ผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกนาทีชุลมุน หลังอิสราเอลโจมตีทางอากาศใส่กลุ่มคนที่กำลังรอเติมน้ำในค่ายผู้ลี้ภัยนูเซรัต ทางตอนกลางของกาซา
พยานในเหตุการณ์ เล่าว่า โดรนลำหนึ่งยิงขีปนาวุธใส่กลุ่มคนที่ยืนถือภาชนะ ต่อแถวรอเติมน้ำอยู่ใกล้แทงก์น้ำแห่งหนึ่งในค่าย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 6 คน และมีผู้บาดเจ็บอีก 16 คน เป็นเด็ก 7 คน
ด้านกองทัพอิสราเอล ยอมรับว่า เกิดความผิดพลาดทางเทคนิคในการโจมตีทางอากาศโดยมีเป้าหมายที่ผู้ก่อการร้ายของกลุ่มอิสลามิก จีฮัด ทำให้กระสุนพลาดเป้าไปหลายสิบเมตร และกำลังตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งทราบว่ามีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในพื้นที่ พร้อมเสริมว่ากองทัพอิสราเอล ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดอันตรายต่อพลเรือนให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเสียใจต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับพลเรือนที่เกี่ยวข้อง
เหตุโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 13 ก.ค.2568 ตามเวลาท้องถิ่น และเกิดขึ้นขณะที่อิสราเอลยกระดับการโจมตีทางอากาศทั่วกาซา โดยโฆษกสำนักงานป้องกันพลเรือนกาซา ระบุว่า วานนี้ (13 ก.ค.) มีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของกองทัพอิสราเอล กว่า 40 คน
ขณะที่คณะกรรมการกาชาดสากล (ICRC) เปิดเผยว่า ได้รักษาผู้บาดเจ็บจากอาวุธกว่า 3,400 คน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 250 คน นับตั้งแต่อิสราเอลเปิดจุดแจกจ่ายเสบียงอาหารใหม่เมื่อวันที่ 27 พ.ค. โดยตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าการรักษาในช่วง 1 ปีก่อนหน้านั้น
สำหรับปัญหาขาดแคลนน้ำในกาซาทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังขาดแคลนเชื้อเพลิง ทำให้โรงงานกรองน้ำทะเลและระบบสุขาภิบาลต้องปิดตัวลง ซึ่งประชาชนต้องนำภาชนะไปรอรับน้ำตามจุดแจกน้ำ
ยูเอ็นเตือนกาซาขาดแคลนเชื้อเพลิงระดับวิกฤต
ด้านหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ 9 แห่ง เตือนว่า การขาดแคลนเชื้อเพลิงในกาซารุนแรงถึงระดับวิกฤตแล้ว และหากเชื้อเพลิงหมดจะส่งผลกระทบต่อโรงพยาบาล ระบบน้ำ ระบบสุขาภิบาล และร้านขนมปัง โดยเปิดเผยว่า เกิดไฟฟ้าดับในโรงพยาบาลหลายแห่ง ไม่สามารถใช้งานห้องคลอด ห้องทารก และห้องไอซียู เช่นเดียวกับรถพยาบาลที่หยุดวิ่งให้บริการ
ส่วนชาวประมงในกาซาแสดงความกังวล หลังจากเมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา กองทัพอิสราเอลออกคำเตือนใหม่ เรื่องห้ามจับปลาทั้งหมดในน่านน้ำแถบกาซา โดยระบุว่า คำเตือนใหม่นี้เป็นสัญญาณว่าวิกฤตความหิวโหยในกาซาจะทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากสงครามจำนวนมากต้องพึ่งพาปลาที่จับได้เป็นหลัก
เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา องค์กรที่ติดตามสถานการณ์วิกฤตความหิวโหย เปิดเผยว่า ประชาชนราว 500,000 คน ในกาซาเผชิญความอดอยาก และเขตกาซายังเผชิญความเสี่ยงสูงที่จะเกิดความอดอยากครั้งใหญ่ และมีโอกาสที่จะเกิดวิกฤตดังกล่าวภายในสิ้นเดือน ก.ย.
เจรจาหยุดยิงกาซาส่อแววล่ม ปมถอนกำลังไม่ตรงกัน
ขณะที่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการรายงานข่าวอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์และอิสราเอลที่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการเจรจาข้อตกลงหยุดยิง ระบุว่า การเจรจาหยุดยิงในกาซาระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสส่อแววล่มอีกครั้ง เนื่องจากทั้งสองฝ่ายมีความคิดเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับขอบเขตการถอนกำลังของอิสราเอลออกจากเขตกาซา
กลุ่มฮามาสปฏิเสธแผนที่การถอนกำลังที่อิสราเอลเสนอ ซึ่งจะทำให้พื้นที่ประมาณร้อยละ 40 ของกาซาอยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอล ขณะที่แหล่งข่าวฝั่งอิสราเอลสองราย เปิดเผยว่า กลุ่มฮามาสต้องการให้อิสราเอลถอยกลับไปอยู่ในแนวที่เคยยึดครองไว้ในการหยุดยิงครั้งก่อน ก่อนที่จะกลับมาเปิดฉากโจมตีอีกครั้งในเดือน มี.ค.
นอกจากนี้ อิสราเอลกับฮามาส ยังเห็นไม่ตรงกันในเรื่องของการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่กาซา โดยกลุ่มฮามาสยืนกรานว่าต้องมีการจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่พื้นที่ขัดแย้ง และต้องแจกจ่ายผ่านหน่วยงานของสหประชาชาติและองค์กรบรรเทาทุกข์ระหว่างประเทศ สวนทางกับอิสราเอลที่ผลักดันให้มีการจัดส่งความช่วยเหลือผ่านองค์กรที่ได้รับการสนับสนุนจากอิสราเอลและสหรัฐฯ แทน
การเจรจาหยุดยิงรอบล่าสุดระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ออกมาร้องขอให้กลุ่มฮามาสตอบรับข้อตกลงดังกล่าวเพื่อยุติความขัดแย้งในกาซา
ขณะที่ข้อมูลจากกระทรวงสาธาณสุขของกลุ่มฮามาส ชี้ว่านับตั้งแต่สงครามปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2566 มีชาวปาเลสไตน์ในกาซาเสียชีวิตแล้วมากกว่า 58,000 คน และจนปัจจุบันเชื่อว่ายังมีตัวประกันชาวอิสราเอลหลงเหลืออยู่ในกาซาประมาณ 50 คน ในจำนวนดังกล่าวน่าจะยังมีชีวิตอยู่อย่างน้อย 20 คน
อ่านข่าว : "สเปน" เตือนภัยสูงสุด เผชิญน้ำท่วมฉับพลันจากฝนตกหนัก
ผลสอบเครื่องบิน "แอร์อินเดีย" ตก พบเชื้อเพลิงเครื่องยนต์ถูกตัด
แท็กที่เกี่ยวข้อง: