผมว่าเกิดการสะดุดนะ และอาจถกเถียงกันถึงขั้นว่าวันต่อมาแนวร่วมออกมาพูดแก้ตัวว่าไม่สนับสนุนการรัฐประหาร

ผู้สื่อข่าวถามว่า เขาหลุดปากด้วยบรรยากาศพาไปหรือยังไง นายสมบัติกล่าวว่า ด้านหนึ่งอาจเป็นไปได้ว่า ภาษาพาไป บรรยากาศพาไปทำนองนั้น แต่ผมเชื่อว่าลึก ๆ เขาเชื่อแบบนั้นจริง ๆ ในเฉพาะคนพูดนะ

ส่วนมวลชนเราเห็นถ้อยคำและแนวคิดปรากฏในโลกออนไลน์ระยะหนึ่งแล้ว ก่อนจะมีชุมนุม แสดงว่า ชุดความคิดนี้มันมีที่มาที่ไปในทางรากความคิด

ข้อเสนอของขบวนนี้เขาไม่ได้เสนอคืนอำนาจให้ประชาชน เขาเสนอให้ลาออก แล้วนำไปสู่เดดล็อก (Death Lock) ขยับไปไหนไม่ได้ ก็เดาได้ว่า ต้องการปูทางให้มีอำนาจพิเศษเข้ามาจัดการปัญหา

เมื่อถามว่า แต่ดูแนวคิดนี้ไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนเท่าไร ณ วันนี้มวลชนจะไปต่อด้วยหรือขยับตัวออก

นายสมบัติกล่าวว่า การรัฐประหารไม่ใช่แค่เกิดขึ้นแล้วไม่สำเร็จ ในเชิงการแก้ปัญหาหรือพัฒนาประเทศนะ แต่มันผิดหลักการเลย มันทำให้อำนาจไปอยู่ในมือของคนที่ถือปืน และไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ หรือความชอบธรรมในการบริหารประเทศ ประชาชนจะถูกกันออกจากสมการการเมืองเลย เป็นแค่คนเฝ้าดูเฉย ๆ

แต่ผลต่อการชุมนุมจะทำให้แรงต้าน หรือคนไม่เห็นด้วย มันรวมตัวกันได้ โดยผ่านประเด็นการไม่เอารัฐประหาร พอมีแรงต้าน ก็ทำให้การชุมนุมมันฝืดและสับสนในขบวน

สมบัติ บุญงามอนงค์ : ขอบคุณภาพ The Active

สมบัติ บุญงามอนงค์ : ขอบคุณภาพ The Active

สมบัติ บุญงามอนงค์ : ขอบคุณภาพ The Active

ผมจะยกตัวอย่าง โดยไม่ตีตราว่าผู้ร่วมชุมนุมหรือแกนนำคิดในทำนองนั้นทั้งหมดนะ เช่น รสนา โตสิตระกูล หลังการรัฐประหาร 2557 เขาชัดเจนมากว่า ไม่เอารัฐประหาร ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

วีระ สมความคิด ชัดเจนมาก ตั้งแต่หลังรัฐประหาร 2549 เลย เคยขึ้นเวทีเสวนาว่า ไม่เห็นด้วยมาก ๆ

หลายคนที่ไปยืนบนนั้น ก็เคยประกาศจุดยืนว่า ไม่เอารัฐประหาร แต่การปราศรัยของ สนธิ ลิ้มทองกุล และท่วงทำนองของผู้ชุมนุมบางคนมันคล้อยไปในทางนั้น ผมคิดว่า ต้องมีการอธิบายกันภายในขบวน ถ้าไม่เคลียร์กัน การชุมนุมต่อไปมันจะฝืดมาก

การชุมนุมครั้งหน้าที่จะเกิดขึ้น อาจยังพอมีขนาด แต่จะใหญ่กว่านี้นั้น ผมว่าไม่ และจะเต็มไปด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปที่ม็อบ ซึ่งยากลำบากต่อการจัดการมวลชน

เมื่อถามว่า มันจะฝืดขนาดไหน เพราะบางคนดูจะสนับสนุนการรัฐประหาร เพราะมองว่า เป็นทางออกต่อวิกฤตการเมืองจริง ๆ

นายสมบัติกล่าวว่า ผมว่าจะไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ จะเป็นคนกลุ่มน้อย แกนนำกลุ่มนี้มีประวัติการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นที่กังขาอยู่แล้ว แบรนด์มีปัญหา แต่แน่นอนเขามีผู้สนับสนุนจำนวนหนึ่ง ที่เหนียวแน่น แต่ไม่สามารถขายความคิดกับคนใหม่ ๆ ได้

สังเกตว่า ชุมนุมรอบนี้แทบไม่มีคนรุ่นใหม่เข้ามาเลย มีแต่คนที่เคยร่วมกันมาในอดีต ซึ่งอายุมากแล้ว และเป็นข้อจำกัดเหมือนกัน หากไม่สามารถดึงดูดหรือได้รับการยอมรับจากสาธารณะชน มันจะไม่เติบโต มันจะอยู่ของมันอย่างนั้น

ขออ่านเกมนะ ผมคิดว่าความเป็นไปได้สูงสุดของการเคลื่อนไหวรอบนี้คือกดดันเข้าไปในกระบวนการสภา ทำให้พรรคร่วมบางพรรคถอนตัว เรื่องนี้ผมว่าเป็นไปได้

กลุ่มชุมนุมนี้อาจไม่สามารถขยายตัวได้ขนาดใหญ่ แต่จะเป็นมวลชนพื้นฐานที่สนับสนุนการเรียกร้อง หรือก่อสถานการณ์ที่นำไปสู่รัฐบาลแห่งชาติ

เมื่อถามว่า เมื่อมีความเห็นต่างในการมารวมกลุ่มกัน แกนนำมาจากหลายสีอุดมการณ์ สุดท้ายแกนนำจะยังร่วมกันได้ไหม

นายสมบัติกล่าวว่า หากมีคนไปตั้งคำถามแบบนี้กับแกนนำที่ผมเอ่ยชื่อหรือแม้แต่ จตุพร พรหมพันธุ์ ในฐานะที่ จตุพร เคลื่อนไหวตั้งแต่ปี 2535 ต่อต้าน รสช. จนมาถึง 2549-2557 หากเขาไปอยู่ในขบวนที่นำไปสู่รัฐประหาร ผมว่าแกจะไม่เหลือที่ยืน

นี่เป็นเรื่องที่ผมกังวลโดยส่วนตัวเพราะเคยต่อสู้ร่วมกันมาก่อน ในบรรดาคนทั้งหมดผมกังวล จตุพร ที่สุดและคำถามนี้จะต้องถึง จตุพร แน่นอน เขาจะต้องตอบคำถามในทางสาธารณะว่าจะเอาอย่างไร

รายงาน : อุรชัย ศรแก้ว ผู้สื่อข่าวการเมือง ไทยพีบีเอส

อ่านข่าว : นายกฯ เผยหารือ "มาครง" ยกระดับสู่หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ย้ำยึดสันติแก้ปัญหากัมพูชา

"กัมพูชา" ประกาศระงับการค้าข้ามพรมแดนกับไทย

ยุโรปเผชิญ "คลื่นความร้อน" สเปนอุณหภูมิพุ่งแตะ 48 องศาฯ