ข่าวนายอนุทิน ชาญวีรกูล เสนอตัวเป็นนายกฯ ชั่วคราว ฝ่าทางตันให้ประเทศ เป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจจากคอการเมืองไม่น้อย ด้วยเชื่อว่า สถานการณ์ปัจจุบันอาจถึงทางตัน จากกรณีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯไว้เป็นการชั่วคราว จึงต้องหาทางออก
แม้นายอนุทิน จะออกโรงปฏิเสธว่า ไม่มีเรื่องเสนอตัวเป็นนายกฯ หลายครั้ง รวมทั้งล่าสุดในการแถลงข่าวร่วมกับพรรคฝ่ายค้านที่รัฐสภา หลังจากก่อนหน้านี้ ถึงขั้นบอกว่า เป็นไอโอหรือเปล่า เพราะไม่เคยได้คุยกับนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน มีเพียงทักทายกันปกติเมื่อเจอกันในการประชุมสภา แต่ดูไม่ค่อยสอดคล้องกับ “หัวหน้าเท้ง” ที่ตอบคำถามสื่อในประเด็นนี้แบบอ้อมๆ เมื่อวันก่อน
โดยบอกว่า ข้อเท็จจริงมีคุยกันตลอด แต่ขออุบเรื่องรายละเอียดของการพูดคุย และขอยังไม่สื่อสารในตอนนี้ แม้หลังสุด จะออกมาในทำนองว่า สื่อสารผ่านสมาชิกพรรคหลังบ้าน
เป็นการเพิ่มดีกรีความสงสัย เรื่องการเสนอตัวเป็นนายกฯ ชั่วคราวของนายอนุทิน จนถูกจับจ้องและมีเสียงวิพากษ์ไม่น้อยว่า ใครพูดน่าเชื่อถือกว่ากัน และปมคำถามว่า เป็นการจ้องเช็กบิลเอาคืนพรรคเพื่อไทยหรือไม่ หลังแตกหักลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาล จากการถูกยึดคืนกระทรวงมหาดไทย
และประกาศจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้ดูเพื่อคำถูกด้อยค่า พร้อมจะยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พุ่งเป้าที่นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากพรรคประชาชน ที่แสดงจุดยืนให้นายกฯยุบสภาฯ คืนอำนาจให้ประชาชน
รวมกับการให้สัมภาษณ์สื่อของรัฐมนตรีมหาดไทยคนใหม่ นายภูมิธรรม เวชยชัย ประเด็นที่ดินเขากระโดง ที่ย้ำว่า หากพรรคภูมิใจไทยไม่ผิด ใครก็ทำอะไรไม่ได้ แม้ยืนยันไม่ใช่ความแค้นส่วนตัว เพราะนโยบายรัฐบาลที่ต้องเข้มข้นเรื่องตรวจสอบคอร์รัปชัน แต่คอการเมืองทั่วไปก็ตีความหมายนัยได้ว่า เป็นการเตรียมเอาคืนหรือไม่ และทั้ง 2 พรรค จะต้องเป็นคู่แข่งในสนามเลือกตั้ง สส.ครั้งต่อไป
ขนาดคนที่เคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากับพรรคภูมิใจไทย อย่างนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ยังโพสต์ข้อความล่าสุด ทำนองพรรคค่ายสีน้ำเงินได้เปรียบ เพราะมีข้อมูลบานเบอะจากเคยเป็นพรรคร่วมรัฐบาล อยู่ที่จะเอามาใช้ถูกที่ถูกเวลาหรือไม่ ? รัฐบาลตอนนี้เป็น “เผือกหวาน” แค่ผลักเบาๆ ก็ล้มแล้ว
สถานการณ์ขี่คอกันเห็นๆ แบบนี้ มีหรือคนพรรคภูมิใจไทย รวมทั้งคนเก๋าเกมอย่าง “ครูใหญ่”ของพรรคจะดูไม่ออก แค่การชิงถอนตัวจากรัฐบาลก่อนคลิปเสียงจะถูกเผยแพร่ ถือเป็นการเดินหมากการเมืองที่ชาญฉลาด และเป็นการแก้ลำพรรคเพื่อไทยและ “นายใหญ่” อยู่ในทีอยู่แล้ว
การประสานพูดคุยกับพรรคประชาชน ในทางการเมืองจึงไม่ใช่เรื่องแปลก นับตั้งแต่นายอนุทินไปออกรายการทีวีของพิธีกรชื่อดัง ส่งสัญญาณทอดไมตรีไปยังพรรคสีส้ม เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม
แต่เผอิญว่า พรรคประชาชนได้ประกาศจุดยืนก่อนหน้านั้นว่า จะไม่เข้าร่วมรัฐบาลในสภาชุดนี้ ทำให้รัฐบาลข้ามขั้วยังเกิดขึ้นไม่ได้ นอกจากนี้ เรื่องเสนอตัวเป็นนายกฯชั่วคราว ยังถูกบอกปัดจากนายณัฐพงษ์ ที่ยกเหตุผลการเมืองยังไม่ถึงมาตัน ผู้รักษาการแทนนายกฯ สามารถยุบสภาฯ ได้
หรือหากจะให้พรรคช่วยโหวตเลือกนายกฯ คนใหม่ ต้องไปเป็นไปตามเงื่อนไขหลัก 2 ข้อของพรรค คือต้องเป็นนายกฯชั่วคราวเพื่อทำหน้าที่ยุบสภา และต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย
ถือเป็นเงื่อนไขสูงที่พรรคการเมืองยอมรับได้ยาก และแคนดิเดตนายกฯ ก็แทบไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ข่าวเรื่องนายกฯ ชั่วคราว จึงถูกปฏิเสธว่า ไม่มีจริงหลายครั้งจากนายอนุทิน ขณะที่นายชัยเกษม นิติสิริ อีกหนึ่งแคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทย ที่เปิดตัวต่อสาธารณะออกงานเมื่อวันพุธ (2 ก.ค.) แม้เปิดใจพร้อมรับตำแหน่งนายกฯโดยไม่มีเงื่อนไข แต่จะมีปัญหาเรื่องสุขภาพ
เรื่อง “นายกฯ ชั่วคราว” จึงเท่ากับปิดประตูลั่นดานไว้แล้ว เว้นแต่จะมีอะไรเปลี่ยนแปลง
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : ครม.นัดพิเศษเห็นชอบ "ภูมิธรรม" รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี
"ในหลวง-พระราชินี" พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ครม.ใหม่เฝ้าฯ ถวายสัตย์