ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

วิเคราะห์แนวทางศาล รธน.ปมคลิปนายกฯ คุยฮุนเซน แรงกระเพื่อมเขย่ารัฐบาล?

การเมือง
15:58
329
วิเคราะห์แนวทางศาล รธน.ปมคลิปนายกฯ คุยฮุนเซน แรงกระเพื่อมเขย่ารัฐบาล?
อ่านให้ฟัง
05:30อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
นักวิชาการ วิเคราะห์แนวทางศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากรณีคลิปหลุด "แพทองธาร" คุย "ฮุนเซน" ขณะที่ เปิด 3 ข้อแรงกดดันที่จะทำให้นายกรัฐมนตรีลาออก

แรงกระเพื่อม ที่กำลัง ขย่ม เขย่ารัฐบาลแพทองธาร ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งศึกใน-อย่างการปรับ ครม.แพทองธาร 2 และศึกนอก กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับกรณีคลิปเสียสนทนาคุยกับสมเด็จฯ ฮุน เซน วันพรุ่งนี้

วันนี้ (30 มิ.ย.2568) ผศ.เชษฐา ทรัพย์เย็น ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เปิดเผยว่ารัฐบาลเปรียบเสมือนถังน้ำมันที่ถูกโยนไปกลางทะเลลึก มีแรงบีบจากทุกด้านจนทักบี้แบบ รัฐบาลขณะนี้โอกาสที่จะดำเนินการอะไรอย่างง่ายดายเหมือนเมื่อก่อน แทบจะมองไม่เห็นแล้ว โดยเฉพาะในวันที่ 1 ก.ค.2568 เป็นหมุดหมายที่กลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หรือแม้แต่คนในสังคมจำนวนหนึ่งวาดหวังไว้ ที่รอฟังคำพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ในกรณีคลิปเสียงที่สนทนากับสมเด็จฯ ฮุน เซน ซึ่งมองว่ามีความเป็นไปได้ 3 แนวทาง ซึ่งทั้ง 3 แนวทางมีความเป็นไปได้ทั้งสิ้น

  • แนวทาง 1 ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินเลย
  • แนวทาง 2.จะรับไว้และนัดสืบพยาน
  • แนวทาง 3.รับคำร้องไว้และมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เช่นเดียวกันนายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ด้วยเงื่อนไขของพยานหลักฐาน ศาลรัฐธรรมนูญอาจจะมีคำสั่งรับไว้พิจารณา ซึ่งถ้ามองว่าหยุดปฏิบัติหน้าที่ และมีรองนายกฯ รักษาการต่อไปได้ ก็สามารถหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้เพราะไม่ได้เกิดความเสียหายกับรัฐบาล

ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่า มีความเป็นไปได้ถึง 60% ที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง และสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ และ 40% คือรับคำร้องและให้ส่งพยานหลักฐานเพิ่มเติม แต่ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ก่อนจะพิจารณาพยานหลักฐานที่ครบถ้วนกว่าเดิมและมีคำสั่งออกมาอีกครั้งหนึ่ง

สำหรับพรรคเพื่อไทยอาจเตรียมการรับมือคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญล่วงหน้า มีรายงานกระแสข่าวเกี่ยวกับโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) ล่าสุดว่า นายกรัฐมนตรีอาจควบตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ

โดยทั่วไปแล้ว หากนายกรัฐมนตรีจะควบตำแหน่งอื่น มักจะเป็นกระทรวงหลักที่มีอำนาจใช้งบประมาณสูง เช่น กระทรวงกลาโหม มหาดไทย หรือการคลัง การควบตำแหน่งกระทรวงวัฒนธรรมจึงมองว่า เป็นการวางแผนหาทางหนีทีไล่ทางการเมือง เผื่อกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งยังมองสะท้อนให้เห็นพรรคเพื่อไทยเองก็ไม่มั่นใจในผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 1 ก.ค. 

ผศ.เชษฐา ยังวิเคราะห์ถึงแรงกดดันที่จะทำให้นายกรัฐมนตรีลาออก

1.ประเทศเพื่อนบ้าน ต้องเปิดเผยคลิปลับบางอย่างที่มีความหนักหน่วงกว่านี้ เพราะเป้าหมายชัดเจนว่านายกรัฐมนตรีจะถูกให้หยุดปฏิบัติหน้าที่

2.มาจากกลุ่มผู้ชุมนุมที่กำลังจะเกิดขึ้น และถ้ามีการนัดชุมนุมครั้งหน้าจำนวนคนที่มากกว่าเดิมอาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีได้

3.ปัจจัยครอบครัว ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีกระแสข่าวว่าทางครอบครัวมีความเห็นไม่ตรงกัน ซึ่งมองว่าลูกจะเจอปัญหาหนัก ถ้าดึงดันกว่านี้ ก็อาจจะให้หยุดพักก่อน

ส่วนปัจจัยเสริมคือต่อให้มี ครม.ใหม่ แต่ไม่ส่งผลให้ความนิยมและความเชื่อมั่นของนายกรัฐมนตรีกลับคืนมา อาจจะทำให้คิดว่าจะพารัฐบาลไปไม่ได้ ก็อาจจะตัดสินใจลาออก ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยยังมีนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อีกคน

นอกจากนี้กรณีที่วิปรัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทย ออกมาเลื่อน พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือกฎหมายกาสิโนออกไป และเลื่อนกฎหมายนิรโทษมาแทนจะช่วยลดแรงเสียดทานของรัฐบาลได้หรือไม่นั้น ผศ.เชษฐา มองว่าลดได้ไม่นานเนื่องจากการนำกฎหมายกาสิโนออกไปเพราะทางพรรคภูมิใจไทยตั้งเป้าจะยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลเพียงแต่หยุดประเด็นเล็กๆ แต่จะไปหยุดแรงกดดันขนาดใหญ่ที่ประชาชนไม่พอใจก่อนหน้านี้คงไม่ได้ รวมถึงการเจรจาทางการทูตที่หลายฝ่ายมองว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐาน

อ่านข่าว : 

"วันนอร์" ชี้หากศาล รธน.สั่งนายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซักฟอกไม่ได้

นายกฯ รับกังวลหากศาลฯรับพิจารณาคำร้อง สว.สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่

"กฎหมายนิรโทษกรรม" ซื้อใจ-ซื้อเวลา ใครได้ ใครเสีย?