ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ฮุน มาเนต" เตือนไทยอย่าล้ำเส้นห้ามชาวกัมพูชาเข้าถึงพื้นที่พิพาท

ต่างประเทศ
07:43
1,093
"ฮุน มาเนต" เตือนไทยอย่าล้ำเส้นห้ามชาวกัมพูชาเข้าถึงพื้นที่พิพาท
อ่านให้ฟัง
06:59อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"ฮุน มาเนต" ปฏิเสธข้อกล่าวหากัมพูชาแทรกแซงการเมืองภายในของไทย พร้อมชี้ว่าความพยายามปิดกั้นไม่ให้พลเมืองกัมพูชาเข้าถึงพื้นที่พิพาทถือเป็นการล้ำเส้น

เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2568 เฟซบุ๊กของ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มีการโพสต์ภาพและข้อความระบุว่า ตนได้พบกับศาสตราจารย์ฌอง-มาร์ก โซเรล ที่เดินทางมายังกัมพูชา เพื่อหารือเกี่ยวกับความคืบหน้าในการยื่นข้อพิพาทเหนือพื้นที่ 4 จุด ได้แก่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควายและสามเหลี่ยมมรกต เข้าสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ)

ศาสตราจารย์คนดังกล่าว เป็นสมาชิกคนสำคัญของทีมที่ปรึกษากฎหมายและทนายความ ซึ่งช่วยให้กัมพูชาชนะคดีการตีความคำตัดสินของ ICJ กรณีปราสาทพระวิหาร ในช่วงปี 2011-2013 โดยฮุน มาเนต ระบุด้วยว่า กัมพูชามุ่งมั่นที่จะนำข้อพิพาทเรื่องพรมแดนในพื้นที่พิพาท 4 จุดไปสู่ ICJ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาและยึดตามกฎหมายระหว่างประเทศ

สำนักข่าว Khmer Times รายงานว่า ฮุน มาเนต ระบุเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ว่า การเจรจาระหว่างผู้บัญชาการทหารและการเจรจาเพื่อลดกำลังทหาร ระหว่างกัมพูชากับไทยจะเกิดได้ก็ต่อเมื่อมีการเปิดจุดผ่านแดนอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง พร้อมทั้งระบุว่าเป็นหน้าที่ของไทยที่ต้องแก้ไขสถานการณ์นี้ เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มปิดจุดผ่านแดนก่อน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ยังปฏิเสธข้อกล่าวหาของฝ่ายไทยที่ระบุว่ากัมพูชาแทรกแซงการเมืองภายในของไทยด้วย

ฮุน มาเนต โพสต์ภาพคู่กับศาสตราจารย์ฌอง-มาร์ก โซเรล โดยระบุว่าจะหารือความคืบหน้าในการยื่นข้อพิพาทเหนือพื้นที่ 4 จุดต่อศาลโลก

ฮุน มาเนต โพสต์ภาพคู่กับศาสตราจารย์ฌอง-มาร์ก โซเรล โดยระบุว่าจะหารือความคืบหน้าในการยื่นข้อพิพาทเหนือพื้นที่ 4 จุดต่อศาลโลก

ฮุน มาเนต โพสต์ภาพคู่กับศาสตราจารย์ฌอง-มาร์ก โซเรล โดยระบุว่าจะหารือความคืบหน้าในการยื่นข้อพิพาทเหนือพื้นที่ 4 จุดต่อศาลโลก

ขณะที่ Fresh News รายงานว่า ฮุน มาเนต กล่าวถึงประเด็นความขัดแย้งเรื่องพรมแดนกับไทยว่า พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควายและบริเวณสามเหลี่ยมมรกต ล้วนเป็นพื้นที่พิพาทที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข และกัมพูชาได้ยื่นเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งความพยายามใดๆ ที่จะปิดกั้นไม่ให้พลเมืองกัมพูชาเข้าถึงพื้นที่เหล่านี้ ถือเป็นการกระทำที่ล้ำเส้นและจะต้องได้รับผลตามมา

นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ระบุว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกำหนดเขตแดนและตีความแผนที่ 1:50,000 เพียงฝ่ายเดียวของไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ โดยกัมพูชายังคงยึดมั่นใน MOU 2543 รวมถึงสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1893 และ 1907 พร้อมทั้งยืนยันว่าแผนที่จะต้องปรับให้ถูกต้องตามมาตราส่วน 1:200,000 ตามที่เคยตกลงกันไว้

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกัมพูชายังระบุว่า กัมพูชายังคงรอคอยหารือกับผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจของฝ่ายไทย เพื่อเปิดจุดผ่านแดนอีกครั้งและทำให้สถานการณ์ชายแดนกลับมาสู่ภาวะปกติ พร้อมทั้งยืนยันว่าหากไทยเริ่มเปิดจุดผ่านแดนเหมือนเดิม กัมพูชาก็พร้อมกลับมาเปิดด่านภายใน 5 ชั่วโมงเช่นกัน

ด่านชายแดนระหว่างกัมพูชา-ไทย ที่เมืองปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย

ด่านชายแดนระหว่างกัมพูชา-ไทย ที่เมืองปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย

ด่านชายแดนระหว่างกัมพูชา-ไทย ที่เมืองปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย

สื่อกัมพูชาตีข่าวศาลสั่ง "แพทองธาร" หยุดปฏิบัติหน้าที่

สำนักข่าว Khmer Times รายงานข่าวศาลรัฐธรรมนูญไทยสั่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยุติการปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว หลังมีการเผยแพร่คลิปเสียงสนทนาทางโทรศัพท์ของ น.ส.แพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ก่อให้เกิดข้อถกเถียงอย่างกว้างขวางในแวดวงการเมืองและกองทัพ

รายงานข่าวระบุด้วยว่า ในคลิปเสียงที่ถูกเปิดเผยระหว่างการหารือส่วนตัวกับอดีตนายกฯ กัมพูชา น.ส.แพทองธาร กล่าวถึงแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทยว่าเป็น "ฝ่ายตรงข้าม" ซึ่งนักวิจารณ์ตีความว่าความเห็นดังกล่าวเป็นการละเมิดจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญอย่างร้ายแรง และเป็นการกระทำที่บ่อนทำลายความเป็นกลางทางทหาร

สื่อกัมพูชาอีกหลายสำนัก รวมถึง Fresh News รายงานข่าวศาลรัฐธรรมนูญไทยสั่งหยุดการปฏิบัติหน้าที่ของ น.ส.แพทองธาร เช่นกัน พร้อมทั้งระบุว่า คลิปเสียงสนทนาที่หลุดออกมา ก่อให้เกิดความโกรธแค้นภายในประเทศ และทำให้พรรคร่วมรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร มีเสียงข้างมากเบาบางลง เนื่องจากพรรคการเมืองสำคัญพรรคหนึ่งได้ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล และคาดว่าจะดำเนินการลงมติไม่ไว้วางใจในรัฐสภาในเร็วๆ นี้ ขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก

"สม รังสี" ชี้ "ฮุน เซน" ใช้ความขัดแย้งรักษาประโยชน์ตนเอง

ด้านเฟซบุ๊กของ สม รังสี แกนนำพรรคฝ่ายค้านกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์เป็นภาษาอังกฤษ ว่า ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา กำลังใช้ความขัดแย้งกับไทยเพื่อรักษาอำนาจและผลประโยชน์ของตนเอง ด้วยการสร้างศัตรูจากภายนอกขึ้นมา เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาเศรษฐกิจและอ้างเหตุผลเพื่อควบคุมความไม่พอใจที่เพิ่มมากขึ้นในหมู่ประชาชน

สม รังสี อธิบายว่า ฮุน เซน ต้องการปกป้องผลประโยชน์จากเครือข่ายอาชญากรรมชาวจีน ซึ่งกำลังถูกปราบปรามอย่างหนักจากไทย โดยเฉพาะเมื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ประกาศเดินหน้าปราบปรามอาชญากรรมข้ามพรมแดน เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้วันต่อมา ฮุน เซน ออกมากล่าวโจมตี น.ส.แพทองธารและครอบครัวด้วยถ้อยคำรุนแรงนานกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ฮุน เซนกำลังตื่นตระหนกกับผลประโยชน์ที่อาจหายไป

นอกจากนี้ สม รังสี ยังย้ำว่านี่ไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศ แต่เป็นการต่อสู้กันระหว่างผู้นำที่ฉ้อฉล กับรัฐบาลของประเทศเพื่อนบ้านที่มุ่งมั่นทำลายล้างกลุ่มอาชญากร

อ่านข่าว

"กัมพูชา" ประกาศระงับการค้าข้ามพรมแดนกับไทย

ผู้นำผู้ยิ่งใหญ่! กษัตริย์กัมพูชายกย่อง "ฮุน เซน" ปกป้องชายแดน

"ทรัมป์" ขู่ขึ้นภาษี "ญี่ปุ่น" ถ้าไม่ยอมซื้อข้าวสหรัฐฯ