ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

จับแล้ว 2 คนทำหน้าที่เอเยนต์ แก๊งปล้นเงินคริปโต 3.4 ล้านบาท

อาชญากรรม
11:37
2,469
จับแล้ว 2 คนทำหน้าที่เอเยนต์ แก๊งปล้นเงินคริปโต 3.4 ล้านบาท
อ่านให้ฟัง
03:27อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ตำรวจจับผู้ก่อเหตุปล้นเงินคริปโต 3.4 ล้านบาทได้แล้ว 2 คน ทำหน้าที่เป็นเอเยนต์ เตรียมขอศาลออกหมายจับอีก 5 คน ตรวจสอบพบหลายคนมีประวัติอาชญากรรม

วันนี้ (1 ก.ค.2568) ความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์ปล้นเงิน 3.4 ล้านบาท บริเวณลานจอดรถในห้างสรรพสินค้าย่านลาดพร้าว เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตำรวจทราบตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 7 คนแล้วและอยู่ระหว่างขอศาลอาญาอนุมัติหมายจับ

พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยภายหลังการประชุมความคืบหน้าคดีที่ สน.พหลโยธิน โดยใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ชุดสืบสวนสอบสวนติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุและสามารถจับกุมได้ 2 คนคือ นายเฌอพัชญ์ และ น.ส.นานา โดยจับกุมได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งย่านลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี

เบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คนทำหน้าที่เป็นเอเยนต์ติดต่อผู้เสียหายผ่านช่องทางออนไลน์ และนัดหมายสถานที่แลกเงิน เมื่อผู้เสียหายมาตามนัด นายเฌอพัชญ์จะล่อลวงผู้เสียหายไปที่รถ ซึ่งมีกลุ่มผู้ก่อเหตุรออยู่ในรถ จากนั้นได้ชิงเงินและหลบหนีไป

หลังจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ชุดสืบสวนนำตัวไปค้นที่รีสอร์ตย่านลาดหลุมแก้ว พบเงินสด 1.9 ล้านบาท พร้อมยึดสมุดบัญชีธนาคารและบัตรประจำตัวของผู้เสียหายคนอื่นๆ ที่เคยแจ้งความไว้ที่ สน.โคกคราม ส่วนเงินที่เหลืออยู่กับผู้ต้องหาอีก 5 คน

จากการขยายผล พบว่า มีผู้ร่วมกระทำความผิดอีก 5 คน ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับในข้อหาเดียวกัน ขณะที่ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดี

สำหรับพฤติการณ์ระหว่างผู้เสียหายและเอเยนต์ ก่อนหน้านี้เคยซื้อขายคริปโตกันมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรก 200,000 บาท ส่วนครั้งที่ 2 จำนวน 300,000 บาท ซึ่งครั้งนี้เป็นการซื้อขายครั้งที่ 3 ผู้เสียหายได้เพิ่มเงินจากหลักแสนเป็นหลักล้านบาท เพราะเชื่อใจ อีกทั้งการแลกเปลี่ยนเป็นเงินจำนวนมากจะได้กำไรเพิ่มขึ้นอีก 60,000 บาท

จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม พบว่า ผู้ต้องหาหลายคนมีประวัติเรื่องลักทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ยาเสพติดและอีกหลายคดี ส่วนนายเฌอพัชญ์และ น.ส.นานา มีคดีกรรโชกทรัพย์ ซึ่งเป็นหมายค้างเก่าในพื้นที่ สน.โคกคราม นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มผู้ต้องหารู้จักกันจากการเสพยาเสพติดและเช่าที่พักอาศัยอยู่ด้วยกัน โดยเงินที่พบในรีสอร์ตเป็นเงินส่วนหนึ่งจากการกระทำผิด

เบื้องต้น เข้าข่ายความผิด 1 ข้อหา คือ ร่วมกันปล้นทรัพย์ชิงทรัพย์ ส่วนข้อหาอื่นๆ อยู่ระหว่างพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม

อ่านข่าว

เร่งตามจับกลุ่มปล้นเงินซื้อขายคริปโต 3.4 ล้านในห้างย่านลาดพร้าว

เร่งหาสาเหตุไฟไหม้โรงงานทิชชูสระบุรี เสียชีวิต 8 สูญหาย 2 คน

ทนายชี้ "ทักษิณ" ต้องการเข้าฟังสืบพยานโจทก์คดี ม.112