ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เปิดประตูคุก Alligator Alcatraz เมื่อทรัมป์ใช้อัลลิเกเตอร์เป็นผู้คุม

ต่างประเทศ
10:37
188
เปิดประตูคุก Alligator Alcatraz เมื่อทรัมป์ใช้อัลลิเกเตอร์เป็นผู้คุม
อ่านให้ฟัง
10:10อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"Alligator Alcatraz" ศูนย์กักกันผู้อพยพแห่งใหม่ในฟลอริดา ถูกจับตาด้วยทำเลใจกลางเอเวอร์เกลดส์ที่รายล้อมด้วยอัลลิเกเตอร์และสัตว์ป่าดุร้าย กลายเป็นสัญลักษณ์นโยบายเนรเทศสุดโต่งของทรัมป์ ท่ามกลางเสียงค้านเรื่องสิทธิมนุษยชนและผลกระทบต่อระบบนิเวศ

เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2568 ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางลงพื้นที่รัฐฟลอริดา เพื่อเยี่ยมชมและร่วมพิธีเปิดศูนย์กักกันผู้อพยพชั่วคราว "Alligator Alcatraz" ตั้งอยู่ในใจกลางป่าชุ่มน้ำเอเวอร์เกลดส์ ห่างจากไมอามีประมาณ 60 กิโลเมตร โดยมีรอน เดซานทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา และ คริสตี โนม รมว.ความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ ร่วมเดินทาง

ศูนย์แห่งนี้สร้างบนพื้นที่สนามบินร้างเดด-คอลลิเออร์ ด้วยงบประมาณดำเนินการปีละ 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 14,600 ล้านบาท) และคาดว่าจะรองรับผู้ถูกกักขังได้ 1,000-5,000 คน ภายใน 8-60 วันข้างหน้า ขึ้นอยู่กับการประเมินความพร้อม

ที่มาชื่อ "Alligator Alcatraz"

ชื่อ "Alligator Alcatraz" สะท้อนถึงความตั้งใจของฝ่ายบริหารทรัมป์ ในการใช้ภูมิประเทศอันตรายของเอเวอร์เกลดส์เป็น "กำแพงธรรมชาติ" เพื่อป้องกันการหลบหนี พื้นที่นี้เต็มไปด้วยอัลลิเกเตอร์อเมริกัน (Alligator mississippiensis), งูหลามพม่า, และสัตว์ป่าดุร้ายอื่น ๆ ซึ่งทรัมป์กล่าวติดตลกว่า สัตว์ดุร้ายเหล่านี้สามารถทำหน้าที่เป็น "ผู้คุมราคาถูก" ที่ช่วยควบคุมผู้ถูกกักขัง

ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำว่า "การเนรเทศ" คือทางออกเดียวสำหรับผู้ที่อยู่ในศูนย์นี้ ซึ่งถูกระบุว่าเป็นผู้อพยพที่อันตรายที่สุด และบางคนอาจเป็นคนชั่วร้ายที่สุดในโลก การใช้ชื่อ "อัลคาทราซ" เชื่อมโยงโดยตรงกับเรือนจำอัลคาทราซในอ่าวซานฟรานซิสโก ซึ่งมีชื่อเสียงด้านความโหดร้ายและการกักขังที่เข้มงวดในอดีต

"อัลคาทราซ" มรดกแห่งความโหดร้าย

เรือนจำอัลคาทราซ หรือ "เดอะร็อก" เดิมเป็นป้อมปราการทหารในปี พ.ศ.2393 และกลายเป็นเรือนจำทหารในปี 2404 เพื่อกักขังนักโทษหลากหลายกลุ่ม รวมถึงชาวอเมริกันพื้นเมืองในปี 2477 อัลคาทราซถูกเปลี่ยนเป็นเรือนจำกลางที่มีความปลอดภัยสูงสุด ใช้กักขังอาชญากรตัวเอ้ เช่น อัล คาโปน และผู้ที่พยายามหลบหนีจากเรือนจำอื่น ด้วยสภาพแวดล้อมที่โดดเดี่ยวและการปฏิบัติที่เข้มงวด อัลคาทราซกลายเป็นสัญลักษณ์ของความโหดร้าย โดยมีบันทึกการพยายามหลบหนี 14 ครั้งจากนักโทษ 36 คน แต่มีเพียง 3 คนที่ไม่เคยถูกพบ

เรือนจำปิดตัวในปี 2506 เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะการขนส่งน้ำจืดเกือบ 1,000,000 แกลลอน/สัปดาห์ ในปี 2512 กลุ่มนักเคลื่อนไหวชาวอเมริกันพื้นเมืองยึดครองเกาะนี้เป็นเวลา 19 เดือน เพื่อประท้วงการละเมิดสนธิสัญญา สร้างหมุดหมายสำคัญในการเรียกร้องสิทธิของชนเผ่า

การตั้งชื่อศูนย์กักกันแห่งใหม่ว่า "Alligator Alcatraz" จึงเป็นการจงใจเชื่อมโยงกับมรดกแห่งความโหดร้ายและการลงโทษของอัลคาทราซ ซึ่งยิ่งตอกย้ำการวิพากษ์วิจารณ์ว่านโยบายนี้ไร้มนุษยธรรม

"อัลลิเกเตอร์" ผู้คุมธรรมชาติแห่งเอเวอร์เกลดส์

อัลลิเกเตอร์อเมริกัน เป็นสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ พบในพื้นที่ชุ่มน้ำทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะในฟลอริดา ตัวผู้สามารถยาวได้ถึง 3.6 เมตร และหนักถึง 450 กิโลกรัม พวกมันเป็นนักล่าซุ่มโจมตี ใช้การพรางตัวในน้ำเพื่อจับเหยื่อ เช่น ปลา, นก, เต่า, และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก

อัลลิเกเตอร์มีพลังกัดที่แข็งแกร่งและสามารถเปลี่ยนฟันได้ถึง 3,000 ซี่ ตลอดชีวิต แม้โดยทั่วไปไม่โจมตีมนุษย์ แต่จะป้องกันตัวหากรู้สึกถูกคุกคาม โดยเฉพาะเมื่ออยู่ใกล้แหล่งน้ำ การป้องกันที่ดีที่สุดคืออยู่ห่างจากขอบน้ำอย่างน้อย 3 เมตร และให้พื้นที่อัลลิเกเตอร์อย่างน้อย 9 เมตร

อัลลิเกเตอร์อเมริกันได้รับการยกย่องให้เป็น "ชนิดพันธุ์หลัก" (Keystone species) ในระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำ พวกมันขุดหลุมในโคลนที่เรียกว่า "หลุมอัลลิเกเตอร์" ซึ่งกักเก็บน้ำเมื่อพื้นที่ชุ่มน้ำแห้ง และเป็นที่อยู่อาศัยและแหล่งน้ำสำหรับสัตว์ชนิดอื่น ๆ มากมาย 

การใช้สัตว์ป่าเหล่านี้เป็น "กำแพงธรรมชาติ" สำหรับศูนย์กักกันถูกวิจารณ์ว่าเป็นการบิดเบือนบทบาททางนิเวศของอัลลิเกเตอร์ และเพิ่มความเสี่ยงต่อทั้งผู้ถูกกักขังและระบบนิเวศ

สัญลักษณ์ความโหดร้ายยุคใหม่ ? 

Alligator Alcatraz เผชิญการคัดค้านจากสมาชิกรัฐสภา นายกเทศมนตรีท้องถิ่น ชนเผ่าพื้นเมือง เช่น มิกโคซูกีและเซมิโนล และกลุ่มสิ่งแวดล้อม เช่น Friends of the Everglades และ Center for Biological Diversity พวกเขากังวลว่าการก่อสร้างจะทำลายระบบนิเวศเอเวอร์เกลดส์ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เช่น เสือแพนเธอร์ฟลอริดา

นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน เช่น Thomas Kennedy จาก Florida Immigrant Coalition วิจารณ์ว่าการกักขังผู้อพยพในเต็นท์ท่ามกลางความร้อนชื้น ยุง และพายุเฮอริเคน เป็น "การทารุณโดยเจตนา" กลุ่ม Amnesty International และ Human Rights Watch เรียกร้องให้ปิดศูนย์นี้ เนื่องจากสภาพที่ไม่เหมาะสมและขาดการดูแลด้านมนุษยธรรม

โครงสร้างของศูนย์ประกอบด้วยเต็นท์และรถพ่วง รั้วลวดหนาม และกล้องวงจรปิดกว่า 200 ตัว โดยได้รับเงินสนับสนุนบางส่วนจาก FEMA รอน เดซานทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ยืนยันว่าโครงสร้างชั่วคราวจะไม่กระทบสิ่งแวดล้อม แต่กลุ่มสิ่งแวดล้อมยื่นฟ้อง โดยระบุว่าโครงการนี้ขาดการประเมินผลกระทบตามกฎหมาย National Environmental Policy Act นอกจากนี้ การที่ศูนย์ตั้งอยู่ในเขตเสี่ยงพายุเฮอริเคนทำให้เกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยของผู้ถูกกักขัง

Alligator Alcatraz เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเนรเทศครั้งใหญ่ของทรัมป์ ซึ่งรวมถึงการเปิดใช้เรือนจำอัลคาทราซในซานฟรานซิสโกอีกครั้ง และส่งผู้อพยพบางส่วนไปยัง กวนตานาโม เบย์ และ เมกะคุก ในเอลซัลวาดอร์ ปัจจุบัน ICE มีผู้ถูกกักขังกว่า 59,000 คน เกินความจุร้อยละ 140 สะท้อนถึงความท้าทายในการบริหารจัดการ โฆษกทำเนียบขาวระบุว่า นโยบายนี้เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและต้นทุนต่ำในการเนรเทศหมู่ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ

10 ข้อน่ารู้เกี่ยวกับ "Alligator Alcatraz" 

  1. ชื่อที่ชวนให้ขนลุก "อัลคาทราซอัลลิเกเตอร์" ไม่ใช่แค่ชื่อเล่น แต่บ่งบอกถึงความตั้งใจที่จะใช้สัตว์ป่าอันตรายเป็น "กำแพงธรรมชาติ" ของศูนย์กักกันผู้อพยพแห่งใหม่
  2. ผู้คุม 450 ล้านดอลลาร์ ศูนย์กักกันแห่งนี้มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสูงถึง 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ /ปี แต่รัฐบาลฟลอริดากลับมองว่าอัลลิเกเตอร์เป็น "ผู้คุมราคาถูก"
  3. ชื่อ "อัลคาทราซ" ถูกนำมาใช้เพื่อเชื่อมโยงกับ "เรือนจำอัลคาทราซ" ที่อ่าวซานฟรานซิสโกในตำนาน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความโดดเดี่ยว, การลงโทษที่รุนแรง และความห่างไกล
  4. เกาะอัลคาทราซไม่เคยเป็นคุกมาก่อน ก่อนจะเป็นเรือนจำทหารในปี 2404 และเรือนจำกลางปี 2477 เกาะอัลคาทราซเคยเป็นเพียงถิ่นที่อยู่ของนกทะเลและป้อมปราการทางทหาร
  5. อัลลิเกเตอร์เปลี่ยนฟันได้ถึง 3,000 ซี่ เมื่อฟันสึกหรอหรือหลุดร่วง
  6. "หลุมอัลลิเกเตอร์" มีความสำคัญในระบบนิเวศ พวกมันขุดหลุมในโคลนที่กักเก็บน้ำไว้ในฤดูแล้ง ช่วยให้สัตว์อื่น ๆ อีกมากมายรอดชีวิต
  7. เรือนจำอัลคาทราซปิดเพราะแพง ไม่ใช่หนีรอดไม่ได้ โดยเฉพาะการขนส่งน้ำจืด
  8. ชาวพื้นเมืองเคยยึดครองอัลคาทราซในปี 2512 เกาะอัลคาทราซเคยถูกนักเคลื่อนไหวชาวอเมริกันพื้นเมืองยึดครองนานถึง 19 เดือนเพื่อเรียกร้องสิทธิและแก้ไขความอยุติธรรม
  9. ปกติอัลลิเกเตอร์ไม่ไล่ล่าคน ตอนอยู่บนบก หากพวกมันเคลื่อนที่เข้าหา มักเป็นเพราะคุณอยู่ใกล้แหล่งน้ำ หรืออยู่ใกล้เกินไปจนพวกมันรู้สึกถูกคุกคาม
  10. การหลบหนีที่แทบเป็นไปไม่ได้ แม้ว่าทรัมป์จะกล่าวติดตลกเกี่ยวกับการวิ่งซิกแซกเพื่อหนีจระเข้ แต่ความจริงคือ เอเวอร์เกลดส์คือหนองน้ำที่ร้อนชื้นเต็มไปด้วยอันตราย และการหลบหนีจากศูนย์กักกันแห่งนี้ก็แทบเป็นไปไม่ได้

แหล่งข้อมูล : NWFAmerican Indians Occupy Alcatraz IslandTrump hails new 'Alligator Alcatraz' detention centreWhy Was Alcatraz Closed?

อ่านข่าวอื่น :

จับ 10 แรงงานไทยถูกนายจ้างกัมพูชาเบี้ยวค่าแรง ปีนหลังคาข้ามแดนกลับไทย

ทรัมป์ดัน Alligator Alcatraz! มัสก์ซัดงบประมาณทำร้ายอเมริกัน