วันที่ 5 ก.ค.2568 เวลา 17.15 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิน โดยเครื่องบินพระที่นั่งถึงท่าอากาศยานทหาร กองบิน 21 อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี


แล้วประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนตำบลหนองสามสี อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ


เวลา 18.32 น. ประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินถึง วัดเกาะแก้ว ต.หนองสามสี อ.เสนางคนิคม ทรงเปิดอุโบสถกลางน้ำ “ทศมราชบพิตรปุณฑริกาคารสีมา” ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามอุโบสถกลางน้ำ แปลว่า อุโบสถอันเป็นเขตสังฆกรรมรูปทรงดุจดอกบัวบุณทริก ประจำรัชกาลที่ 10


สร้างขึ้นเพื่อทดแทนอุโบสถหลังเดิมที่สร้างตั้งแต่ปี 2496 จนถึงปัจจุบันมีสภาพทรุดโทรมตามกาลเวลาโดยอุโบสถก่อสร้างแบบโบราณ ไม่มีการตอกเสาเข็ม หรือวางฐานรากที่มั่นคงจึงเกิดการทรุดตัวและหลังคาอุโบสถรั่ว ไม่สามารถป้องกันน้ำฝนได้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ทำให้การประกอบศาสนกิจและการทำสังฆกรรมของพระสงฆ์เกิดความลำบาก


อีกทั้ง กรมศิลปากรจะดำเนินการขึ้นทะเบียนอุโบสถหลังเก่านี้ เป็นโบราณสถานของชาติ วัดเกาะแก้ว จึงเห็นควรให้สร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้น โดยคณะสงฆ์และประชาชนได้อาราธนาพระราชญาณวัชรชิโนภา เมตตามาเป็นหลักในการดำเนินการก่อสร้าง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

ตลอดจนเป็นศาสนสมบัติด้านถาวรวัตถุในบวรพระพุทธศาสนา เป็นสถานที่ใช้ในการปฏิบัติศาสนกิจของคณะสงฆ์ รวมทั้งเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนในชุมชน อันจะนำไปสู่ความสามัคคี และเพื่อถ่ายทอดความรู้หลักคำสอนเรื่อง ไสัมมาทิฏฐิ ผ่านสถาปัตยกรรมอุโบสถ เป็นสถาปัตยกรรมรูปแบบใหม่ที่ยั่งยืน สร้างเป็นรูปทรงดอกบัวมีน้ำเป็นสีมา เรียกว่า “อุทกุกเขปสีมา” ซึ่งถือเป็นนิมิตธรรมชาติอันบริสุทธิ์ การก่อสร้างจึงไม่มีการฝังลูกนิมิต และผูกพัทธสีมา

เริ่มดำเนินการก่อสร้างเดือนธันวาคม 2566 แล้วเสร็จเดือนมีนาคม 2568 โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานระบบอุปกรณ์แปลงพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของวัด

โอกาสนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการหลักปฏิบัติธรรมนาวา “วัง” 7 ขั้นตอน ประกอบด้วย ยาเม็ดที่ 1 และ 2 เป็นการท่องพระรัตนตรัยและการทักอารมณ์ ยาเม็ดที่ 3 และ 4 ท่องธาตุกรรมฐานและพิจารณากายโดยให้จิตเห็นความจริงของกายสู่ความเป็นธาตุ

ส่วนยาเม็ดที่ 6 และ 7 คือ การท่องขันธ์ 5 พิจารณาอารมณ์ลงสู่ความเป็นขันธ์ 5 จนจิตเข้าใจความจริงของจิตเอง และเข้าสู่หลักอริยสัจ 4 อันเป็นที่สุดแห่งการดับทุกข์อย่างสิ้นเชิง

วัดเกาะแก้ว เดิมชื่อว่า วัดเกาะแก้วศรีวิไล สร้างขึ้นเมื่อปี 2476 โดยการนำของนายเภา บัวภาเรือง และชาวบ้านหนองสามขา เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับประกอบศาสนกิจของคณะสงฆ์ และทำกิจกรรมทางพุทธศาสนาและกิจกรรมของชุมชน รวมถึง เพื่อเป็นสถานศึกษาเล่าเรียนของคนในชุมชน โดยได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา

หในปี 2493 เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย วัดมีความรุ่งเรืองทางพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก มีการเปิดเป็นโรงเรียนสอนพระปริยัติธรรมและแผนกบาลี มีพระภิกษุเข้ามาศึกษาเป็นจำนวนมาก ปัจจุบัน มีพระอธิการโจม ขนฺติโก เป็นเจ้าอาวาส มีพระสงฆ์ จำพรรษา 6 รูป

เวลา 20.06 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีเสด็จพระราชดำเนินไปยัง วัดป่านาโสกฮัง อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ ในการถวายพระพุทธนวราชบพิตร แด่ พระราชญาณวัชรชิโนภาส (ทวีวัฒน์ จารุวณฺโณ)

พระพุทธนวราชบพิตร เป็นพระพุทธรูปที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำริสร้างขึ้นเมื่อปี 2508 เพื่อเป็นพระพุทธรูปประจำจังหวัด ประดิษฐาน ณ ศาลากลางจังหวัดของทุกจังหวัด


พุทธลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 23 ซม. สูง 40 ซม. ที่บัวฐานด้านหน้าบรรจุพระพิมพ์ พระสมเด็จจิตรลดาไว้อีกองค์หนึ่ง ซึ่งพระพุทธนวราชบพิตร ถือเป็นนิมิตหมายแห่งคุณพระรัตนตรัย อันเป็นที่เคารพสูงสุดแล้ว ยังเป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของประเทศไทย และความสามัคคีกลมเกลียวกันของประชาชนชาวไทย
โอกาสนี้ พระราชญาณวัชรชิโนภาส พร้อมด้วยคณะสงฆ์ และประชาชน ประกาศพระปริตรถวายพระพร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี


วัดป่านาโสกฮัง ตั้งขึ้นเมื่อปี 2559 โดยพุทธศาสนิกชนเกิดจิตเลื่อมใสจากการฟังพระธรรมเทศนาของพระราชญาณวัชรชิโนภาส จึงมอบที่ดินเพื่อสร้างขึ้นเป็นสถานที่ศึกษาธรรม มีพุทธศาสนิกชนเดินทางมาศึกษาธรรมอย่างต่อเนื่อง และนำไปประพฤติปฏิบัติจนเห็นประโยชน์และเข้าใจในแนวทางการดำเนินชีวิตตามหลักธรรมคำสอน ปัจจุบันมีพระราชญาณวัชรชิโนภาส (ทวีวัฒน์ จารุวณฺโณ) เป็นประธานสงฆ์ พระสงฆ์จำพรรษา 10 รูป
สมควรแก่เวลา จึงเสด็จพระราชดำเนินไปประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 21 จ.อุบลราชธานี เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร