เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2025 CNN รายงาน นายกฯเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ได้เดินทางเยือนทำเนียบขาวเพื่อร่วมรับประทานอาหารค่ำ การมาเยือนครั้งนี้ เนทันยาฮูไม่ได้มามือเปล่า แต่ได้นำ "ของขวัญต้อนรับ" ที่สำคัญที่สุดสำหรับ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ นั่นคือ จดหมายเสนอชื่อทรัมป์ชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ การกระทำนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของเนทันยาฮูในการ "เอาใจ" และเชิดชูความสามารถในการสร้างสันติภาพของทรัมป์
รางวัลโนเบลได้กลายเป็นสิ่งที่ทรัมป์หมกมุ่นอย่างยิ่ง ปธน.สหรัฐฯ มองว่าตนเองสมควรได้รับรางวัลนี้จากการที่พยายามยุติความขัดแย้งทั่วโลก รวมถึงสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ทรัมป์กล่าวในระหว่างงานเลี้ยงว่า กำลังหยุดสงคราม
ผมกำลังหยุดสงคราม และผมเกลียดการเห็นผู้คนถูกฆ่า
การได้รับการเสนอชื่อจากเนทันยาฮูโดยเฉพาะนี้ มีความหมายอย่างมากสำหรับทรัมป์ ข้อตกลงที่ยุติสงครามในกาซาจะเป็นอีกหนึ่งข้อมูลสำคัญในการผลักดันเป้าหมายของเขาที่จะคว้ารางวัลโนเบล และเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอันยากยิ่งในการสร้างสันติภาพในตะวันออกกลางให้เป็นมรดกทางการเมืองของเขา
การแก้ไขความขัดแย้งที่ดำเนินมา 21 เดือนในกาซาอย่างยั่งยืนนั้น ขึ้นอยู่กับความเต็มใจของเนทันยาฮูที่จะยอมรับข้อตกลงที่ยุติการสู้รบอย่างสมบูรณ์ แม้ว่ายังคงมีการสรุปรายละเอียดของข้อตกลงหยุดยิง แต่ดูเหมือนว่าขณะนี้มีแรงผลักดันใหม่ไปสู่ข้อตกลง โดยผู้เจรจาจากอิสราเอลและฮามาสกำลังทำงานอย่างหนักในกาตาร์ เพื่อกำหนดรายละเอียดของการพักรบ 60 วัน
ข้อตกลงนี้จะรวมถึงการทยอยปล่อยตัวประกันและการอนุญาตให้ความช่วยเหลือใหม่ไหลเข้าสู่พื้นที่ที่ถูกปิดล้อม ทรัมป์ยังกล่าวถึงการเจรจาที่ดำเนินอยู่ว่า พวกเขาต้องการพบปะและต้องการมีการหยุดยิง ข้อเสนอจากกาตาร์เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้วได้รับความเห็นชอบจากอิสราเอลอย่างรวดเร็ว แม้ฮามาสจะตอบรับเชิงบวกแต่ขอปรับเปลี่ยนบางส่วน ซึ่งอิสราเอลมองว่ายอมรับไม่ได้ แต่อิสราเอลก็ยังประกาศส่งทีมเข้าร่วมการเจรจาแบบใกล้ชิด ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนข้อตกลงสุดท้าย
ไมเคิล โอเรน อดีตเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหรัฐอเมริกา ชี้ว่าทั้งทรัมป์และเนทันยาฮูต่างมีสถานะที่แข็งแกร่งขึ้นหลังชัยชนะเหนืออิหร่าน ทำให้ผู้นำทั้งสองสามารถแสดงความยืดหยุ่นได้มากขึ้น และชัดเจนว่าทรัมป์ต้องการให้ข้อตกลงนี้เกิดขึ้น
ทรัมป์กดดันผ่านการให้ "สิ่งจูงใจ" แก่เนทันยาฮู
ทรัมป์มองว่าเนทันยาฮูเป็นพันธมิตรที่สำคัญอย่างยิ่งในการบรรลุเป้าหมาย แม้เขาจะแสดงท่าทีสนับสนุน เช่น การเชิญร่วมดินเนอร์ และเข้าร่วมสงครามของอิสราเอลต่ออิหร่าน แต่ทรัมป์ก็กำลังกดดัน นายกฯ อิสราเอล ให้ทำบางสิ่งเพื่อเขา นั่นคือ ยุติสงครามในกาซา ไมเคิล โอเรน ชี้ว่าประธานาธิบดีสามารถใช้แรงกดดันกับนายกรัฐมนตรีได้ แต่ก็สามารถให้สิ่งจูงใจได้เช่นกัน หนึ่งในนั้นคือการคงทางเลือกทางการทหารต่ออิหร่านไว้ หากอิหร่านพยายามสร้างโรงงานนิวเคลียร์ที่ถูกทำลายขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่อิสราเอลต้องการ
สำหรับทรัมป์ การยุติสงครามในกาซาอาจเป็นก้าวสำคัญสู่เป้าหมายที่ใหญ่กว่าในภูมิภาค นั่นคือ "รางวัลใหญ่ที่สุด" การทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างซาอุดีอาระเบียและอิสราเอลเป็นปกติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงอับราฮัมที่ทรัมป์เป็นคนไกล่เกลี่ยในสมัยแรกของเขา
ผู้นำซาอุดีอาระเบีย รวมถึงมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ได้กล่าวว่าการทำให้ความสัมพันธ์เป็นปกติไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในขณะที่สงครามในกาซายังคงดำเนินอยู่ ทำให้ข้อตกลงหยุดยิงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความทะเยอทะยานที่กว้างขึ้นของทรัมป์ เนทันยาฮูเองก็เชื่อว่าสันติภาพระดับภูมิภาคที่กว้างขึ้นนั้นเป็นไปได้ภายใต้การนำของทรัมป์

อนาคตของกาซา "ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง"
อีกประเด็นที่สำคัญต่อเป้าหมายทางสันติภาพของทรัมป์คือ การหารือเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในกาซาหลังสงครามสิ้นสุดลง อิสราเอลยืนกรานว่ากลุ่มฮามาสไม่สามารถปกครองพื้นที่นั้นได้ หนึ่งในทางเลือกที่พูดถึงน้อยแต่ทรัมป์เคยเสนอคือ การเข้าควบคุมกาซา ย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ และพัฒนาพื้นที่ให้เป็น "ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง"
แผนนี้เคยสร้างความไม่พอใจเมื่อทรัมป์เสนอเป็นครั้งแรกในเดือน ก.พ. แต่โดยส่วนใหญ่แล้วแผนนี้ได้ถูกระงับไปจากการหารือสาธารณะเกี่ยวกับแผนตะวันออกกลางของประธานาธิบดี เมื่อถูกถามถึงแผนย้ายถิ่นฐานนี้ ทรัมป์กล่าวว่าคำถามนี้เนทันยาฮูจะตอบได้ดีกว่า โดยเนทันยาฮูตอบว่า เขาคิดว่า ปธน.ทรัมป์ มีวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยม มันเรียกว่าอิสระในการเลือก และเสริมว่าถ้าผู้คนอยากอยู่ก็อยู่ได้ แต่ถ้าอยากไปก็ควรจะไปได้ ไม่ควรเป็นคุก
อ่านข่าวอื่น :
"ภูมิธรรม" มั่นใจถอนร่างกาสิโนราบรื่น เมินโดนตลบหลัง
"ณัฐพงษ์" วอนสภาฯ รับหลักการร่างนิรโทษฯทั้ง 4 ฉบับ